หนุ่มผมยาวหอบเพชร 15 กะรัตไปร้านทองตั้งใจเอาไปขาย แต่พนักงานไม่รับบอกรับแต่ทองเท่านั้น หนุ่มโกรธจัดท้าต่อยตำรวจที่มาเข้าเวรยาม
จากกรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก หนองใหญ่มีอะไร ได้แชร์คลิปชายคนหนึ่งบุกเข้าไปโวยวาย ท้าต่อยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่เวรรักษาความปลอดภัยในร้านทองชื่อดังกลางเมืองกาฬสินธุ์ (ชมคลิป คลิก ที่นี่)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ส.ค.62 นางสาวอารดา ปรีทรัพย์ พนักงานห้างทองอุมารินทร์ เลขที่ 2/6 ถ.ทุ่งศรีเมือง ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผย ผู้ชายคนนี้เคยเห็นมาป้วนเปี้ยนที่ห้างทองแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเขาบอกว่า จะนำเพชร 15 กะรัตมาขายให้ แต่ตนเคยบอกไปว่าทางร้าน ไม่รับซื้อเพชร จะรับซื้อเฉพาะทองรูปพรรณเท่านั้น ชายคนดังกล่าวจึงกลับออกไป ก่อนที่จะกลับมาอีกครั้งในวันที่ 4 ส.ค. เวลาประมาณ 13.00 น.
"ครั้งที่ 2 ที่เขาเข้ามาก็ด่าก่อนเลย ซึ่งพนักงานห้างทอง และลูกค้าที่อยู่ในร้านประมาณ 6-7 คนตกใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาเข้าเวรจึงเข้ามาห้ามปราม ก่อนที่จะเกิดการปะทะคารม และท้าชกต่อยกันตามที่ปรากฏในคลิป"
...
เมื่อเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว ตนจึงได้ร้องห้ามปราม ขณะที่เพื่อนอีกคนเป็นคนถ่ายคลิปไว้ โดยชายผมยาวได้ตะคอกและท้าต่อยตีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่พยายามพูดดีๆ ด้วย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงไปกว่านั้น โดยทั้งสองคนได้พูดจาตอบโต้กันไปมา จนเวลาผ่านไปประมาณ 5 นาที ชายผมยาวจึงมีท่าทีใจเย็นลง
ขณะเดียวกัน ชายคนนั้นก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋าชนิดสะพายแล้วนำวัตถุเล็กชิ้นหนึ่งออกมาวางบนแผ่นกระจกใสหน้าตู้ทอง พร้อมกับบอกว่าจะนำเพชร ขนาด 15 กะรัตมาขาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 2 นายได้เข้ามาสมทบ และนำตัวชายผมยาวไปสอบปากคำที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์
ด้าน นางอุมารินทร์ เลิศสหพันธ์ ผู้จัดการห้างทองอุมารินทร์ กล่าวว่า หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก และทราบว่าชายผมยาวคนดังกล่าว มีความบกพร่องทางสติปัญญา ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่ทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ที่นำตัวชายคนดังกล่าวไปสอบปากคำว่าเป็นบุคคลที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาจริง
พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำชายคนดังกล่าว หากพบว่ามีความบกพร่องทางสติปัญญา ก็จะยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใดๆ พร้อมกับประสานส่งตัวไปยังโรงพยาบาลจิตเวช แต่หากตรวจสอบพบว่าไม่ได้เป็นคนที่สติไม่ดีก็จะนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ประกอบการร้านทองทุกแห่ง ที่ผ่านมาได้ประสานให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเฝ้าดูแล มีการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด สัญญาณเตือนภัยให้มีความพร้อมใช้การได้ ในส่วนของเจ้าของร้านทอง และพนักงานต้องมีปฏิภาณไหวพริบ สังเกตคนเข้าคนออก
หากผิดสังเกต หรือสงสัยเป็นมิจฉาชีพแฝงตัวมา ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที โดยเฉพาะมีระบบป้องกันความปลอดภัยให้กับตนเอง โดยการติดลูกกรง ซึ่งจะช่วยป้องกันเหตุร้ายก่อเหตุฉกชิงทอง รวมทั้งกำหนดเวลาปิดไม่เกิน 16.00 น.เป็นต้น
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบพบว่า ชายคนดังกล่าว มีพฤติกรรมชอบเดินเตร่ไปทั่วเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และเคยเข้าไปติดต่อขายเพชร พลอย และของมีค่าให้กับร้านทองในเขตเทศบาลเมืองหลายแห่ง แต่จากการตรวจสอบพบว่าเป็นของปลอม