ก่อนการระบาดของโควิด-19 มีข้อมูลเผยว่าความนิยมในการเดินป่าลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้นในช่วงการระบาดใหญ่ อาจเป็นเพราะผู้คนรู้สึกอุดอู้เมื่อต้องเก็บตัวอยู่บ้าน บางคนออกไปเดินป่าสัมผัสธรรมชาติ ซึ่งบทความด้านสุขภาพในเว็บไซต์อินดีเพนเดนต์ ได้เขียนถึงข้อดีของการเดินป่าที่มีผลต่อสุขภาพไว้อย่างน่าสนใจ

การเดินป่านั้นแตกต่างจากการเดินเล่นในละแวกบ้าน อาจต้องมีการลงทุนในเรื่องของรองเท้าสวมใส่ที่เหมาะสมต่อการเดินป่า ซึ่งอาจน้ำหนักเยอะกว่ารองเท้าที่เคยใส่ เพราะภูมิประเทศและเส้นทางไม่เรียบหรือเป็นหินบ้าง มีระดับความสูงที่เปลี่ยนแปลงบ้าง การขึ้นหรือลงเนิน ทำให้จำเป็นต้องใช้กล้ามเนื้อมากขึ้นเพื่อให้ตัวเองเดินมั่นคงบนภูมิประเทศที่ไม่ราบเรียบ ซึ่งการเดินเร็วประมาณ 5 กม./ชม. จะใช้พลังงานมากกว่าการนั่งและพักผ่อนถึง 4 เท่า การเดินป่าผ่านทุ่งและเนินเขาใช้มากกว่า 5 เท่า เรียกว่าเหมือนออกกำลังกายหนักปานกลางถึงหนักได้ 150 นาทีโดยไม่จำเป็นต้องไปวิ่งหรือไปสถานที่ออกกำลังกายเลย

แน่นอนว่าการออกกำลังกายอย่างเพียงพอและพอดี ไม่เพียงช่วยปรับปรุงสุขภาพกาย การนอนหลับ และจัดการความ เครียด แต่ยังช่วยลดโอกาสเป็นโรคเรื้อรังบางชนิด เช่น ภาวะสมองเสื่อม เบาหวานชนิดที่ 2 โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคซึมเศร้า มะเร็งบางชนิด ซึ่งในผู้สูงอายุนั้นมีงานวิจัยบางชิ้นแนะนำว่าการเดินป่าอาจช่วยปรับปรุงความดันโลหิตสูง ผู้ที่มีปัญหาเรื่องการทรงตัวหรือปัญหาข้อต่อก็สามารถปีนเขาได้ โดยใช้รูปแบบการเดินแบบนอร์ดิกที่ใช้ไม้ค้ำถ่ออันเป็นรูปแบบการเดินป่ายอดนิยม ก็จะช่วยลดภาระที่ขาได้ ซึ่งการเดินป่าแบบนอร์ดิก ยังให้ประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ลดน้ำหนัก เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเช่นกัน.