ผ่านไปเรียบร้อยโรงเรียนรัฐบาลไทยแล้วนะครับ สำหรับงาน “จ๊อบ เอ็กซ์โปไทยแลนด์ 2020” ที่กระทรวงแรงงานเป็นเจ้าภาพ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 26–28 กันยายน ที่ไบเทค บางนา รวม 3 วันเต็มๆ

แต่ละวันมีพี่น้องประชาชนทั้งคนตกงาน และคนที่มีความประสงค์จะเปลี่ยนงานแห่ไปสมัคร โดยเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 250,000 คน ตามที่สื่อบางฉบับประเมินไว้

หวังว่าคงจะได้งานทำครบถ้วนทุกคนนะครับ เพราะในการจัดงานมหกรรมที่มีชื่อเป็นไทยๆว่า “ล้านงาน เพื่อล้านคน” ครั้งนี้ มีหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน มาเปิดรับสมัครงานถึง 570 หน่วย โดยมีตำแหน่งงานว่างที่จะรับได้ถึง 1,355,187 อัตรา

ผมไม่แน่ใจว่า ทางกระทรวงแรงงานจะมีรายชื่อหน่วยงานที่ไปเปิดรับสมัครแรงงานต่างๆ พร้อมรายละเอียดความต้องการแรงงานลงไว้ในเว็บไซต์ www.ไทยมีงานทำ.com ของกระทรวงหรือไม่

ถ้ายังไม่ได้ลงโปรดลงด้วยนะครับ พร้อมกับประกาศเผยแพร่อย่างกว้างขวาง ให้ใครก็ตามที่ไปสมัครไม่ทันที่ไบเทคตามไปสมัครต่อได้ที่เว็บไซต์หรือที่บริษัทโดยตรง ในกรณีที่ยังไม่เต็ม

ผมต้องขอขอบคุณ “บิ๊กตู่” ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล และขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สุชาติ ชมกลิ่น ที่เราเรียกกันอย่างล้อเลียนว่า “จับกัง 1” ที่จัดงานมหกรรมครั้งนี้ขึ้น

ทำให้เรารู้ว่าประเทศไทยเรายังมีตำแหน่งงานรออยู่ถึง 1 ล้านกว่าตำแหน่ง ซึ่งเมื่อมีการรับหรือบรรจุไปแล้วก็จะช่วยแก้ปัญหาการตกงานจากโควิด-19 ได้พอสมควรทีเดียว

เท่าที่เราเคยได้ยินได้ฟังนักเศรษฐศาสตร์หลายๆสำนักคาดการณ์ไว้ ผลจากการระบาดของไวรัสมหาภัยพันธุ์นี้ จะทำให้คนไทยตกงานตั้งแต่ 7 ล้านไปถึง 9 ล้านคน

...

ได้กลับไปทำงาน 1 ล้านคนเศษๆ แม้จะยังห่างจากตัวเลขว่างงาน ที่คาดไว้อีกเยอะมาก แต่ก็จะช่วยได้พอสมควรในระดับหนึ่งทีเดียว

ผมยังจำได้ดีและขอยกตัวอย่างอีกครั้งว่า ตอนเศรษฐกิจตกต่ำปี 2527 จนถึงขั้นลดค่าเงินบาทอย่างแรงในยุคป๋าเปรม และต่อมาป๋าก็สั่งการให้ สภาพัฒน์ ไปจัดโครงการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจนั้น

โครงการแรกก็คือ “ส่งเสริมการท่องเที่ยว” ใช้เงินงบกลาง 40-50 ล้านบาท ปรากฏว่าได้ผลอย่างมหัศจรรย์ นักท่องเที่ยวแห่มาเที่ยวไทยมืดฟ้ามัวดิน ที่ผมเล่าไว้เมื่อสัปดาห์ก่อนโน้น

อีกโครงการหนึ่งก็คือ โครงการ “ตลาดนัดแรงงาน” ครับ ช่วงนั้นยังนึกชื่อเก๋ๆอย่าง “เอ็กซ์โป” หรือ “ล้านงานเพื่อล้านคน” อะไรไม่ออก ท่านรองเลขาธิการสภาพัฒน์ โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ แม่งานใน พ.ศ.นั้น ก็เรียกง่ายๆว่า “ตลาดนัดแรงงาน”

โดยเชื้อเชิญบริษัทห้างร้าน และโรงงานอุตสาหกรรมกว่า 100 แห่งเหมือนกัน มาออกบูธ รับสมัครงานที่ข้าง หอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ และสนามฟุตบอล ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

ผมยังจำได้เราจัดงานวันเดียว ผู้คนแห่มาธรรมศาสตร์ ซึ่ง เปิดประตู ไว้แล้วทุกด้าน (เพราะขออนุมัติแล้ว ท่านอธิการยุคนั้นบอกว่า เปิดประตูได้) ทะลักเข้าไปเต็มมหาวิทยาลัยทุกตารางนิ้ว

ตามมาด้วยอีกกลุ่มใหญ่ไม่รู้กี่หมื่นคนกำลังลงจากรถเมล์ เดินมุ่งหน้าข้ามสนามหลวงเห็นศีรษะมืดไปหมด

รุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์พาดหัวคนตกงานนับแสนมุ่งไปธรรมศาสตร์ เพื่อหางานทำในตลาดนัดแรงงาน และ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านก็ออกมาให้สัมภาษณ์ตำหนิป๋าเปรมว่า...เห็นไหมบริหารงานแย่มาก ทำให้คนไทยตกงานเต็มท้องสนามหลวง

ผมเล่าเรื่องนี้ประกอบด้วย เพื่อจะกราบเรียนไปถึงนายกฯบิ๊กตู่ เพราะได้ยินท่านบ่นอยู่บ่อยๆว่า รัฐบาลผมทำงานตั้งเยอะไม่เห็นสื่อเขียนชมบ้างเลย มีแต่วิจารณ์ประชาชนเขาก็เลยหาว่าผมไม่ได้ทำงาน

สื่อก็ดี พรรคฝ่ายค้านก็ดี เขาจะมีมุมมองของเขา คนละมุมอยู่เสมอแหละครับ และจะวิพากษ์วิจารณ์หรือตำหนิติติงไปเรื่อยๆ

ป๋าเปรมท่านโดนวิจารณ์หนักกว่านี้อีกครับ แต่ท่านทำเฉยๆเสีย เป็นพระเตมีย์ใบ้ไม่ตอบโต้ก็จบไป

ที่ผู้คนชื่นชมว่าป๋าเก่ง ป๋าบริหารดี เป็นต้นกำเนิดของเศรษฐกิจ ยุคโชติช่วงชัชวาล อีสเทิร์นซีบอร์ด และอีกสารพัดความดีงามนั้น เกิดขึ้นหลังจากป๋าบอกว่า “ผมพอแล้ว” ทั้งนั้นล่ะครับ.

“ซูม”