ทำเหมือนเราไม่ใช่คน "หนุ่มขับกระบะ" เล่านาทีเกิดอุบัติเหตุ ก่อนโดน "หนุ่มแว่นหัวร้อน" ดูถูกเหยียดหยาม บังคับก้มกราบเท้าแต่ไม่ทำตาม

จากกรณี หนุ่มแว่นหัวร้อน ขับรถป้ายแดงชนกับรถกระบะ บนถนนอักษะ แต่แทนที่จะลงมาเจรจากับคู่กรณีดีๆ กลับต่อว่า โวยวาย และดูถูกคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ จนกระทั่งโดนบริษัทไล่ออกจากงาน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด นายนันทวัฒน์ กมลรัมย์ หนุ่มขับรถกระบะ หรือ เจ้าของคลิปดังกล่าว ได้เล่าจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ทั้งหมดว่า "เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ขณะขับรถกระบะไปส่งของบนถนนพุทธมณฑลสาย 4 เมื่อขับมาใกล้ถึงบริเวณจุดยูเทิร์นรถหน้าทางเข้าพุทธมณฑล ก็เห็นว่ารถเก๋งคู่กรณีค่อยๆ เคลื่อนตัวยูเทิร์น ตนจึงกะพริบไฟเตือน เพราะความเร็วรถของคู่กรณีอยู่ที่ประมาณ 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และบรรทุกหนัก ทำให้ยากต่อการเบรก จึงกะพริบไฟเตือนไม่ให้รถคู่กรณีพุ่งออกมา แต่คู่กรณีก็ยังพุ่งออกมาจนถึงเลนที่ตนขับ ทำให้ตัดสินใจหักเข้าเลนซ้ายและเฉี่ยวชนกับคู่กรณี จนทะเบียนของรถเก๋งหลุด ก่อนที่จะจอด และลงไปสอบถาม"

"จากนั้นเมื่อเดินไปหารถคู่กรณีถามว่าได้รับความเสียหายอะไรบ้าง แต่กลับถูกคู่กรณีโวยวาย ด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย เขาจึงเดินไปเอามือถือขึ้นมาถ่ายไว้เป็นหลักฐานป้องกันว่าอาจเกิดเหตุรุนแรงขึ้นได้ เพราะอาการของคู่กรณีดูเกรี้ยวกราด เหมือนคนเมา ทั้งยังถูกคู่กรณีด่าทอ ดูถูก เหยียดหยาม ว่าเขาไม่มีปัญญาชดใช้รถยนต์ของคู่กรณีที่มีราคาแพง ทำเหมือนเราไม่ใช่คน"

...

"ตนก็พยายามทำใจเย็น ไม่โกรธหรือตอบโต้รุนแรง แต่คู่กรณีก็ยังโวยวายต่อ ส่วนแฟนสาวของคู่กรณีก็พยายามห้าม แต่คู่กรณีก็ยังไม่หยุด และยังพาลไปด่าคนอื่นอีกด้วย ทั้งยังมาเอามือถือตนปาลงพื้นอีกด้วย บังคับให้ตนก้มลงกราบเท้า แต่ตนไม่ทำตาม"

"ซ้ำยังอ้างอีกว่าตนมีหน้าที่เหยียบเบรกชะลอความเร็ว ซึ่งคำพูดนี้คู่กรณีไม่ยอมโทษว่าคู่กรณีเป็นฝ่ายผิด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคู่กรณีถึงต้องแสดงพฤติกรรมออกมาแบบนี้" หนุ่มขับกระบะ กล่าว.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง