ภาพจากแฟ้ม

หมอ เจ้าของเพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน เล่านาทีไฟไหม้โรงแรมดังเกาะกูด หนีตายปีนหลังคา ก่อนตกลงมาสลบ บาดเจ็บ ขณะที่สามีเจ็บเล็กน้อย และลูกปลอดภัย

วันที่ 7 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กเพจ "เลี้ยงลูกนอกบ้าน" ของ หมอโอ๋ ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงจิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น รพ.รามาธิบดีฯ เจ้าของเพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน เล่าเหตุการณ์ระทึก เมื่อโรงแรมที่พัก บนเกาะกูด จังหวัดตราด เกิดไฟไหม้

โดยคุณหมอเล่าว่า เมื่อวันแสนสุขกลายเป็นโศกนาฏกรรม บ้านหมอและครอบครัวน้องชายทั้งหมด 15 คน มาเที่ยวโรงแรมชื่อดัง ที่เกาะกูด จังหวัดตราด ในขณะที่เรากำลังมีความสุขเพราะโรงแรมสวยงามมาก เราอยู่ร่วมกันแบบมีแต่เสียงหัวเราะแห่งความสุข

เพิ่งมานอนกันได้คืนเดียว เช้าตรู่ก็เกิดเรื่อง ขณะหลับอยู่ หมอได้ยินเสียงคุณแม่ตะโกนโวยวายจากชั้นล่าง ว่าไฟไหม้ๆๆ ออกมาก็เจอไฟก้อนมหึมา ไหม้บ้านตรงกลางทั้งบนล่าง ปิดบันไดทางลงเรียบร้อย

ครอบครัวหมอเป็นบ้านเดียวที่อยู่ชั้น 2 หมอกลับไปตะโกนเรียกสามีและลูกสาว สามีสติดีชวนวิ่งหนีไฟมาอีกฝั่ง แล้วให้ทุกคนปีนข้ามระเบียงมาตรงหลังคา แต่โชคไม่ดี ระเบียงที่เกาะไม้ไม่แข็งแรง ไม้หลุด สามีไถลไปข้างหน้า โชคดีที่สามีเกาะต้นไม้โดดลงไปข้างล่างทัน

ลูกสาวลงเป็นคนที่สอง ค่อยๆ ไต่หลังคาลงไป หมอข้ามระเบียงลงไป กำลังจะยื่นมือไปจับลูกสาว จากนั้น ก็จำอะไรไม่ได้อีก ตื่นมาเห็นสามีตะโกนเรียก “หม่ามี้ๆๆๆ” อย่างบ้าคลั่ง พร้อมน้ำตานองหน้า เบเน่ร้องไห้ พูดแต่ “เบเน่รักหม่ามี้ๆๆ นะ” เลยต้องตื่นมาบอกทุกคนว่า “แม่ยังไม่ตายจ้ะ” 

หลังจากนั้นก็เบลอจำอะไรไม่ได้ มารู้ตัวอีกที คือ อยู่ในเตียงเตรียมเคลื่อนย้าย ขึ้น speed boat ไปโรงพยาบาล 

สามีผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด บอกว่าหมอข้ามระเบียงออกมาแล้วเกาะไม้ระแนงตรงระเบียง ปรากฏว่าไม้ที่ไม่แข็งแรงทำให้หมอหลุด คว่ำหน้าไถลลงหลังคา ตกจากหลังคาสูงเกือบ 4 เมตร ก้นกระแทก หัวฟาดพื้น แล้วสลบไป เลือดกบปาก เรียกไม่ตื่น สามีตกใจมากก แต่ก็ต้องหันไปช่วยลูกสาวที่ยังอยู่บนหลังคาและกำลังห้อยตัวกระโดดลงมา แล้วก็กลับมาช่วยหมออีกที 

