ในหนังสือ “เรื่องเล่าจากข้าวของเครื่องแต่งกาย” (สำนักพิมพ์พิมพ์คำ พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ.2553) ส.พลายน้อย เกริ่นนำเรื่อง “หวี” ว่า วันหนึ่งหาหวีหวีผมไม่ได้ เพื่อนแนะให้ใช้มือไปก่อน ท่านจึงตั้งสมมติฐานว่า หวี น่าจะมีที่มาจาก “มือ”
ก็เป็นจริงตามนั้น หวีที่พบจากสุสานชาวอียิปต์ มีรูปร่างเหมือนฝ่ามือ ส่วนมากทำด้วยไม้ ส่วนน้อยทำด้วยงาช้าง บางอันมี 34 ซี่ บางอันมี 18 ซี่ อายุราว 3,200 ปี ถึง 4,000 ปี ถือว่าเก่าแก่กว่าหวีชาติอื่นๆ
หวีอินเดียที่พบอายุราว 4,000 ปี ทำด้วยทอง เงิน ทองแดง งาช้าง รูปร่างหลายแบบ บางอันมีซี่เดียว บางอันสองซี่ บางอันหกซี่ เหตุที่หวีอินเดียมีซี่น้อย เพราะผู้หญิงอินเดียไว้ผมยาวตอนขึ้นจากน้ำ ใช้หวีซี่มากไม่ได้ ต้องใช้หวีซี่น้อยๆแยกผมให้กระจายเสียก่อน
หวีอินเดียโบราณรูปร่างแปลกๆ ชนิดมีซี่เดียวหรือสองซี่ เขามักทำเป็นวัวนนทิบ้าง รูปเขากวางบ้าง เอาเขาวัวเขากวางนั่นแหละ เป็นซี่หวี มีรูปร่างต่างๆกัน หวีอินเดียจึงเป็นของน่าใช้ วิจิตรงดงามตระการตาหวีอินเดียโบราณอันหนึ่ง แกะด้วยงาช้างเป็นรูปคน แต่ไม่ระบุปีที่สร้าง หวีงาไทย พบที่เมืองโบราณจันเสน จ.นครสวรรค์ อายุราวพุทธศตวรรษที่ 12หวีที่เก่าแก่อีกอัน มีภาพให้ดู เป็นหวีชาวอาหรับ รูปร่างเหมือนหวีเสนียด อีกอันเป็นหวีชาวโฟนิเชียน แกะด้วยงาช้าง เหมือนหวีเสนียด
เอ่ยคำว่าหวีเสนียดของโบราณ ส.พลายน้อย เล่าว่า สมัยท่านยังเป็นเด็กก็สัก 70-80 ปีที่แล้ว คนสมัยนั้นใช้หวีเสนียดกันอยู่ พวกเด็กๆ ได้ยินก็หัวเราะ เพราะไม่รู้จัก “เขารู้จักแต่คำว่า เสนียด ที่แปลว่า จัญไร ไม่รู้ว่าเป็นชื่อหวี”
หวีเสนียด เป็นหวีมีซี่สองข้าง มีแกนตรงกลาง หวีได้ทั้งสองข้าง ซี่ห่างด้านหนึ่ง ซี่ถี่ด้านหนึ่ง ทำด้วยไม้ เวลาหวีกวาดเอาขี้รังแคหรือผงไผ่ออกมาหมด
...
หวีเสนียด ใครทำมาขาย หาทางสืบไม่ได้เสียแล้ว แต่จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่ามีตัวหนังสือจีนอยู่ที่แกนหวี
ผมอ่านเรื่องหวีของอาจารย์ ส.พลายน้อย ถึงตอนนี้ ก็ขออนุญาตเสริม เคยได้ความรู้จากสมภารวัดปราโมทย์ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ว่า ที่ตั้งวัดของท่าน เดิมทีอยู่ในตำบลโรงหวี
บ้านเกิด “สุนทราภรณ์” หรือครูเอื้อ สุนทรสนาน ก็แถวๆนี้ เพียงแต่ตอนนี้ ชื่อตำบลโรงหวีถูกเปลี่ยนเป็นอื่น
เค้าลางโรงหวี เคยมีอยู่ที่ไหน ถามคนเก่าๆหลายคน ก็ไม่มีใครจำได้
ถ้าจะให้ผมเดา ตำบลโรงหวี อยู่ไม่ไกลจากค่ายบางกุ้ง ที่ทหารจีนของพระเจ้าตากเคยสู้กับพม่า โอกาสที่คนจีนจะตั้งโรงงานทำหวีขึ้นที่นี่ ก็พอมี หรือหวีเสนียด จะทำขึ้นที่โรงหวี...ละแวกนี้ล่ะกระมัง
เด็กรุ่นผม เมื่อถูกสงสัยว่าหัวจะมีเหา เคยถูกผู้ใหญ่ใช้หวีเสนียดสางหัว...สางๆไป ปากก็บ่นไป ไม่เจอเหา ก็สางเอาตัวจัญไร (แม่กับลูก คงหมายถึงตัวซน) ออกเสียบ้าง
ที่จริงภาษาเขมร เสนียด หมายถึงหวี เขมรสุรินทร์เรียกหวีเสนียดว่า กระสะแนร์ แต่ชื่อหวีถูกเอาใช้ กลายเป็นคำน่ารังเกียจ หมายถึงเสนียด หมายถึงจัญไร ให้คนเอาไปใช้ด่ากัน
สมมติเป็นเรื่องการเมือง การอภิปรายไม่ไว้วางใจอีกวันสองวัน ฝ่ายค้านเขาตั้งท่า เหมือนใช้หวีเสนียด สางๆเต็มที่ ตั้งใจจะให้อะไรๆที่ไม่ดีหลุดออกบ้าง บางคนอาจใช้คำแรง เรียกสิ่งที่หลุดออกไปว่า “ตัวจัญไร”
เรื่องหวีก็จบลง ตรงหวีเสนียด สางจัญไร ออกไปด้วยประการฉะนี้แล.
กิเลน ประลองเชิง