เกษตรกรไทยมีความเชี่ยวชาญการเพาะพืชเกษตรมากขึ้น สามารถควบคุมผลผลิตได้ตรงตามความต้องการของตลาดทั้งปริมาณ คุณภาพ และสามารถบังคับกำหนดช่วงเวลาให้ผลผลิตออกมาในช่วงต่างๆได้ทำให้ทุกวันนี้ผลผลิตการเกษตรบ้านเรา มีให้เลือกบริโภคกันได้ตลอดทั้งปี ไม่ต้องรอให้ถึงฤดูกาลอย่างเช่น ยอดมะพร้าวอ่อนปัจจุบันชาวสวนหันมาปลูก เพื่อตัดยอดอ่อนขายกันโดยเฉพาะ เราจึงหาซื้อยอดมะพร้าวอ่อนมาปรุงอาหารทานได้ตลอด‘ยอดมะพร้าวอ่อน’ มีคุณค่าทางอาหารมากมาย ยอดมะพร้าวอ่อน 100 กรัม ให้พลังงาน 45 กิโลแคลอรี โปรตีน 2.0 กรัม ไขมัน 0.7 กรัม คาร์โบไฮเดรต 7.6 กรัม แคลเซียม 58 มิลลิกรัม และฟอสฟอรัส 53 มิลลิกรัม นอกจากนี้ยังมีวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี และไนอาซีนยอดมะพร้าวอ่อนตามธรรมชาติ หลังตัดมาใหม่ๆจะมีสีขาวนวล แต่หากทิ้งไว้นาน ผิวยอดมะพร้าวจะเริ่มคล้ำและเข้มขึ้นไม่ชวนกิน ผู้ขายจึงมักนำยอดมะพร้าวอ่อนไปแช่สาร ‘ฟอกขาว’ (ซัลเฟอร์ไดออกไซด์) เพื่อให้สียอดมะพร้าวขาวเสมือนตัดยอดมาใหม่ๆสำหรับการใช้สารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในผัก ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเลขที่ 389 พ.ศ. 2562 อนุญาตให้ใช้ได้ แต่สามารถใช้ได้ปริมาณสูงสุดไม่เกิน 50 มิลลิกรัม/กิโลกรัม เพราะหากมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกาย มีผลไปลดประสิทธิภาพการใช้ไขมันและโปรตีนในร่างกาย ทําลายวิตามินบี 1 ในอาหารหากสารดังกล่าวสะสมในร่างกายมากๆ อาจทําให้หายใจติดขัด ปวดท้อง ท้องร่วง เวียนศีรษะ อาเจียน หมดสติ ส่วนผู้ป่วยโรคหอบหืด จะทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้นและหลอดลมตีบได้ วันนี้ สถาบันอาหาร ได้สุ่มตัวอย่างยอดมะพร้าวอ่อน จำนวน 5 ตัวอย่าง จาก 5 แผงลอย ในตลาดสดในเขตกรุงเทพฯ นำมาวิเคราะห์สารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ตกค้าง เป็นที่น่าวิตกเป็นอย่างยิ่ง เพราะผลวิเคราะห์ยอดมะพร้าวอ่อน มีอยู่ 4 ตัวอย่าง ที่พบสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ปริมาณเกินค่ามาตรฐานฉะนั้นควรเลือกซื้อยอดมะพร้าวอ่อนทีสีใกล้เคียงธรรมชาติ ไม่ขาวเกิน ล้างให้สะอาดและปรุงให้สุก เพราะสารฟอกขาวจะถูกทำลายด้วยความร้อน.ไทยรัฐ+สถาบันอาหารโครงการอาหารปลอดภัย