โรงเรียนดังชุมพร แจงดราม่า หลังเพจดังเผยภาพกระดาษแบบทดสอบ เด็กตอบถูกแต่ครูตรวจผิดหลายข้อ ยืนยัน ไม่ใช่แบบทดสอบของโรงเรียน...

จากกรณีแฟนเพจ "ล่า" ได้โพสต์ภาพแบบทดสอบของเด็กนักเรียน พร้อมกับตั้งข้อสงสัยว่า เด็กนักเรียนตอบถูกแต่ครูตรวจให้เป็นคำตอบที่ผิดจำนวนหลายข้อ อาทิ ข้อที่ 18 วันนี้เป็นวันเกิดของหนู เมื่อวานเป็นวันเกิดของช้าง และพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของเต่า วันต่อไปเป็นวันเกิดของใคร 1.หนู 2.ช้าง 3.เต่า โดยเด็กนักเรียนได้ตอบหมายเลข 3.เต่า แต่ครูตรวจให้เป็นคำตอบที่ผิด จนมีคนเข้าไปคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมากนั้น

วันที่ 21 พ.ค.62 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่โรงเรียนที่เกิดเหตุ ใน จ.ชุมพร เป็นโรงเรียนขนาดกลาง เปิดสอนตั้งแต่อนุบาล 1 ถึงชั้น ม.6 มีนักเรียนทั้งหมด 350 คน เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงจากผู้บริหารของโรงเรียน

จากการสอบถาม รักษาราชการแทนผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า จากกรณีเรื่องดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจากโรงเรียนยังไม่เคยใช้ข้อสอบดังกล่าวเลย โดยวันที่เพจอ้างถึงคือวันปฐมนิเทศ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 พ.ค.62 ซึ่งวันนั้นจะเป็นการปรับพื้นฐานเบื้องต้นเท่านั้น ไม่มีการให้เด็กสอบข้อเขียนอะไร อีกทั้งโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนที่เปิดโอกาสให้เด็กในพื้นที่ได้เข้าเรียนแบบทั่วถึง ไม่มีการสอบแข่งขัน จึงไม่จำเป็นต้องนำข้อสอบในลักษณะนี้มาใช้วัดพื้นฐานกับเด็ก 

...

นอกจากนี้ข้อสอบดังกล่าวเป็นข้อสอบที่ใช้ระดับชั้น ป.1 ถึง ป.3 เป็นข้อสอบแบบ RT หรือข้อสอบแบบให้เด็กอ่าน วิเคราะห์ ผลสัมฤทธิ์ หรือการประเมินความสามารถในการอ่าน ซึ่งข้อสอบแบบทดสอบจะส่งมาจากกรมหรือส่วนกลาง ทางโรงเรียนจะไปรับที่เขตพื้นที่การศึกษาเพื่อนำมาสอบ และจะใช้ในเทอมที่สองของภาคเรียน ซึ่งยืนยันว่าทางโรงเรียนไม่เคยนำมาใช้กับเด็กเลย และที่สำคัญคือในช่วงนั้นเป็นการปฐมนิเทศในระดับเลื่อนชั้น แบบ ป.1 เข้า ป.2 ไม่ได้เป็นการเลื่อนชั้นเข้าใหม่แบบเข้าเรียน ป.1 เข้าเรียน ม.1 หรือเข้าเรียน ม.4 ที่มีการจัดปฐมนิเทศกัน 

ส่วนการสอนพิเศษนั้นทางโรงเรียนจะมีการสอนพิเศษหรือติวเป็นครั้งคราวตามความเหมาะสม แต่ส่วนใหญ่จะสอนพิเศษในช่วงเย็นของวันปกติ บางครั้งก็อาจจะนัดผู้ปกครองในช่วงที่เขาว่างสะดวกให้พาเด็กนักเรียนมาเรียนพิเศษในวันหยุด ส่วนข้อมูลตามที่เพจล่าเอาไปลงนั้นว่าเป็นการสอนพิเศษของโรงเรียนเรา ก็ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้น รักษาราชการแทนผู้อำนวยการโรงเรียน ได้นำข้อสอบดังกล่าวออกมา และนำไปอ่านให้เด็กนักเรียนชั้น ป.2 ซึ่งมีเด็กนักเรียนจำนวน 32 คนที่กำลังเรียนวิชาภาษาไทยอยู่ในชั้นเรียนของครูคนหนึ่งอยู่พอดี โดยเด็กนักเรียนได้ตอบว่าไม่เคยเห็นและไม่เคยสอบข้อสอบดังกล่าวเลย.