นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า วันที่ 21 ต.ค.ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระมารดาแห่งการทันตแพทย์ไทย และเป็นวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ปี 2563 กรมอนามัยร่วมกับมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จ-พระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) จัดโครงการรณรงค์ “คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า สานต่อคุณค่า เพื่ออนาคตเด็กไทยฟันไม่ผุ” รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและเทิดพระเกียรติสมเด็จย่าของปวงชนชาวไทย และกระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากเด็กปฐมวัย เนื่องจากปัญหาสุขภาพช่องปากเป็นหนึ่งในปัจจัยทางชีวภาพด้านสุขภาพของเด็กปฐมวัย

นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า จากการศึกษาของกรมอนามัยเรื่องพัฒนาการของเด็กปฐมวัยไทยล่าสุด พบว่า เด็กปฐมวัยที่ไม่มีปัญหาสุขภาพช่องปากมีโอกาสที่จะพัฒนาการสมวัยเพิ่มขึ้น 1.43 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กที่มีปัญหาสุขภาพช่องปาก และจากการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติ ครั้งที่ 8 ประเทศไทย ยังคงพบความชุกของโรคฟันผุในเด็กอายุ 3 ปี ร้อยละ 52.9 และเด็กอายุ 5 ปี ร้อยละ 75.6 การป้องกันฟันผุในเด็กเล็กที่ง่ายและได้ผลดีที่สุด คือ ผู้ปกครองควรแปรงฟันให้เด็กตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกเริ่มขึ้นด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ และแปรงฟันให้ต่อเนื่องจนกว่าเด็กมีพัฒนาการข้อมือที่แข็งแรงประมาณอายุ 7-8 ปี เด็กจึงจะสามารถแปรงฟันได้เอง โดยมีผู้ปกครองเน้นเรื่องความสะอาดและการแปรงเป็นประจำจนเป็นนิสัย นอกจากนี้ ควรนำเด็กปฐมวัยไปรับการตรวจคัดกรองสภาวะโรคฟันผุโดยทันตบุคลากร หากประเมินแล้วพบว่าเริ่มมีความเสี่ยงฟันผุ จะได้รับคำแนะนำการดูแลสุขภาพช่องปาก เคลือบฟันด้วยฟลูออไรด์ความเข้มข้นสูง และนัดตรวจติดตามเป็นระยะๆทุก 3 เดือน

...

ท.พญ.ปิยะดา ประเสริฐสม ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กล่าวว่า วันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ 21 ต.ค.ปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดให้มีบริการทันตกรรมแก่ประชาชนโดยไม่คิดค่าบริการในโรงพยาบาลของรัฐ ขณะที่กรมอนามัยได้จัดบริการตรวจสุขภาพช่องปาก อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน เคลือบฟลูออไรด์ ให้คำปรึกษาและคำแนะนำการดูแลสุขภาพช่องปากโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่คลินิกส่งเสริมสุขภาพช่องปากและทันตกรรมป้องกัน กรมอนามัย ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น.