คุณแม่วัย 35 คลอดลูกชายคนที่ 2 ในห้องน้ำ เผยไม่มีอาการปวดท้องเหมือนกับท้องแรกเมื่อ 13 ปีก่อน ชาวเน็ตชื่นชมพยาบาลรพ.สต.คำใหญ่ รีบมาช่วยตัดสายสะดือก่อนนำส่ง รพ.
จากรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก คนองเดช ทุ่มศรีลา โพสต์ข้อความ และภาพระบุว่า "ขอชื่นชมคุณหมอโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคำใหญ่ ที่ช่วยทำคลอดเด็กมากๆ ครับ คุณหมอเก่งมากๆ ขณะนี้ทั้งแม่และลูกปลอดภัยดีแล้ว ขอชื่นชมคุณหมอที่สามารถนำเด็กออกมาได้ในเคสฉุกเฉินแบบนี้ครับ"
โดยภาพในโพสต์ดังกล่าว เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นในห้องบ้านหลังหนึ่ง มีผู้หญิงคนหนึ่งคอยส่องไฟฉายให้กับเจ้าหน้าที่ ที่อยู่ในชุดแต่งกายคล้ายพยาบาลหญิงกำลังตัดสายสะดือ ก่อนนำผ้าสีชมพูห่อตัวให้เด็กทารก และอุ้มทารกอย่างทะนุถนอม ซึ่งมีการกดไลค์กดแชร์และคอมเมนต์กันอย่างแพร่หลาย ถือเป็นภาพเหตุการณ์ที่สร้างความสนใจให้กับโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก เพราะเหมือนหมอตำแยทำคลอดในบ้าน
จากการสอบถามนายสมพงษ์ ภูผิวฟ้า สาธารณสุข อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ทราบว่า หญิงสาวที่คลอดลูก อายุ 35 ปี ส่วนทารกที่เพิ่งคลอดเป็นเพศชาย น้ำหนัก 3,120 กรัม ชื่อ ด.ช.พีช อายุ 3 วัน ซึ่งเป็นการคลอดฉุกเฉินที่บ้านเลขที่ 212 หมู่ 3 ต.คำใหญ่ ช่วงเวลาประมาณ 15.00 น.ของวันที่ 21 เม.ย.63 ที่ผ่านมา โดยหญิงที่คลอดบุตรได้บอกให้ลูกชายคนโตไปตามเจ้าหน้าที่ รพ.สต.มาช่วยตามภาพที่ปรากฏในเฟซบุ๊กดังกล่าว ซึ่งตอนนี้ทั้งหญิงที่คลอดและบุตรปลอดภัย และกำลังพักฟื้นที่โรงพยาบาลห้วยเม็ก
คุณแม่ เล่าว่า ตนเคยผ่านการคลอดบุตรคนแรกมาเมื่อ 13 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมาคลอดที่โรงพยาบาลห้วยเม็ก สาเหตุที่ตนคลอดน้องพีชในห้องน้ำนั้น ถือเป็นการคลอดฉุกเฉิน เพราะไม่รู้สึกปวดท้องเหมือนคลอดลูกคนแรกเลย ก่อนคลอดรู้สึกปวดท้องเหมือนขับถ่ายธรรมดาเท่านั้น
...
ทั้งนี้ พอเสร็จธุระจากการเข้าห้องน้ำลูกหลุดออกมาทันที ตกใจทำอะไรไม่ถูก จึงร้องเรียกลูกชายคนโต ที่อยู่ข้างนอกให้ไปตามเจ้าหน้าที่ รพ.สต.คำใหญ่ มาช่วยเหลือเบื้องต้น ก่อนนำส่ง รพ.ห้วยเม็ก ทำให้ตนและน้องพีชปลอดภัยดังกล่าว
ด้าน นพ.วิษณุกร อ่อนประสงค์ ผอ.รพ.ห้วยเม็ก กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ รพ.สต.ที่ทำการช่วยเหลือ น.ส.รุ่งอรุณ และน้องพีชดังกล่าว ชื่อนางจารวี เพ็งโสภา พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ รพ.สต.คำใหญ่ จากการตรวจสอบประวัติของคุณแม่ ทราบว่าน้องพีชเป็นบุตรคนที่ 2 ห่างจากท้องคนแรก 13 ปี ถือเป็นการคลอดตามธรรมชาติ ร่างกายสมบูรณ์ ปกติเหมือนทารกแรกเกิดโดยทั่วไป ตอนนี้สุขภาพแข็งแรงทั้งแม่และลูก อีก 2-3 วันคงอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพร่างกายของแม่และลูกด้วย