แชร์ประสบการณ์ นักศึกษาสาวไทย อดทน ฝึกหนัก จนชีวิตพลิกผันสมัครเข้าเป็นทหารในกองทัพของสหรัฐอเมริกาสมใจ บอกเป็นประสบการณ์ไม่เคยลืม...

วันที่ 15 พ.ค.62 มีรายงานว่า แฟนเพจ New York ออกสาว เปิดเผยแรงบันดาลใจดีๆ จากชีวิตของ คุณสุพิชฌา วิริยะสกุลพันธุ์ สาวไทยที่ผันตัวไปเป็นทหารอเมริกัน โดยเล่าว่า ตนเองเกิดที่ บางกอกน้อย จากนั้นย้ายไปอยู่ จ.นครศรีธรรมราช พออายุ 6 ขวบ ได้ย้ายมาอยู่ จ.นนทบุรี ตอน ม.ต้น พ่อเป็นคนโคราช พูดภาษาลาวได้ แหลงใต้ได้ เรียนจบที่ ม.ศิลปากร

สำหรับจุดเปลี่ยนที่ได้ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพสหรัฐฯ ได้ย้ายมาอยู่นิวยอร์กตอนปี 2010 ก็เหมือนกับคนไทยหลายๆ คนที่มาเรียนมาทำงาน มีวีซ่านักเรียน 5 ปี พอวีซ่าหมดเท่านั้นแหละก็เริ่มลน เพราะว่าอยากจะอยู่ต่อ แต่ไม่อยากเป็นโรบินฮู้ด แต่ก็มีทางเลือกไม่เยอะ หาคนแต่งงาน จ้างคนแต่งงาน ถูกลอตเตอรี่ใบเขียว เคยไปออกเดตกับผู้ชายหลายคนอยู่เหมือนกันแต่มันไม่ใช่มันยังไม่เจอ แล้วเคยคิดนะว่าหรือจะคบคุณลุงคุณตาแถวนี้ แต่คิดไปคิดมามันไม่ใช่แนวทำใจไม่ได้ เคยไปเดตกับผู้ชายอายุมากกว่าเยอะ แล้วคนมองตลอดเลยรู้สึกอายมาก มันไม่ใช่ความรัก

ถ้ามันเป็นความรัก คนมองเราก็ไม่อายไหม จะจูบโชว์เลยจ้ะ แล้วถ้าเราแต่งกับคนที่เราไม่ได้รักไม่ได้อยากอยู่ด้วยเราต้องทนขนาดไหน เพื่อใบเขียวต้องทำขนาดนั้นเลยหรอ ไม่เอาดีกว่า แล้วพอดีว่ามีเพื่อนที่ทำงานร้านอาหารเดียวกัน เขามาบอกเกี่ยวกับการสมัครทหาร ถ้าฝึกทหารจบก็จะได้ Citizen (พลเมืองของสหรัฐอเมริกา)

...

ตอนแรกก็กลัวๆ นะ เกิดมาไม่เคยคิดจะเป็นทหาร ไม่ไหวหรอกมันไม่ใช่ ไลฟ์สไตล์ของเรา แต่ก็ไปสมัครนะ ลองไปส่งไปสอบเรียบร้อย ตรวจร่างกาย เสร็จสรรพ ใช้เวลาประมาณ 2 เดือนทั้งหมดนี้ คือเราทำเรื่องไปทำเอกสารไปเนี่ย เราก็คิดไปนะเพราะว่าเรายังมีโอกาสที่จะบอกเลิกเขาไง เพราะมันถึงสุดท้ายแล้วที่เขาบอกว่าเธอต้องไปฝึกแล้วนะ ก็คิดหนักแต่ก็ดีกว่า เสิร์ฟอาหารขาลาก ไปไหนก็ไม่ได้ วีซ่าไม่มี ออกประเทศไม่ได้ไปไหนก็กลัว

สำหรับขั้นตอนก็คือไปคุยกับเขาเลย ที่ recruiter station เขาก็จะให้ส่งเอกสาร พาสปอร์ต วีซ่าว่าเรามาอยู่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้เป็นโรบินฮู้ด แล้วก็มาอยู่ที่นี่นานกว่า 2 ปีแล้ว จากนั้นก็ไปสอบ ข้อสอบก็เป็นแบบเลขภาษาอังกฤษ คำศัพท์ช่าง แล้วก็จิตวิทยา มันก็ไม่ได้ยากมาก เหมือนออกแนว ม.ปลาย เสร็จแล้วเขาก็จะเอาคะแนนมาดูแล้วเขาก็ให้เราเลือกว่าเราอยากทำงานอะไร จากคะแนนที่เราได้ ตอนแรกเขาจะให้ไปเป็นพยาบาลแต่คงไม่ไหว เขาเลยให้มาทำการเงินแทน ซึ่งเราก็โอเค จากนั้นวันที่เลือกงานก็รอ 6 เดือนแล้วก็ไปฝึก ก็ไม่ได้ยุ่งยากมาก เพราะว่าเขาทำเรื่องให้หมดทุกอย่าง แค่เอาเอกสารไปให้เขา แล้วก็เรียนเพิ่มเติมก่อนไปสอบ ทุกอย่างภาษาอังกฤษ

หนักสุดคือตอนไปนอนป่าแล้วฝนมันตก คือมันมืดมากไม่มีไฟนะคือฝนตกอะเข้าใจไหมแล้วนอนอยู่ในเต็นท์แต่ว่ามันก็ยังเปียก หนาวก็หนาว เหม็นตัวเองด้วย คิดในใจว่ามาทำอะไรเนี่ย ตอนนั้นคือใกล้จะฝึกจบแล้ว นี่ไม่เคยเรียน รด.ไม่รู้ว่าเขาฝึกทหารกันยังไง แต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีความอดทน แล้วก็ motivation ทำอะไรที่มัน นอกเหนือจาก Comfort Zone มันยากหมดแหละ ใครจะไปคิดอายุตั้งเยอะแล้ว ไปเกณฑ์ทหารแต่บอกเลยว่าเป็นประสบการณ์ที่จะจำไปตลอดชีวิต ไม่เคยลืม เพื่อนที่ฝึกทหารมาด้วยกันทุกวันนี้ก็ยังคุยกันอยู่ มันเหมือนเราผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะ ก็ยังคิดถึงเป็นบางทีนะจะให้ไปฝึกอีกก็คงไม่เอา ฝึกจบเท่านั้นแหละไม่ถึง 2 เดือนนะ ก็ได้ citizen เลย fast track ไม่ต้องทำใบเขียวให้วุ่นวาย

ส่วนใครที่สนใจ โปรแกรมที่ตนสมัครไปเรียกว่า Mavni เขาปิดรับสมัครอยู่ คนที่สมัครไปแล้วทำเรื่องไปแล้วบางคนรอมาตั้งหลายปียังไม่ได้ฝึกเลย ถ้าอยากสนใจจริงๆ ก็ขอให้รอไปก่อน คิดว่าในอนาคตอาจจะมีโอกาสเปิดรับสมัครอีกครั้ง.


(ภาพและข้อมูลจาก แฟนเพจ New York ออกสาว)