"ผกก.โจ้" หายตัวไปแล้ว 3 วัน ทีมสอบสวนเชื่อยังหลบอยู่ในไทย ผบก.ภ.6 แจงสัมพันธ์ แค่คนรู้จัก ที่มาชอบลูกสาว
วันที่ 25 ส.ค.64 พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช. เดินทางลงพื้นที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ มาพร้อมทีมงานเพื่อร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในการติดตามตัว พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือ "ผู้กำกับโจ้" พร้อมกับพวกรวม 7 คน ที่ถูกออกหมายจับ ในคดีทำร้ายผู้ต้องหายาเสพติดจนถึงแก่ชีวิต ซึ่งปรากฏออกมาเป็นคลิปบนโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง
ทั้งนี้ พล.ต.อ.วิสนุ ระบุว่า ที่มาวันนี้เนื่องจากเมื่อวานทาง สภ.นครสวรรค์แจ้งความดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ว่าเป็นข้าราชการตำรวจที่ละเมิดกฎหมาย ปฏิบัติโดยมิชอบ ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง การนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพราะต้องสอบสวนวินัยการรวบรวมหลักฐานในคดีอาญาเพื่อที่จะไม่ได้เข้ามายุ่งกับพยานหลักฐาน
นอกจากนั้น ทาง ผบ.ตร.ได้ให้ลงมาช่วยสอบสวนควบคู่กับทางจังหวัดนครสวรรค์ ว่าในส่วนนี้ใครบ้างมีส่วนร่วมและรู้เห็น เบื้องต้นจะออกหมายจับทั้งหมด 7 ราย โดยเบื้องต้นทาง ผกก.โจ้ ยังไม่สามารถติดต่อได้
พล.ต.อ.วิสนุ เผยเกี่ยวกับคดีดังกล่าวว่า หลังมีการออกหมายจับ ตอนนี้ควบคุมตัวผู้ที่เกี่ยวข้องไว้ได้แล้ว 4 ราย และยังหลบหนีอีก 3 ราย ซึ่งตามที่ ผบ.ตร. ได้บอกไว้ นิ้วร้ายต้องตัดทิ้ง และต้องตัดทิ้งโดยเร็ว วันนี้ออกหมายจับเรียบร้อย หลังจากนี้จะได้สอบวินัยร้ายแรง สืบสวนสอบสวนคดีอาญา ติดตามจับกุม โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้รับผิดชอบ ควบคุมคดี และติดตามจับกุมผู้ต้องหา
พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบช.ภ.6 ระบุว่า เราเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมขออภัยพี่น้องประชาชนในเรื่องนี้ ขอยืนยันว่า ตำรวจภูธรภาค 6 จะทำการสอบสวน และดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องทุกรายตามกฎหมาย ขณะนี้ได้ทำการจับกุมแล้ว 4 หลบหนีอีก 3 เราได้แจ้งพรมแดนรอยต่อประเทศเพื่อนบ้าน ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อสกัดการหลบหนี เชื่อว่ายังอยู่ในประเทศไทย เราเชื่อว่าอีกไม่นาน จะสามารถนำตัวทั้ง 3 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ยังอยู่ระหว่างสอบสวน และอยู่ในสำนวน ข้อมูลเบื้องต้น จากการซักถาม ทั้ง 4 คนยอมรับว่าเป็นคนตามหมายจับจริง และอยู่ร่วมในที่เกิดเหตุ
พล.ต.ต.เอกรักษ์ ระบุว่า วันนี้สิ่งที่ ตร. มอง เขาคือโจรที่เอาเครื่องแบบตำรวจมาใส่ แล้วฆ่าพี่น้องประชาชนเสียชีวิต โดยไม่กลัวกฎหมายบ้านเมือง กระบวนการสอบสวน จะดำเนินคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา มีโทษถึงประหารชีวิต ส่วนการเรียกรับผลประโยชน์เพื่อแลกการปล่อยตัว ทางสำนักงานจเร และตำรวจจะได้มีการสอบสวนเพิ่ม
เกี่ยวกับข้อกังวลว่า ผกก.โจ้ รู้จักตำรวจกว้างขวาง อาจได้รับการช่วยเหลือ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ระบุว่า ตำรวจก็เป็นประชาชน เมื่อทำผิดกฎหมาย ก็ต้องถูกลงโทษเช่นเดียวกัน เมื่อตำรวจเป็นผู้รักษากฎหมาย เมื่อทำผิด ก็ต้องมีบทลงโทษที่แรงกว่าประชาชนทั่วไป วันนี้ตำรวจภูธรภาค 6 ร่วมกับจเรตำรวจ กำลังตรวจสอบนิ้วร้าย เพื่อตัดทิ้งทั้งหมด ให้เหลือแต่นิ้วดี จะยศอะไรก็แล้วแต่ เมื่อทำผิดต้องถูกดำเนินการทั้งหมด
"ต้องขอบคุณคนปล่อยคลิป เพื่อเราจะได้ถอนรากถอนโคนกระบวนการผิดกฎหมายเช่นนี้ และยืนยันว่าเราจะคุ้มครองผู้ที่ปล่อยคลิปเป็นอย่างดี"
...
