ขอร้องทั้งน้ำตา หนุ่มทำงานหนักเผลอวูบหลับขณะขับรถ เกิดอุบัติเหตุจนสลบ ตื่นพบถุงเงินของบริษัทหายเกลี้ยง ครอบครัวสงสารจับใจ วอนคนที่หยิบไปช่วยเอามาส่งคืน
วันที่ 16 มกราคม 2566 จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nam Chanthon โพสต์ภาพรถเก๋งสีขาวประสบอุบัติเหตุ ฝั่งขวามือด้านคนขับ มีรอยฉีกขาดจากกันชนจนประตูหลุดกระเด็นออกจากรถพร้อมข้อความระบุว่า "เห็นแต่ในหนังในละคร ไม่คิดว่าจะเจอในชีวิตจริง เกิดอุบัติเหตุยังไม่พอ ทั้งคนก็เจ็บ ทั้งรถก็พัง และเงินสดอยู่ในรถหายไปหมด ช่วยเห็นใจกันหน่อยค่ะ นำกลับมาคืนด้วยค่ะ ทางเราเดือดร้อนจริงๆ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2566 เวลา 09.30 น. เหตุเกิดที่ถนนเส้นรอบเมือง ทางเข้าบ้านดอนส้มโฮง ต.หนองภัยศูนย์ อ.จังหวัดหนองบัวลำภู"
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไป ต.โพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู พบ น.ส.น้ำค้าง จันทร อายุ 24 ปี และแฟนหนุ่ม นายนพเดช แสนพินิจ เผยว่าตนและแฟนเป็นผู้จัดการบริษัทขนส่งเอกชนแหงหนึ่งในหนองบัวลำภู วันเกิดเหตุนายนพเดช ขับรถเก๋ง ยี่ห้อ Mazda สีขาวเลขทะเบียน กท 3028 จังหวัดเลย ประสบอุบัติเหตุชนเกาะกลางถนน บริเวณเส้นทางรอบเมืองจนสลบ ต่อมามีคนมาพบและโทร.แจ้ง 191 และกู้ภัยมารับตัวไปส่งโรงพยาบาล
...
เมื่อตนโทรศัพท์หาแฟน พลเมืองดีรับสายพร้อมแจ้งว่าแฟนประสบอุบัติเหตุ จึงรีบไปที่จุดเกิดเหตุ ตรวจสอบภายในรถพบว่า เงินสดจำนวน 33,156 บาท ของบริษัทแฟน และเงิน 27,225 บาทของบริษัทที่ฝากไว้เพื่อเข้าบัญชีหายไป ก็ไม่ได้เอะใจ เพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่เก็บไว้ให้ แต่เมื่อสอบถามพบว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้เก็บเงินดังกล่าวที่มียอดรวมกว่า 60,381 บาทไว้เลย
จนกระทั่งนายอนันต์ แสนพินิจ อายุ 57 ปี บิดาของแฟน ไปที่เกิดเหตุ พบถุงสีเหลืองมีร่องรอยฉีกขาด ซึ่งใช้บรรจุธนบัตรตกอยู่ภายในรถ แต่ไม่พบเงินแล้ว จึงได้เข้าแจ้งความกับร้อยตำรวจเอกทนงฤทธิ์ วรรธนะ พนักงานสอบสวน โดยทางตำรวจลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น พร้อมทั้งบอกว่าทำงานมา 10 ปี ไม่เคยเจอเหตุรถชนแล้วเงินหาย ให้ตนไปหาหลักฐานมา แต่ก็ไม่รู้จะหาจากที่ไหน เพราะพื้นที่ใกล้เคียงไม่มีกล้องวงจรปิด
ด้านนายนพ เดชแสนพินิจ ผู้ประสบเหตุเผยว่า ในวันนั้นมีงานมาก ไม่ได้พักผ่อนติดต่อกันหลายวัน จึงเกิดอาการวูบขณะขับรถ ช่วงนึงที่รู้สึกตัวขึ้นมา ก็พบว่ามีคนช่วยกันยกตนออกจากรถ นำไปไว้ที่ข้างทางก่อนจะสลบไปอีกครั้ง
ขณะที่ นายอนันต์ แสนพินิจ ผู้พ่อได้นำถุงสีเหลืองมาให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมกล่าวว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่า ลูกชายมีหน้าที่เอาเงินไปเข้าบัญชีธนาคารทุกเช้า เพราะลูกชายไม่เคยเล่าให้ฟัง และไม่เคยเอาเงินลงจากรถเลย แต่มาทราบเพราะเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่งที่ลูกชายเคยทำงานอยู่ด้วยบอกตนไปตรวจสอบในรถ ว่าเงินที่ต้องไปฝากยังอยู่หรือไม่ จึงรีบขับรถตามไปที่เกิดเหตุ พบว่ามีซองเงินของลูกถูกฉีกขาด ส่วนซองสะใภ้หายไปหมด
นางทองสุข นามวงษา อายุ 57 ปี มารดาผู้บาดเจ็บ ร้องไห้พร้อมอ้อนวอนให้ผู้ที่นำเงินไปกลับมาคืน สงสารลูกชายที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำรวบรวมเงินของพนักงาน และทำบัญชีดึกดื่นเพื่อฝากธนาคารในทุกๆ วัน ตนเห็นลูกทำงานหนักแล้วสงสารมาก ลูกชายนอนน้อย ข้าวปลาก็แทบไม่ได้ทาน ร่างกายซูบผอม เพราะต้องรีบเร่งหาเงินส่งค่างวดรถคันที่เกิดเหตุ ตอนนี้รถก็พัง ลูกชายก็เจ็บ เงินก็หาย อยากวิงวอนให้ผู้ที่เอาเงินไปนำมาคืน ขอให้นึกว่าสงสารลูกชายและครอบครัวที่กำลังลำบาก
ด้านร้อยตำรวจเอกทนงฤทธิ์ วรรธณะ เจ้าของคดี เผยว่า ไม่เห็นเงิน แต่ญาติเข้ามาเก็บเอกสารเท่านั้น เขามาแจ้งความว่า มีเงินอยู่ในรถหายไป ตนก็ไม่รู้ว่าเงินของเขามีไหม เพราะที่เกิดเหตุไม่มีคู่กรณี จึงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น.
ข้อมูลจากเฟซบุ๊ก Nam Chanthon