วันเสาร์สบายๆวันนี้ไปคุยเรื่อง “ลำไย” กันนะครับ ผลไม้ตามฤดูกาลที่มีรสชาติหอมหวานอร่อยได้กลายเป็น superfood ที่มีคุณค่าทางอาหารและการรักษาโรคไปแล้ว เช่น ช่วยให้นอนหลับสบาย มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็ง บำบัดอาการปวดข้อเข่าปวดกล้ามเนื้อ ไปจนถึง การป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่และไวรัสโควิด-19

ถ้าสามารถทำให้ “ลำไย” ผลไม้ที่มีปัญหาราคาตกต่ำทุกฤดูกาล กลายเป็น superfood ที่มีคุณค่าทางโภชนาการและการรักษาโรคได้ จะช่วยให้ชาวสวนลำไยมีฐานะดีขึ้นแน่นอน

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ศ.ภญ.ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ได้ร่วมมือกับ มหาวิทยาลัย lnnbruck และ สถาบัน ASSI ประเทศออสเตรีย ประสบความสำเร็จในการศึกษาวิจัยนำ “ลำไยสกัดเข้มข้น” มาพัฒนาเป็น “สูตรสมุนไพรพ่นลำคอและจมูก” เพื่อ ลดปริมาณไวรัสที่เกาะติดเยื่อบุและปริมาณไวรัสที่อาจเข้าสู่ร่างกายได้ เหมาะสำหรับ ใช้ป้องกันการติดเชื้อไวรัสทุกชนิด รวมทั้ง ไวรัสโควิด-19 ด้วย ซึ่งเป็นผลงานวิจัยที่น่าทึ่งมาก

ศ.ภญ.ดร.พรอนงค์ เปิดเผยต่อว่า ลำไยสกัดเข้มข้นด้วยกรรมวิธีพิเศษ (P80) ได้ผ่านการทดสอบว่า สามารถลดการยึดเกาะของเชื้อไวรัสที่เยื่อบุอ่อน ไม่ว่าจะเป็นที่ โพรงจมูก และ ลำคอ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถสร้าง complementary C3a ซึ่งเป็น สารก่อการอักเสบที่รุนแรงในปอด นับเป็นสมุนไพรตัวแรกที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ลดการติดเชื้อที่โพรงจมูกและลำคอได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง ผลการศึกษาพบว่าฤทธิ์ดังกล่าวสามารถอยู่ได้นาน 2 วัน ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาประสิทธิภาพในผู้ป่วยจริงทางคลินิก โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ

...

(P80 เป็นนํ้าลำไยสกัดเข้มข้นจากลำไย 100% ได้รับการรับรองจาก อย. เป็นผลิตภัณฑ์ในเครือพีเอ็ม 80 ของ คุณประยุทธ มหากิจศิริ)

ศ.ภญ.ดร.พรอนงค์ เปิดเผยว่า ลำไยเป็นผลไม้ที่เรารับประทานอยู่แล้ว จึงมีความปลอดภัยสูง ตำราแพทย์แผนโบราณก็ระบุว่าลำไยสามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ จึงได้ศึกษาวิจัยสารสกัดลำไยจนพบว่า สามารถลดการยึดเกาะเชื้อไวรัสและมีฤทธิ์ต่อเชื้อไวรัสแทบทุกชนิด โดยได้ทดสอบไปแล้วกับเชื้อไวรัสหลายประเภท เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ เชื้อที่ก่อให้เกิดโรคเริม ฯลฯ ซึ่งได้ผลมีประสิทธิภาพดีกับเชื้อไวรัสทุกชนิดที่ทดสอบในการทำวิจัย

การวิจัยเริ่มจากการเลือก สารสกัดลำไยที่มีสารในกลุ่มโพลี-ฟินอลในปริมาณสูง ซึ่งเป็นสารสกัดลำไยที่ผ่านกระบวนการสกัดพิเศษด้วยอุณหภูมิตํ่าภายใต้ความดันสูง และผ่านการกรองหลายครั้งจนได้สารสกัดที่มีความเข้มข้น จากนั้นจึงนำมาตั้งสูตรตำรับพ่นจมูกและลำคอ เพื่อให้มีความหนืดและค่าความตึงตัวที่เหมาะสม เมื่อพ่นเข้าไปในโพรงจมูกและลำคอแล้วไม่ระคายเคือง ที่สำคัญต้องทำให้ขนาดละอองพอเหมาะสามารถเข้าไปถึงอวัยวะที่ต้องการออกฤทธิ์ได้ ถ้าพ่นที่โพรงจมูกก็มีขนาดเล็กพอให้ทั่วโพรงจมูก แต่ไม่เล็กจนทำให้เข้าสู่ปอด ถ้าพ่นลำคอก็เข้าถึงด้านในลำคอได้โดยไม่ติดที่ปาก ลิ้น และฟัน

เมื่อศึกษาความคงตัวของสูตรตำรับแล้ว จึงนำมาทดสอบทางคลินิกเพื่อดูประสิทธิภาพในผู้ป่วยจริง โดยใช้พ่นทั้งลำคอและช่องจมูกวันละ 2 ครั้งเช้าเย็น สามารถออกฤทธิ์ได้ทันที ทั้งการออกฤทธิ์ทางกายภาพ ป้องกันการยึดเกาะของเชื้อไวรัสต่อเยื่อบุผิว และการออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ป้องกันการเกิดสารก่อการอักเสบ กรณีที่ผู้ใช้ต้องเดินทางไปในสถานที่เสี่ยงสูง เช่นที่มีคนแออัด สามารถพ่นจมูกหรือลำคอก่อนเข้าสู่บริเวณดังกล่าว แล้วจึงสวมหน้ากากอนามัย งานวิจัยนี้ทำมาประมาณปีครึ่งแล้วตั้งแต่โควิดยังไม่ระบาด เมื่อมีการระบาดก็นำไป ทดสอบกับเชื้อโควิด–19 ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบทางคลินิกกับอาสาสมัคร 62 รายร่วมกับ โรงพยาบาลวิภารามชัยปราการ คาดว่าอีก 3 เดือนน่าจะออกสู่ตลาดได้

ออกขายเมื่อไหร่ คุณประยุทธ มหากิจศิริ เจ้าของ P80 รวยขึ้นอีกไม่รู้เรื่องแน่นอน.

“ลม เปลี่ยนทิศ”