นายก อบต. ในคลิปลวนลามเด็ก ป.6 อ้างทำตามคำแนะนำหมอจีน บำบัดโรคอัมพฤกษ์ ด้วยการทำให้เส้นเลือดสูบฉีด กระตุ้นการหมุนเวียน อ้างคุยครอบครัวเด็กแล้ว เด็กยินยอม

จากกรณีโลกโซเชียลมีการแชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ผู้ชาย ลักษณะผมบาง กำลังทำอนาจารกับเด็กผู้หญิง ด้วยการกอดจูบลูบคลำอยู่ภายในรถ ขณะที่หลายคนตั้งข้อสังเกตชายคนดังกล่าวคล้ายผู้นำท้องถิ่นจังหวัดพังงา

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบจนทราบว่า เด็กที่ถูกกระทำอนาจารอายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 ซึ่งพ่อ-แม่แยกทางกัน และได้อาศัยอยู่กับยาย ได้ถูกชายคนดังกล่าวกระทำอนาจารจริง โดยอ้างว่าเป็นการรักษาอาการป่วยของตัวเอง ตามวิธีของหมอจีน ซึ่งได้แนะนำวิธีการรักษาอาการป่วย โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ด้วยการให้กอดลูบคลำเด็กหญิงและวัยรุ่น

ขณะที่ เด็กหญิงน้อย (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า คนก่อเหตุจะใช้รถเก๋งสีบรอนซ์ พาเด็กไปตามที่เปลี่ยว ลวนลามด้วยการกอด จูบ ลูบคลำ หอมแก้ม จับมือ จับหน้าอก เคยโดนถอดเสื้อผ้า แต่ไม่มีอะไรมากกว่านั้น เนื่องจากไม่ยินยอม จากนั้นจะให้เงินไว้ใช้จ่าย เมื่อไปปรึกษาพี่สาวที่เรียนอยู่ระดับ ปวช.1 ก็ทราบว่าพี่สาวเคยถูกผู้ชายคนนี้ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาก่อนด้วย

ความคืบหน้า พ.ต.อ.วีรยุทธ สิทธิรัตนกุล ผกก.สภ.ท้ายเหมือง จ.พังงา พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุรศักดิ์ รอดไกล รอง ผกก.สส.สภ.ท้ายเหมือง เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพังงา ศูนย์ประชาบดีพังงา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสายตรวจ ร่วมกันเข้าสอบถามครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา โดยมีคุณครูประจำชั้นของเด็กผู้เสียหายออกมาพบเจ้าหน้าที่ และว่าเด็กยังไม่พร้อมจะพบ เนื่องจากเด็กยังอยู่ในอาการตกใจ

...

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามยายของ ด.ญ.น้อย ทราบว่า ตนอาศัยอยู่กับหลานสาวตามลำพัง 3 คน ช่วงปี 57 ตนเองและหลานสาวเกิดอุบัติเหตุต้องรักษาตัว และเข้าเฝือกใส่เหล็กดามกระดูกทั้ง 3 คน ทำให้ฐานะที่ยากจนอยู่แล้วกลับลำเค็ญเพิ่มขึ้นอีก โดยได้นายก อบต.ท่านหนึ่งเข้าช่วยเหลือ ปัจจุบันต้องอาศัยเงินส่วนตัวจาก นายก อบต.คนนั้น เฉลี่ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 6,000 บาท

ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น ตนเพิ่งทราบเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เนื่องจากพฤติกรรมของหลานสาวคนเล็กผิดปกติ มีโทรศัพท์และข้อความเข้ามาจำนวนมาก จึงได้สอบถามหลานสาว ก่อนจะพบว่า หลานได้ถ่ายคลิปที่ถูก นายก อบต.คนนั้นลวนลาม ซึ่งตนทราบว่าเขาเป็นอัมพฤกษ์ซีกด้านขวาตั้งแต่แขนขา และเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ไม่น่าจะล่วงละเมิดทางเพศหลานสาวได้ ขณะที่ตนเองให้คำแนะนำนายก อบต.ให้หาหมอนวดแผนโบราณ เพื่อบำบัดร่างกาย และมีหมอจีนที่ตนเองเคยพบ แนะนำว่าให้ผู้เป็นอัมพฤกษ์เกิดกิจกรรมให้เส้นเลือดสูบฉีด กระตุ้นรักษาอาการอัมพฤกษ์ให้ดีขึ้นได้ จึงอาจเป็นไปได้ว่าเขาทำตามคำแนะนำของตน ตอนนี้ตนเครียดและไม่อยากให้หลานเครียดหรือมีอะไรมากระทบจิตใจ จึงพร้อมที่จะจบ โดยไม่มีการแจ้งดำเนินคดีความแต่อย่างใด

ด้าน พ.ต.อ.วีรยุทธ สิทธิรัตนกุล ผกก.สภ.ท้ายเหมือง จ.พังงา กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่พบกับยายของเด็กผู้เสียหาย โดยทางสหวิชาชีพเข้าร่วมตรวจสอบเหตุเบื้องต้นว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร ซึ่งหากทางผู้ปกครองเด็กผู้เสียหายไม่ต้องการแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่พร้อมที่จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย โดยเฉพาะในเรื่องสิทธิเด็กและเยาวชน เบื้องต้นทางตำรวจจะเรียกผู้ปกครองของเด็กเข้ามาสอบปากคำเพื่อหาข้อเท็จจริงตามขั้นตอนของทางกฎหมายต่อไป

ต่อมามีรายงานว่า นายก อบต.คนดังกล่าวยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง ต่อนายประภาส ขุนพิทักษ์ นายอำเภอท้ายเหมือง พร้อมกับทางท้องถิ่นอำเภอท้ายเหมือง โดยระบุเหตุผลจากการลาออกว่า ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ลงวันที่ 1 ก.ค.62

ต่อมา ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อ นายก อบต. ทางโทรศัพท์ กระทั่งติดต่อได้ ก่อนเผยว่า ตนเจอหมอจีนโบราณให้คำแนะนำว่า การแก้โรคอัมพฤกษ์ต้องหาเด็กสาวๆ มาลูบคลำเพื่อทำให้เส้นเลือดสูบฉีด เป็นการกระตุ้นเส้นเลือดให้หมุนเวียน ทำให้อาการดีขึ้น ตนจึงเข้าพูดคุยกับยายและเด็กทั้ง 2 คน เนื่องจากตนเองอุปการะยายและเด็กครอบครัวดังกล่าวอยู่ จึงกล้าที่จะเข้าปรึกษา จนได้รับคำตอบและคำยินยอมจากเด็กวัย 14 ที่อยู่ในคลิป ขณะที่เด็กวัย 16 อายไม่กล้าที่จะทำตาม เนื่องจากเข้าสู่วัยรุ่น อาจมีคำวิพากษ์วิจารณ์ในทางที่ไม่ดี แตกต่างจากเด็กวัย 14 ที่ยินยอมพร้อมใจที่ให้ลูบคลำ เพื่อบำบัดสุขภาพ

ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าแม้จะลูบคลำตามร่างกาย แต่ไม่มีการล่วงละเมิดทางเพศแน่นอน เนื่องจากตนเองเป็นอัมพฤกษ์มาร่วม 3 ปี ทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ.