ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ แจงดราม่าหนุ่มโดนล็อกล้อหลังจอดในที่ห้ามจอดเพราะรีบเอาถังออกซิเจนไปให้แม่ สุดท้ายไปไม่ทันแม่เสียชีวิต
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความอ้างว่า ถูกตำรวจจราจร สภ.หาดใหญ่ ล็อกล้อขณะนำรถไปจอดในที่จอดรถจักรยานยนต์ข้างโรงพยาบาลหาดใหญ่ เพราะรีบไปเช่าเครื่องออกซิเจนไปให้แม่ที่ป่วย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันให้ไปจ่ายค่าปรับที่โรงพักก่อนจึงจะปลดให้ สุดท้ายนำเครื่องออกซิเจนไปให้แม่ไม่ทันและเสียชีวิตในเวลา 11.25 น. ของวันที่ 5 ม.ค.63 ทำให้เวลาต่อมามีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมากนั้น
ล่าสุด วันที่ 6 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พ.ต.ท.นฤทธิ์ เครือเนตร สารวัตรจราจร สภ.หาดใหญ่ เปิดเผยว่า บริเวณพื้นที่รอบโรงพยาบาลหาดใหญ่มีปัญหาการจอดรถมาก จึงจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายโดยการบังคับล้อกับรถที่ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ถนนอย่างเท่าเทียมกัน
"สำหรับกรณีนี้ตำรวจไม่รู้ว่าข้อมูลที่ประชาชนบอกนั้นเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ถ้ารู้ความจริงว่ามีใครสักคนรอความช่วยเหลืออยู่ตำรวจไม่ใจดำและจะจัดรถนำพาไปถึงบ้านผู้ป่วยทันที
...
และหากกรณีนี้เป็นสาเหตุหลักที่ให้ทำผู้ป่วยท่านนี้เสียชีวิตตนก็กราบขออภัยและขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาและออกคำสั่งให้ตำรวจจราจรนายนี้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ตำรวจจราจรทุกนายไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในสังคมเพียงแค่ต้องการจัดระเบียบจราจรให้ดีที่สุดเท่านั้น"
พ.ต.ท.นฤทธิ์ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ยืนยันว่าตำรวจจราจรไม่หวังผลประโยชน์แอบแฝงและทำไปตามกฎหมายกับผู้ที่ฝ่าฝืน ส่วนเหตุผลและความจำเป็นนั้นสามารถคุยกันได้ ไม่ได้ต้องการจะปรับ 500 หรือ 1,000 บาท เพราะบางรายก็ปรับแค่ 200 หรือแค่ว่ากล่าวตักเตือนก็มี
ขณะที่บรรยากาศที่วัดสิกขาราม ต.คลองแดน อ.ระโนด จ.สงขลา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพแม่ของเจ้าของโพสต์ โดยทางเจ้าของโพสต์ปฏิเสธไม่ขอเป็นข่าวหรือให้สัมภาษณ์ใดๆ บอกแต่เพียงว่าที่โพสต์เรื่องนี้ลงไปเพราะอยากให้เป็นอุทาหรณ์กับสังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะตำรวจให้ฟังเหตุผลและอะลุ่มอล่วยบ้าง
แต่ตนก็มีส่วนผิดที่ทำผิดกฎจราจรไปจอดในที่ห้ามจอด และขอจบเรื่องนี้ไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราวหรือเป็นข่าวยืดเยื้อและไม่ติดใจเอาความใดๆ.