คืบหน้า สาวขอนแก่นอ้างร้านลงน้ำยายืดผมไว้นาน จนแพ้สารเคมีรุนแรงผมร่วงอย่างหนักจนต้องโกนผม ทั้งสองฝ่ายยืนยันเดินหน้าดำเนินคดีตามกฎหมายหากตกลงกันไม่ได้

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เล่าอุทาหรณ์ โดยอ้างว่า ได้ไปยืดผมที่ร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งจนต้องโกนศีรษะ ซ้ำเจ้าของร้านถึงปัดความรับผิดชอบ

ล่าสุด วันที่ 23 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังร้านเสริมสวยดังกล่าว ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น พบว่าร้านปิดให้บริการ จึงโทรศัพท์สอบถามตามเบอร์ที่อยู่ในป้าย

เจ้าของร้านเสริมสวย กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นนั้นมั่นใจว่าไม่ได้เกิดจาก ที่ลูกค้ามายืดผมที่ร้านคาดว่าน่าจะมาจากสาเหตุอื่น เช่น ไปฉีดวัคซีนแล้วอาจจะแพ้หรือไปทำอะไรมาที่ลูกค้าพูดไม่หมดหรือไปเข้ารับการคีโมหรือไปทำอย่างอื่นมานอกเหนือจากการยืดผมหรือเปล่า และอีกอย่างคือลูกค้ารายนี้มักจะมาสอบถามเรื่องทำสีผม และบำรุงผมต่างๆ อาจจะไปทำเองจนเป็นสาเหตุทำให้ผมร่วงก็ได้

ตอนนี้ทางร้านได้รับผลกระทบลูกค้าลดลงเนื่องจากได้รับความเสียหายจากโพสต์ที่ลูกค้านำไปโพสต์ลงในโซเชียลตอนนี้อยู่ระหว่างการปรึกษากับผู้รู้กฎหมายเตรียมรวบรวมหลักฐานเพื่อจะเข้าแจ้งความ ซึ่งตนเองก็ยินดีพูดคุยไกล่เกลี่ย ให้ทางลูกค้าออกมาแก้ข่าวที่ทำให้ทางร้านได้รับความเสียหาย แต่หากทางลูกค้าไม่มาพูดคุยหรือแก้ข่าวก็จะเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย

...

ในส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมั่นใจว่าไม่ได้เกิดจากการยืดผมของทางร้านเพราะน้ำยาที่ใช้นั้นก็เป็นน้ำยาตัวเดิมตัวเดียวที่ทางร้านใช้มาตลอดทำการยืดผมให้ลูกค้ามากกว่า 100 หัวก็ไม่เคยมีปัญหาเกิดขึ้นและหากลูกค้ามีปัญหาจากการยืดผมของทางร้านจริงก็น่าจะไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ก็น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น

แต่ลูกค้ามาทำผมตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ระยะเวลาก็ผ่านมาเดือนกว่า กระทั่งช่วงต้นเดือนเมษายนลูกค้ามาบอกว่าผมร่วงจนต้องโกนผมออกทั้งหัวเพราะการยืดผมของทางร้านตนเองมองว่ามันไม่น่าจะใช่ และในส่วนขั้นตอนการยืดผมของทางร้านนั้นก็มีการยืดผมที่ใช้เวลาประมาณ 30 ถึง 40 นาทีขณะที่บางร้านใช้ระยะเวลานานกว่านี้ซะด้วยซ้ำซึ่งวันที่ตนเองได้ยืดผมให้ลูกค้านั้นหลังจากได้ลงน้ำยาทิ้งเอาไว้ก็ไปกินข้าวกับเพื่อนและใช้เวลาเพียงแป๊บเดียว เพื่อนยังทวงว่าทำไมรีบไปจังยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลยตนเองก็บอกต้องรีบไปดูลูกค้าไปเช็กดูผมและก็ได้ทำการล้างผม และลงน้ำยาในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อให้ผมเซตตัว

หลังจากนั้นตนเองก็เห็นลูกค้าใช้ชีวิตตามปกติมัดผมรวบผมขายของตามปกติเพราะร้านตนเองและที่ลูกค้าขายของนั้นก็อยู่ห่างกันไม่ไกลแต่จู่ๆ ก็มาบอกว่าเกิดจากการยืดผมของร้านตนเอง และมาโพสต์สร้างความเสียหายให้ร้าน ซึ่งวันที่ลูกค้ามาช่วงต้นเดือนเมษายนนั้น ตนเองก็ได้คุยกับลูกค้าไปแล้ว ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดจากการยืดผม หากจะให้รับผิดชอบก็เป็นไปไม่ได้เช่นกัน ยืนยันอีกครั้งว่าไม่ได้เกิดจากการยืดผมของทางร้าน หากยังไม่ออกมาแก้ข่าวก็จะมีการรวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะเดียวกันทางด้านคุณเหมยลูกค้าที่ออกมาโพสต์เรื่องราวดังกล่าว ยังยืนยันว่ามั่นใจว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากการยืดผมของทางร้านและไม่ได้เกิดจากการฉีดวัคซีนซึ่งตนเองหลังเกิดเรื่องขึ้นและผมร่วงก็ได้ไปคลินิกหาหมอและทำการตรวจหาสาเหตุ โดยหมอได้มีการซักถามว่าไปทำอะไรมาบ้างตนเองก็บอกว่าได้มีการยืดผมและก็ไม่ได้มีการทำอะไรเกี่ยวกับผมอีก

หมอจึงวินิจฉัยว่าเกิดจากการแพ้สารเคมีรุนแรงและได้ให้ใช้แชมพูของทางคลินิกส่วนแนวทางการรักษาขั้นตอนต่อไปนั้นจะต้องไปที่โรงพยาบาลเพื่อทำการฉีดยารักษาเท่านั้นอีกทั้งตนเองก็ได้ถามหมออยู่ว่าสาเหตุเกิดจากวัคซีนเป็นไปได้หรือไม่หมอยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ถ้าหากผมร่วงเกิดจากการฉีดวัคซีนคนอื่นๆ ก็ต้องร่วงด้วยตอนนี้ทราบว่าทางร้านจะเข้าแจ้งความตนเองก็พร้อมสู้คดีเพราะ มั่นใจว่าสาเหตุมาจากการยืดผมของทางร้านเพียงอย่างเดียว

และครั้งที่ไปหาเจ้าของร้านช่วงต้นเดือนเมษายนนั้นก็เคยบอกไปแล้วหากไม่รับผิดชอบจะเข้าแจ้งความ ซึ่งตนเองจะไปขอหลักฐานจากแพทย์ยืนยันว่าเป็นการแพ้สารเคมีจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ และพร้อมที่จะเดินหน้าร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมเช่นกันเพื่อให้ทางศูนย์ดำรงธรรมได้มีการเรียกไกล่เกลี่ยโดยตนเองจะยื่นข้อเสนอให้ทางร้านรับผิดชอบเป็นค่าสินไหม

เพราะตอนนี้งานก็ทำไม่ได้ไม่สามารถไปเจอผู้คนได้สภาพจิตใจก็ย่ำแย่ไม่อยากจะส่องกระจกแต่ทั้งนี้ตนเองก็พร้อมที่จะพูดคุยกับทางเจ้าของร้านเพื่อให้เรื่องดังกล่าวจบลงด้วยดียืนยันว่าสิ่งที่พูดนั้นเป็นเรื่องจริง.