สรุป หมอมีการบาดเจ็บที่ศีรษะ หัวแตก มีแผลที่หัวและหน้าเย็บไป 10 กว่าเข็ม มีกระดูกสันหลังตำแหน่ง T12 หัก แต่ไม่มีระบบประสาทผิดปกติอะไร ยังไม่ต้องผ่าตัด 

สามีมีแผลถลอกทั่วตัว กับเอ็นข้อมือบาดเจ็บ (แต่สำหรับหมอผ่าตัดกระดูกสันหลังมันก็เป็นเรื่องใหญ่มากจริงๆ) ลูกสาวเป็นคนเดียวที่ปลอดภัย ไม่มีบาดแผลใดๆ ส่วน สภาพจิตใจหมอโอเค (เพราะจำอะไรไม่ค่อยได้)

ซึ่งลูกสาวสบายมาก ยังร่าเริงสดใส แข็งแกร่งสุดในปฐพี คอยดูแลแม่ไม่ห่าง แต่สามีผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ยังคงร้องไห้ตลอดวัน โดยเฉพาะเวลาเล่าเรื่องนี้

เมื่อคืนสามีมากอด แล้วร้องไห้ บอกว่า "แด๊ดดี้รักหม่ามี้นะ นึกว่าจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว" เหตุการณ์นี้คงบีบคั้นความรู้สึกของเขาจริงๆ

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น… รู้เลยว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าชีวิตจริงๆ แต่พอสติมา ก็แอบเสียใจที่ไม่ได้หันไปเอาคอมพิวเตอร์ iPad ทั้งหมดออกมาได้ ข้อมูลงานทั้งหมดของเราสองคนอยู่ในนั้น ลูกสาวก็คอยปลอบใจแม่ว่า เรารอดออกมาอยู่ด้วยกัน มันก็พอแล้วนะหม่ามี้

อย่างไรก็ตาม ทางคุณหมออ้างว่า หลังจากเหตุการณ์ มาทราบว่า โรงแรมระดับนี้ ไม่มีเครื่อง detect ควัน ไม่มีสัญญาณเตือนภัย ไม่มีสปริงเกอร์พ่นน้ำ ชั่วโมงกว่าเท่านั้น วิลล่าหลังใหญ่ของที่นั่น ก็หายไปในพริบตา โดยไม่มีใครทำอะไรได้เลย สาเหตุคิดว่าเป็นจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะขณะนั้นยังไม่มีใครตื่น

ครอบครัวหมอมีทรัพย์สินที่สูญเสียไปในกองเพลิงจำนวนมาก กับความประมาทที่เกิดขึ้น โรงแรมยังไม่ได้แสดงความรับผิดชอบอะไรในเรื่องนี้

นอกจากนี้ คุณหมอ ยังฝากเตือนด้วยว่า ไปพักที่ไหน อย่าดูแค่ดาว แล้วหลงไว้ใจเรื่องความปลอดภัยเหล่านี้ คิดไม่ออกเลยว่าถ้าแม่ไม่ตื่นมา ชีวิตพวกเราที่มีทั้งคุณแม่ เด็ก 3 คน น้องสะใภ้ที่ท้องอยู่ ถ้ามีใครสักคนต้องสูญเสียไปในกองเพลิง พวกเราทุกคนจะรู้สึกยังไง มันไม่มีอะไรมาทดแทนได้จริงๆ

อย่าลืม กอดและบอกรักคนข้างๆ กันบ่อยๆ ทำในสิ่งที่มันสำคัญสำหรับชีวิตจริงๆ ชีวิตมันอาจจะสั้นกว่าที่เราคิด และฝึกสติกับชีวิตประจำวันเสมอ และระหว่างนี้ขออภัยที่ต้องยกเลิกงานต่างๆ ที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนนี้ด้วยนะคะ

ทั้งนี้ หากมีคำชี้แจงจากทางโรงแรม จะได้แจ้งให้ทราบต่อไป.


...

ที่มาจาก เฟซบุ๊ก เลี้ยงลูกนอกบ้าน