"ปู่มหามุนี อริยดาบส" ย้ำชัดไม่ได้เป็นฤาษี วอนสังคมมองเป็นคนธรรมดาที่มีความรู้รอบด้าน เปิดใจทั้งน้ำตา บอกที่ห่วงที่สุดคือกลัวครอบครัว ด้านแม่ ยันลูกชายเป็นคนดี เลี้ยงดูครอบครัว...
สืบเนื่องจาก นายชัยรัตน์ ยอดพรม หรือ ปู่มหามุนี อริยดาบส อายุ 38 ปี เจ้าของสำนักสักยันต์ปู่มหามุนี และรับงานประกอบศาสนพิธีกรรมท้องถิ่น เป็นเน็ตไอดอลด้านสายไสยศาสตร์ ถูก บก.ปอท.รวบตัวกรณีไลฟ์สดนัวเนียกับหญิงสาวในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยร่วมกับนายโทนี่ บุหรี่ทำเอง จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมอย่างมากนั้น
ล่าสุด วันที่ 23 พ.ค.62 มีรายงานว่า ปู่มหามุนี อริยดาบส ได้เปิดใจถึงกรณีดังกล่าวผ่านรายการเจาะประเด็น ทางช่อง 8 ว่า เรื่องไลฟ์สดเป็นการแสดงเท่านั้น ได้ค่าจ้าง 4,000 บาท งานสัก ทำพิธีกรรม ยังทำอยู่เหมือนเดิม ส่วนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการพนันไม่รู้เรื่องเลย ใครจ้างมาก็ไปหมด ส่วนการไลฟ์นั้นไปในฐานะคนธรรมดา
"ผมเป็นฆราวาส ผมเคยประกาศบอกไปแล้วว่า ผมไม่ใช่ฤาษี แล้วสื่อต่างๆ เขียนว่าหลวงปู่บ้าง ปู่ฤาษีบ้าง แต่ที่จริงแล้วเขียนว่า ปู่มหามุนี ปู่ คือชื่อเล่นผม คำว่า มหา เพราะเรียนมา ปธ.1-3 ผมเลยเอาคำทั้งหมดมารวมกัน บวกกับฉายาของผมคือ อริยดาบส ที่แปลว่าผู้รู้ เอามาผสานกัน ผมไม่ได้เอาชื่อใคร ไม่ได้แอบอ้างใคร"
ส่วนเรื่องที่ตนอยู่ในชมรมฤาษี คืออยู่ในสถานะผู้รู้ หรือผู้ที่มีความรู้ในเรื่องไสยเวทย์ แต่การที่จะเป็นฤาษีจริงๆ ต้องมีการบวช ซึ่งตนไม่เคยบวช แต่ที่ประกาศนียบัตรมาเพราะได้ไปร่วมงานเหมือนกับการไปปฏิบัติธรรม
ขณะที่ อ.จตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา กล่าวถึงการไลฟ์สดของปู่มหามุนีว่า หากเป็นพระหรือผู้ทรงศีลทำแบบนี้ก็คงไม่เหมาะสม แต่ปู่มหามุนีไปไลฟ์สดในชุดฆราวาสและไม่ได้เป็นพระ ปัญหาตอนนี้คือสถานะของปู่มหามุนีที่ไม่ชัดเจน
...
ด้านแม่ของปู่มหามุนี กล่าวทั้งน้ำตาว่า ลูกชายบอกเพียงแค่ว่าไปทำงาน ไม่รู้ว่าเขาทำงานอะไร หลังจากเห็นข่าวก็ไม่ตกใจ เพราะเป็นอาชีพรับจ้าง ในโลกส่วนตัวของแม่คือลูกแม่เป็นคนดี ลูกบวชเรียนมา พาพ่อพาแม่ พาพี่น้องไปบวช เอาคนติดยาเสพติดไปบวช สร้างวัด และเลี้ยงแม่ทุกวันนี้ ถึงแม้เขาจะเป็นลูก แต่ก็ถือว่าเป็นอาจารย์ของแม่ที่สอนธรรมะทุกอย่าง ยืนยันว่าไม่ได้โกงใคร ลูกชายดูแลแม่อย่างดี และยังเอาเงินไปส่งพี่ส่งน้องด้วย
ปู่มหามุนี กล่าวต่อว่า เรื่องที่ตนไป ปอท. แล้วมีความผิดคือ พลาดตรงที่มีคำพูดจาโน้มน้าว ส่วนเรื่องที่ไม่มีเงินประกันตัวก็ไม่ได้คิดอะไร นอนคุกก็ได้ แต่ก็มีคนใจดีมาช่วยประกันตัว ซึ่งเขาไม่ขอออกนาม
"หากถามผมว่าตอนนี้อยากให้สังคมมองผมว่าเป็นอะไร ผมก็อยากให้สังคมมองผมเป็นคนธรรมดาคนนึงที่มีความรู้ในทุกๆ ด้าน ส่วนเรื่องที่มีคนมาด่าแม่ผม ผมไม่โกรธนะ เพราะแม่สอนเสมอว่า คนเขาด่าก็ปล่อยเขา แต่อย่ามาแตะ ถ้าแตะนี่ไม่ได้"
ปู่มหามุนี กล่าวทิ้งท้ายว่า สิ่งที่ตนห่วงคือ ไม่อยากให้แม่อด แม่ทำงานมาทั้งชีวิต ตั้งแต่เล็กยันโต ตนไม่เคยเอาเงินแม่มา แม่ส่งเสียให้ตนทุกเดือน เดือนละ 3,000 บาท แต่เงินนั้นไม่ได้ตกถึงตน ตนทำงานเองมาตั้งแต่ 8 ขวบ เลี้ยงชีวิตมาด้วยตัวคนเดียว ถึงไม่กลัวใคร เพราะยืนด้วยลำแข้งของตัวเองมาตั้งแต่เล็ก และไม่เคยไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร สิ่งที่ห่วงที่สุดคือครอบครัว สิ่งที่แคร์ที่สุดคือครอบครัวจะอดไหม แต่สิ่งที่เราแสดงออกว่ายิ้มแย้ม เพื่อเป็นกำลังให้สังคม ยกเว้นตอนที่ตนปาดคอ ตอนนั้นคือไม่ไหวจริงๆ
"สังคมไม่รู้หรอกหากไม่มาสัมผัสตัวจริงของผม ไม่รู้หรอกว่าผมเป็นอะไรมาบ้าง และผมมีความรู้อะไรหลายๆ อย่างที่สังคมโลกต้องอึ้ง ว่าทุกอย่างที่ผมเรียนรู้มา ผมเรียนรู้ด้วยตัวเอง".
(ดูคลิป ที่นี่)
อ่านข่าว
(ภาพและข้อมูลจาก รายการเจาะประเด็น ช่อง8)