สรุปประเด็นร้อน รีสอร์ต จ.ชลบุรี แฉพฤติกรรมคณะครู ขนของห้องอื่นมาใช้ทั้งที่ไม่ได้จ่ายค่าเข้าพัก พอถูกจับได้ กลับไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหาย ล่าสุดยอมรับผิด เตรียมเข้ามาขอโทษอย่างจริงใจ

เรียกได้ว่ากลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ เมื่อเพจเฟซบุ๊กของรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ใน จ.ชลบุรี ได้โพสต์เล่าถึงพฤติกรรมของคณะครูของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ระบุข้อความว่า ทางเรามีเคสเป็นกรณีศึกษา หรือเป็นอุทาหรณ์แก่เจ้าของกิจการ คืนที่ผ่านมามีลูกค้าเป็นกลุ่มคณะครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้ทำการจองห้องกับทางเราไว้ เป็นห้องสำหรับ 10 ท่าน 1 ห้อง เเละห้องสำหรับ 2 ท่าน 1 ห้อง

เมื่อเข้ามาถึง ลูกค้าได้ทำการขอยกเลิกห้องสำหรับ 10 ท่าน เเละเปลี่ยนเป็นห้องสำหรับ 2 ท่านเพิ่มอีก 3 ห้อง โดยไม่ได้คืนกุญแจห้องสำหรับ 10 ท่านมาให้แก่ทางเรา เป็นความผิดของทางเราเอง ที่ไม่ได้เร่งรัดติดตามนำกุญแจคืน

เเต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่อยากเชื่อเลยว่า กลุ่มคนที่กำลังให้การศึกษาของลูกหลานของใครกลุ่มหนึ่ง ได้ทำการยกฟูกเตียงจากห้องสำหรับ 10 ท่าน ไปใช้เป็นเตียงเสริม ในห้อง 2 ท่าน และพบผ้าเช็ดตัวถูกใช้ 5 ผืน และหายไปอีก 5 ผืน ข้าวของเครื่องใช้ในห้อง ที่คนกลุ่มนั้นยกเลิกไปแล้ว ก็นำไปใช้ทั้งหมดโดยไม่ได้ขออนุญาตจากทางรีสอร์ต โดยให้เหตุผลว่า "ก็เห็นห้องเปิดอยู่ เลยคิดว่าเอามาใช้ได้" เป็นการตั้งใจขนย้ายทรัพย์สินโดยพลการ ไม่มีการเเจ้งทราบ และบุกรุกสถานที่ของทางเรา

...

ทางเราได้ทราบเรื่อง หลังจากที่คุณครูกลุ่มนี้ได้ออกไปแล้ว เเละทางพนักงานของเราก็ได้คืนมัดจำกุญแจทั้งหมดไปโดยไม่ได้เช็กห้อง เนื่องจากเช็กเอาต์ตอนเช้าตรู่ มีพนักงานสแตนบายเพียง 1 คน กำลังทำอาหารเช้า จึงไม่ได้ทำการตรวจสอบห้องพักก่อนลูกค้าออกไป

ทางเรามาทราบตอนหากุญแจห้องไม่เจอ และไม่ได้มีลูกค้าเข้าห้องนั้นต่อ จึงเข้าไปตรวจสอบ เเละเจอห้องเเบบที่เล่าให้ทุกท่านรับรู้ เมื่อเห็นดังนั้นจึงโทร. ไปหาลูกค้ากลุ่มนั้นทันที เพื่อต้องการทราบความจริง ซึ่งทางนั้นยอมรับเเต่ไม่ขอรับผิดชอบใดๆ บอกกับทางเราว่า "แฟร์ๆ หน่อยสิคะ ทางเราเอามาใช้ก็จริง เเต่มาทำอย่างนี้ มาบอกว่าเราทำอันนู้นหายอันนี้หาย ทำไมไม่เช็กตั้งเเต่เราออกจากห้อง เเล้วอย่างนี้จะมาบอกว่าเป็นความผิดของทางเรา ที่เราเอาเตียงไปใช้ เราจะขอจ่ายเเค่ค่าเตียงที่เราเอาไปใช้อย่างเดียว"

ทางเราขอคิดค่าห้องเต็มจำนวน เนื่องจากลูกค้าใช้ห้องของเราอย่างเต็มที่ โดยไม่คิดค่าผ้าขนหนูค่ากุญแจที่หายไป เพราะทางเราผิดเองที่ไม่ได้เข้าไปเช็กห้อง คิดเพียงค่าห้องที่ลูกค้ามาใช้ห้องโดยพลการ ซึ่งลูกค้าก็ยอมรับในส่วนนั้นว่าทำจริง เเต่ไม่ขอรับผิดชอบใดๆ

หวังว่าเรื่องนี้จะช่วยให้ผู้ปกครองที่ส่งลูกเรียนกับคนกลุ่มนี้ได้คิดอีกสักนิดว่าจะส่งลูกหลานไปเรียนโรงเรียนที่คุณครูทำสิ่งที่ไม่ดีกับผู้อื่น เเต่ไม่คิดรับผิดชอบจริงๆ ไหม เเละขอลงเป็นอุทาหรณ์แก่ผู้ประกอบการท่านอื่นๆ ให้ทำการเทรนด์พนักงาน เเละเคร่งครัดกับการตรวจสอบห้องพักก่อนลูกค้าออกไปด้วยความจริงจังกันด้วย

หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของคณะครูกลุ่มดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่อมาทางเพจเฟซบุ๊กเจ้าของรีสอร์ต ก็ได้ลบโพสต์ข้อความดังกล่าวออกแล้ว

