ลิงปรางค์สามยอด และลิงฝั่งตลาดเทศบาล ยกพวกตีกันอย่างดุเดือดนับพันตัว คาดสาเหตุมาจากแย่งอาหาร ขณะที่ ชาวบ้านเล่าอยู่มา 60 กว่าปี ไม่เคยเห็นลิงทะเลาะรุนแรงขนาดนี้มาก่อน

วันที่ 11 มี.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการเผยแพร่ภาพคลิปจากประชาชนชาวจังหวัดลพบุรี ถึงเรื่องลิงลพบุรียกพวกตีกันอย่างดุเดือดฝั่งละนับพันตัว ระหว่างลิงปรางค์สามยอด และลิงตึกฝั่งตลาดเทศบาล ซึ่งไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน ว่าลิงจะมีการยกพวกตีกันมากมายขนาดนี้ ต่างวิเคราะห์ว่าน่าจะเกิดจากความร้อนระอุทะลุ 40 องศาฯ ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ที่ทำให้ลิงหงุดหงิด โมโห ก้าวร้าว หรือเป็นเพราะลิงต้องการแย่งอาหารกันกิน

ทางด้าน ลุงเบี้ยว อ่ำอินทร์ อายุ 65 ปี อาชีพขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่คลุกคลีอยู่กับลิงมาทั้งชีวิต เล่าว่าตั้งแต่อยู่ลพบุรีมา ก็เพิ่งจะเคยเห็นลิงลพบุรีทะเลาะกันดุเดือด มากที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา เมื่อเช้าเวลาประมาณ 08.30 น. จ่าฝูงปรางค์สามยอด พร้อมพวกนับ 100 ตัว ได้ข้ามมาฝั่งตลาดเทศบาลเพื่อกินอาหาร จ่าฝูงฝั่งตลาดไม่ยอมรวบรวมพรรคพวกรุมกัดลิงฝั่งปรางค์สามยอดจนต้องล่าถอยกับปรางค์สามยอด โดยลุงเบี้ยวคิดว่าคงไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก

...

กระทั้งเวลา 11.00 น. จ่าฝูงฝั่งปรางค์สามยอด ได้ยกพวกน้อยใหญ่นับพันตัวข้ามฝั่งเปิดฉากตะลุมบอนกับลิงตลาดที่ตั้งรอตั้งรับเช่นกัน ต่างกัดกันอย่างอุตลุด ดุเดือด ไม่สนใจรถที่ขับผ่านเส้นทาง จนชาวบ้านผู้สัญจรไปมาต้องหยุดรถเพื่อดูเหตุการณ์ และเพื่อความปลอดภัย ทั้งสองฝ่ายเปิดฉากต่อสู้กันประมาณ 5 นาที มีลิงถูกกัดบาดเจ็บฝ่ายละหลายตัว และต่างล่าถอยกับถิ่นของตัวเอง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตื่นตกใจให้กับพี่น้องชาวจังหวัดลพบุรี และผู้ที่คลุกคลีอยู่กับลิงอยางมาก

ขณะที่ น.ส.แอน (นามสมมติ) ผู้บริการ และอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว เล่าว่าเกิดมาเพิ่งเคยเจอเหมือนกัน รู้สึกตื่นเต้น ไม่เคยเห็นลิงทะเลาะกันมากมายขนาดนี้ ซึ่งทั้งสองเล่าพ้องกันว่า เป็นเพราะความหิวของลิงปรางค์สามยอด ที่มีอาหารให้ไม่เพียงพอ จนต้องตัดสินใจข้ามฝั่งมาเพื่อแย่งอาหารกับลิงในตลาด ซึ่งเกิดจากสถานที่ให้อาหารของลิงปรางค์สามยอดนับพันตัวอยู่ไกลนักท่องเที่ยว ผู้ที่นำอาหารมาให้ไปไม่ถึง ลิงศาลพระกาฬ และลิงตลาดจะได้รับอาหารจำนวนมากจากนักท่องเที่ยว และจากผู้ที่นำอาหารมาให้บางวันเหลือเฟือ แต่ลิงปรางค์สามยอดกลับอดอยากจนเป็นเหตุให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

(ขอบคุณเฟซบุ๊ก พระครู สิริสิกขวิธาน)