คนในโซเชียล แสดงความเห็นพร้อมติดแฮชแท็ก #พิมรี่พาย จนพุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ หลังซัดกลับ "อายตา" บิวตี้บล็อกเกอร์ รีวิวแป้งพัฟ ทั้งติและชม
วันที่ 7 ก.พ. 65 กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียล จนแฮชแท็ก #พิมรี่พาย พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ เมื่อมีดราม่า พิมรี่พายไลฟ์สดขายของแล้วพูดถึง "อายตา" บิวตี้บล็อกเกอร์คนหนึ่ง ซึ่งออกมารีวิวแป้ง "PRIM" หรือ "แป้งพิมรี่พาย" ซึ่งเธอได้สั่งซื้อมาจากเพจของพิมรี่พาย โดยวันที่พัสดุมาส่งนั้น ก็พบว่า แป้งที่สั่งซื้อมา 3 ตลับ แตกละเอียดไป 1 ตลับ ทำให้ต้องหยุดการรีวิวไป และรอคนที่รู้จักส่งแป้งเบอร์ที่แตกมาให้ใหม่ จึงเริ่มทำการรีวิวอีกครั้ง
ซึ่งหลังการรีวิวแป้ง อายตา สรุปการใช้งานแป้งพิมรี่พายว่า เป็นแป้งที่ปกปิดดี คุมมัน ติดทน แต่อาจจะไม่เข้ากับเทรนด์การแต่งหน้าสมัยนี้ ที่เน้นความเป็นธรรมชาติ และกลืนไปกับผิว
ต่อมา พิมรี่พาย ได้ไลฟ์สดขายของ ซึ่งในช่วงที่มีการขายแป้ง "PRIM" แม่ค้าชื่อดัง ได้อ้างว่า มีคนโทร.มาหารัวๆ บอกว่า อายตา รีวิวแป้ง ด่าก่อนค่อยชม เป็นธรรมดา เพราะชมเลยจะดูปลอม ดูจ้าง ทั้งยังบอกว่า แต่เขาก็โง่ เป็นบิวตี้บล็อกเกอร์มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ก็ยังไม่ดังสักที เนื่องจากเอาพัฟกดๆ ก็บอกว่าหนา ลูกตัวเอง 6 ขวบยังทำเป็นเลย อยากได้หนา ก็เอาพัฟกด อยากได้บางก็เอาแปรงปัด แค่นั้นเอง "แป้ง_ของดี ๆ ต้องได้ด่าสักนิดหนึ่ง จะได้มีคนดู _ไม่สนใจหรอก ด่าหมด แต่_ไม่ได้ดูหรอก แต่เพื่อนมันบอก ด่าก่อนถึงจะต้องชม" และว่า "ด่าได้ไม่ได้ว่า แค่บอกเฉยๆ ว่ารู้ทันนะ"
...
ขณะที่ล่าสุด อายตา เองได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กเพจ Eyeta โดยมีแคปชั่นว่า "ดราม่า! อายตาโดนพิมรี่พายด่า เป็นบตบกมาตั้งนานก็ไม่ดังซะที" โดยอายตาบอกว่า เราเป็นคนที่ติดตามพิมรี่พาย ชื่นชมเขาที่ไปช่วยคนอื่น ยังบอกผู้ช่วยของตนเองเลยว่า อยากทำให้ได้แบบที่พิมรี่พายทำ ถ้าตัวเองรวย หรือมีเงิน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตนเองไม่ได้โกรธ แต่อยากจะชี้แจงในประเด็นที่ถูกพูดถึง
เรื่องแรก คือ ที่บอกว่า เป็นบิวตี้บล็อกเกอร์มานาน แต่ไม่ดัง ซึ่งอายตา บอกก็ถูก ตนทำมา 7-8 ปีแล้ว คนติดตามแค่ล้านกว่าๆ ซึ่งมันก็ไม่ดังจริงๆ ออกไปเดินตามตลาด ก็มีคนจำได้บ้างไม่ได้บ้าง ถ้าเทียบกับคนไทยทั้งประเทศ 70 กว่าล้านคน ซึ่งเราก็ไม่ได้โกรธ เรารู้ตัวดีว่า มีคนติดตามแค่นี้ แต่แค่รู้สึกว่า ผิดประเด็นไปหน่อย ถ้าเราไม่ดัง ไม่มีสิทธิ์รีวิวของหรือ พร้อมกับขอโทษด้วยที่ดังได้แค่นี้
เรื่องที่สอง ที่บอกว่า ตัวเองใช้พัฟ แทนที่จะใช้แปรง ซึ่งตนไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าใช้แปรงได้ ซึ่งเราก็แต่งหน้าเป็นประมาณหนึ่ง ซึ่งก็มีคลิปเก่าที่คุยกับช่างแต่งหน้าท่านหนึ่ง จะรู้ว่า ตนเองก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบใช้แปรงกับแป้งพัฟ แต่มันเป็นคนละบริบท เพราะในชีวิตประจำวัน ตนก็ใช้แปรง เนื่องจากใช้แป้งร่วมกับรองพื้น แป้งฝุ่น แต่แค่ว่าในบริบทนั้น เป็นการรีวิว และอยากเป็นตัวแทนของคนที่ซื้อของมาใช้ เหมือนลูกค้าทั่วไป ที่ซื้อของไปใช้ ซึ่งก็อยากใช้ของที่ได้มาจากในตลับ เพราะบางคนอาจจะไม่มีแปรง หรือมีมาก มีน้อย คนมีก็ได้ใช้ คนไม่มีก็ใช้พัฟไป ซึ่งตนรับรู้ว่า การใช้แปรงจะบางเบากว่าการใช้พัฟอยู่แล้ว พร้อมกับบอกว่า แต่ตนอาจจะไม่ได้พูดรีวิวให้ชัดเจนว่า ถ้าอยากได้แบบบางเบา ให้ใช้กับแปรง
นอกจากนี้ อายตา ยังบอกด้วยว่า ไม่ได้อยากจะเป็นคนที่ดังที่สุด แต่การรีวิวของแต่ละอย่าง เหมือนเป็นการเม้าท์มอยกับเพื่อน ว่าซื้ออะไรมาใช้แล้วดี แล้วอยากบอกต่อ และว่าก็จะทำคอนเทนต์ต่อไปเรื่อยๆ และว่า ก่อนหน้านี้มีผลิตภัณฑ์ที่ซื้อเอง ไม่ต้องจ้าง ก็ยังชมจนคนคิดว่าถูกจ้างก็มี แต่เราก็ไม่ได้สนใจมาก แต่อะไรที่ไม่เหมาะกับเรา ก็บอกตามตรงว่าไม่เหมาะกับเรา
ขณะที่คนในโลกโซเชียล ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนใหญ่เห็นใจอายตา เนื่องจากเป็นการรีวิวตามจริง อีกทั้งของทั้งหมดก็ซื้อมาเอง ไม่ได้รับสปอนเซอร์มาแต่อย่างใด
ที่มาจาก ทวิตเตอร์, เฟซบุ๊กเพจ Eyeta