คู่กรณีทราบเรื่อง พร้อมชดใช้ค่าเสียหาย และเตรียมมาขอโทษด้วยตัวเอง

ต่อมาทางเแฟนเพจเฟซบุ๊กรีสอร์ตดังกล่าว ก็ได้โพสต์ข้อความอัปเดตเพิ่มเติมว่า ทางนั้นทราบเรื่องเเล้ว เเละได้มีการโทร. มาขอชดใช้ค่าเสียหาย พร้อมกับจะเข้ามาขอโทษด้วยตัวเองกับทางเราเเล้ว ต้องขอขอบคุณทางลูกค้ากลุ่มนั้นด้วย ที่ได้เข้ามาเเสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่กระทำลงไป ตอนที่เราเเจ้งเรื่อง เราอยู่กับความรู้สึกที่ไม่ทราบด้วยซ้ำ ว่าจะได้รับค่าเสียหายหรือไม่ เเละทางเรารอให้โอกาส

การทำความผิด หากตั้งใจรับผิดชอบตั้งเเต่ครั้งเเรก ทางเราก็พร้อมที่จะให้อภัยเสมออยู่เเล้ว เพียงเเค่ชดใช้ค่าเสียหาย เเละรับผิดชอบเพียงเท่านั้น ทางเราได้เเจ้งขอทำตามกฎหมายก็เเล้ว ขอความเห็นใจก็เเล้ว ชี้เเจงการกระทำก็เเล้ว รอการเเสดงความรับผิดชอบก็เเล้ว

เเต่ก็ขอขอบคุณมาก ที่ท้ายที่สุดก็ออกมาเเสดงความรับผิดชอบให้กับทางเรา ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามเเละให้ความรักกับทางรีสอร์ตเสมอ หลังจากทางนั้นได้เข้ามาทำการขอโทษด้วยตัวเองเเล้ว แอดมินจะลบโพสต์ต้นเรื่องออก เเต่ก็อยากหลงเหลือข้อความนี้ไว้เพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่ ผู้ให้บริการ รวมถึง ผู้ใช้บริการด้วย อย่านำสิ่งที่ไม่ใช่ของตนมาใช้โดยไม่ได้เเจ้งให้ทราบเลยค่ะ ขอขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้งนะคะ

ฝากเป็น "อุทาหรณ์" ถึงเจ้าของรีสอร์ตคนอื่น

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านนาย รีสอร์ทพบกับเจ้าของรีสอร์ต นางสาวเกตุแก้ว ไทยเหียม อายุ 26 ปี ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูห้องพักใหญ่ที่รองรับขนาด 10 คน และห้องพักขนาด 2 คน ที่เป็นประเด็น พร้อมเปิดเผยว่า เมื่อวันก่อนมีคณะครูติดต่อผ่านแอดมินเพจ จองห้องพักใหญ่ 10 คน 1 ห้องในราคา 4,500 บาท และห้อง 2 คน 1 ห้อง ในราคา 1,200 บาท

พอมาถึงรีสอร์ต ทางคณะครูได้มีการยกเลิกห้องใหญ่ ไปแล้วมาเพิ่มห้อง 1,200 อีก 3 ห้อง เป็น 4 ห้อง แต่ไม่มีการเอากุญแจมาคืน จนกระทั่งตอนเช้ามีการเช็กเอาต์ออก ทางพนักงานไปตรวจห้องแล้วพบว่ากลุ่มคณะครูได้แอบเอาฟูกจากห้องใหญ่และของใช้อีกหลายรายการไปใช้โดยไม่ขออนุญาตและมีของหายไปหลายรายการ ตนจึงได้ออกมาโพสต์ลงเฟซบุ๊ก เพื่อเตือนเป็นอุทาหรณ์เท่านั้น

แต่ทางครูก็มีติดต่อมาทางเพจว่าจะชดใช้ แต่พอให้โอน ก็ตอบมาว่า "ไม่โอน" สั้นๆ และให้เพจลบภาพและข้อความออก ตนจึงบอกว่าถ้ายังไม่รู้เรื่องรีสอร์ตก็จะไม่ลบให้ เพราะไม่ได้เอ่ยว่าของที่หายใครขโมยไป

จากนั้นทางคณะครูได้ติดต่อมาทางโทรศัพท์อีกครั้ง ในเช้าวันนี้ 26 เมษายน ว่าจะขอชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งหมด พร้อมกับยืนยันว่าไม่ได้ขโมยของไปจริงๆ และขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทางรีสอร์ตก็โอเคกับการขอโทษ และชดใช้ในส่วนนี้ให้

แต่ทางรีสอร์ตก็อยากจะขอเตือนภัยถึงผู้ประกอบการรีสอร์ต หรือเจ้าของห้องพัก ว่าการจะตรวจเช็กของนั้น ควรตรวจสอบเมื่อลูกค้าเรียกเช็กเอาต์ เพราะจะได้ตรวจเช็กสิ่งของว่าอยู่ครบไหม ถ้ามีของหาย หรือไม่ครบจะได้ทักท้วงได้ทันท่วงที

อย่างกรณีเคสของทางรีสอร์ต ไม่ใช่เรื่องประเด็นของหาย หรือใครขโมยไป แต่ที่ทางรีสอร์ตอยากออกมาเตือนเรื่องการเอาของไปใช้โดยไม่แจ้งแค่นั้น จะเอาของอะไรไปใช้ต้องแจ้งก่อน จะได้ไม่มีปัญหากัน เพราะถ้าแจ้งทางรีสอร์ตก็ไม่ได้ว่าอะไรอยู่แล้ว ตามมารยาททางสังคม คือต้องแจ้งให้รับรู้.