พล.ต.อ.วิสนุ ระบุว่า หากตอนนี้ใครมีเบาะแสของ 3 คนที่ยังหลบหนี ถ้าช่วยกันสอดส่อง ให้ข้อมูล ไม่ให้ที่พักพิง ก็จะเกิดประโยชน์อย่างมาก เมื่อถามว่า จนถึงขณะนี้ทั้ง 3 คน ติดต่อเข้ามาบ้างหรือยัง พล.ต.อ.วิสนุ ระบุว่า ถ้าติดต่อมา ก็ไปจับแล้ว ซึ่งตอนนี้คณะของ พล.ต.อ.สุชาติ กำลังทำงานอยู่
ทั้งนี้ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ยังได้ตอบคำถามสื่อมวลชน ระบุว่า นี่คือคดีฆาตกรรม บุคคลที่เคยเป็นตำรวจหลายคน ร่วมกันฆ่าประชาชนตาย จะด้วยเหตุผลอะไร ผลประโยชน์จูงใจหรือไม่ ก็มีโทษประหารชีวิต ขณะนี้เราแยกพนักงานสอบสวนเป็น 4 ทีม พร้อมจัดทนายให้ตามกฎหมาย การจะให้การอย่างไร เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่หน้าที่ของพนักงานสอบสวน คือรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนที่สุด เพื่อส่งให้ศาลพิพากษาลงโทษอย่างสาสมตามกฎหมายในความผิดที่กระทำ
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการอ้างว่า พ.ต.อ. ไปเคลียร์กับพ่อผู้เสียชีวิต พล.ต.ต.เอกรักษ์ ระบุว่า พนักงานสอบสวนจะได้สอบสวนในประเด็นนี้ เอามาอยู่ในสำนวนการสอบสวนด้วย
เกี่ยวกับใบชันสูตรการเสียชีวิต และแพทย์ที่ออกใบชันสูตร พล.ต.ต.เอกรักษ์ ระบุว่า พนักงานสอบสวนต้องตรวจสอบอย่างละเอียดถึงสาเหตุการตาย และใบชันสูตรพลิกศพ อันเป็นสาระสำคัญของความจริงในคดีนี้ แต่คดีนี้มีการร้องทุกข์เมื่อวาน คือ 24 ส.ค. วันนี้จับกุมผู้ต้องหา เราได้รับนโยบายให้เร่งสอบสวนให้เร็วที่สุด และครบถ้วนที่สุด เพื่อส่งผู้ต้องหาไปให้พนักงานอัยการส่งฟ้องต่อศาล ซึ่งต้องตรวจสอบให้ละเอียด ว่าแพทย์ผู้ชันสูตรมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตาย หรือการกระทำความผิดหรือไม่ ใบชันสูตรพลิกศพที่สันนิษฐานสาเหตุการตาย รายละเอียดเป็นอย่างไร ต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียด ซึ่งต้องให้แพทย์ที่ออกใบชันสูตรมาให้การอีกครั้ง เพราะแพทย์ที่ออกเอกสารการตายต้องรับผิดชอบต่อเอกสารที่ตัวเองกระทำลงไป และเมื่อเอกสารดังกล่าวมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม พนักงานสอบสวนจะต้องพิสูจน์ให้ชัดเจนว่าออกใบชันสูตรเพราะอะไร มีเหตุผลอะไรสนับสนุน
นอกจากนี้ ถ้าเกิดพ่อ หรือญาติ รับผลประโยชน์ เพื่อปกปิดการตาย ถ้าทำจริง และมีหลักฐาน ก็จะมีความผิดตามกฎหมาย
ในส่วนของภรรยาของผู้ต้องหาที่ให้การไม่ตรงกัน พล.ต.ต.เอกรักษ์ ระบุว่า พนักงานสอบสวน ก็ต้องสอบต่อไปว่าสิ่งใดเป็นความจริง ถ้าพิสูจน์ได้ว่าข้อความใดไม่ตรงกับความจริง ก็เป็นความผิดตามกฎหมายเช่นกัน
เมื่อถามว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เป็นอดีตตำรวจ ถ้าเจอตัวและมีการขัดขืน จะทำตามขั้นตอนอย่างไร พล.ต.ต.เอกรักษ์ ระบุว่า ขอยืนยันตามนี้ว่า ผบ.ตร. สั่งการให้ดำเนินการตามกฎหมาย ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ที่หลบหนีหมายจับ และจับกุม เคยเป็นตำรวจ วันนี้คือ อาชญากรที่หลบหนีการจับกุม คงต้องดำเนินการไปตามที่กฎหมายให้อำนาจ
ครั้งสุดท้ายที่เจอตัว ผกก.โจ้ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ระบุว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผกก.โจ้ ได้เข้ามาลงชื่อปฏิบัติงานที่สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 หลังจากนั้นวันจันทร์ ไม่มารายงานตัว เจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกว่าขาดราชการในวันจันทร์ และอังคาร ก่อนที่วันพุธ จะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน มีโทษทางวินัยคือ การขาดราชการไป 2 วัน เราจึงไม่ทราบเบาะแสว่าไปที่ไหน แต่ขณะนี้ ภาค 6 กำลังระดมกำลังติดตามหาตัวอย่างสุดความสามารถ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี
ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 4 คนนั้น จะได้เร่งสอบสวนให้เสร็จ และพรุ่งนี้จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครสวรรค์ และพนักงานสอบสวนจะค้านประกัน เนื่องจากเกรงว่า จะไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน และอาจจะหลบหนี
พล.ต.ต.เอกรักษ์ ยังระบุด้วยว่า ขออนุญาตเป็นตัวแทนของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ให้ชี้แจงว่า ผกก.โจ้ ไม่ใช่ญาติในตระกูลของท่านผู้บัญชาการ เป็นแค่คนรู้จัก และมาชอบลูกสาวของท่านผู้บัญชาการเท่านั้น ไม่เคยเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านของท่านผู้บัญชาการ แค่มาคบหาเป็นเพื่อนสนิท มาจีบ นอกนั้นยังไม่มีความสัมพันธ์อื่นใด และท่านผู้บัญชาการได้มอบหมายให้ตนมาชี้แจงสื่อมวลชนว่า จะไม่ใช้อำนาจหน้าที่ หรือตำแหน่ง มาก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม ใครทำผิดก็เป็นไปตามกฎหมาย