เปิดใจสาว 23 ป่วยมะเร็งระยะ 4 หลังถูกแชร์ภาพให้กำลังใจลุงที่เจอใน รพ. ขณะที่ตัวเองผมร่วงจากการให้คีโม บอกยาดีเเค่ไหน ก็สู้ใจเราดีไม่ได้ ล่าสุดเชื้อหายมา 2 ปีแล้ว พร้อมอุทิศตัวเอง เป็นอาสาฯ ช่วยคนอื่น ...
จากกรณี มีการแชร์ข้อความของ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก SF Mildky ซึ่งโพสต์รูปที่ตัวเองผมร่วงจากการทำคีโม เพื่อรักษาโรคมะเร็ง โดยเป็นเหตุการณ์เมื่อปี 2016 พร้อมทั้งบทสนทนา กับลุงท่านหนึ่งว่า
"หนูโกนผมทำไม : ผมร่วงจากการให้คีโมเนื่องจากเป็นมะเร็งค่ะ
ยังเรียนอยู่ไหม : เรียนค่ะ ตอนนี้เรียนครูไทยปี2ค่ะ
หนูว่ามันจะหายไหม : หายมั้งคะ ถ้าไม่หายจากโรค ก็หายจากโลก
ลุงเหนื่อยกับชีวิตมากเลย : ปกติค่ะ ขอเเค่ลุงสู้ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปค่ะ ให้มันป่วยเเค่กาย ใจอย่าป่วยตามก็พอค่ะ เดี๋ยวมันจะดีขึ้นเอง
หนูไม่กลัวตายหรอ : เเรกๆ ก็กลัวค่ะ ตอนนี้ไม่แล้ว จะเร็วจะช้าคนเราต้องตายค่ะ
แล้วไม่ห่วงคนข้างหลังหรือ : ห่วงค่ะ แต่พ่อหนูสอนเสมอว่าทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติค่ะ ทำทุกวันให้ดีก็พอค่ะ
แล้วนี้หนูอายุเท่าไร : 19 ค่ะ หน้าหนูแก่อ่ะดิ
ไม่เลย หายไวๆ นะหนู : ค่ะ ลุงด้วยนะ หายไวๆ ยาดีแค่ไหน ก็สู้ใจเราดีไม่ได้นะคะ"
...
จากนั้น ผู้สื่อข่าวจึงติดต่อไปยัง น.ส.ศุภวีร์ หรือ น้องมายล์ เฟื่องฟู อายุ 23 ปี ชาว อ.ละอุ่น จ.ระนอง ซึ่งเป็นเจ้าของเฟซบุ๊ก ปัจจุบันศึกษาอยู่ คณะครุศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย ม.ราชภัฏสุราษฎร์ธานีปีที่ 5 และกำลังเป็นครูฝึกสอนอยู่ที่ โรงเรียนอนุบาลสุราษฎร์ อีก 1 เดือนเศษ ก็จบการศึกษา
น.ส.ศุภวีร์ หรือ น้องมายด์ เล่าว่า ก่อนหน้านี้แม่ได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ขณะที่ตนเองเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และต่อมาช่วงมัธยมปลาย ตนเองมีก่อนเนื้อที่บริเวณลำคอ ก็ได้ทำการรักษามาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อเข้าศึกษาปริญญาตรี ปี 2 ในปี 2558 ก็ทราบว่า เป็นมะเร็งระยะ 4 ลามลงไปที่บริเวณไขสันหลัง ต้องทำการรักษาด้วยการให้คีโม และเจาะไขสันหลัง โดยเรียนไปด้วยและรักษาตัวเองไปด้วย ไม่ขอพักการเรียน
ใช้เวลารักษาที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีซึ่งเป็นโรงพยาบาลของรัฐ และปฏิบัติตัวตามแพทย์แนะนำอย่างดี ตามหลัก 5 อ. คือ 1.อาหารที่ดีไม่กินหมักดอง 2.อากาศที่บริสุทธิ์ 3.อุจจาระ ขับถ่ายตรงเวลา 4.ออกกำลังกาย และ 5.อารมณ์ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำไม่ให้เครียด อย่างที่เคยพูดไว้ว่า ยาดีแค่ไหนก็ไม่สู้จิตใจเราดี ซึ่งจนถึงปัจจุบันนี้ เชื้อมะเร็งได้หายไป 2 ปีกว่าแล้ว แต่ก็ยังต้องติดตามไปอีก 1 ปีเศษ หากครบระยะเฝ้าระวัง 5 ปี ไม่พบเชื้อก็จะหายขาด
น.ส.ศุภวีร์ เล่าต่อว่า ขณะนั้นที่รู้ว่าตนเองเป็นมะเร็งระยะที่ 4 ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะแม่เคยเป็นมาก่อนแล้ว และรู้ตัวว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไร และคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติที่ต้องพบเจอกับโรคต่างๆ ที่จะต้องอยู่กับมันให้ได้ ซึ่งตอนนี้ ก็พบว่าพ่อได้ป่วยเป็นมะเร็งเช่นกันกำลังรักษาให้คีโม ก็ให้กำลังใจพ่อและแนะนำวิธีปฏิบัติตัวเชื่อว่า พ่อจะต้องดีขึ้นเช่นตัวเอง
กรณีที่ได้มีการแชร์บทสนทนากับคุณลุงท่านหนึ่งนั้น ตนเองได้โพสต์ข้อความเมื่อ เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2559 ในช่วงที่ให้คีโมแล้ว รักษามาได้ระยะหนึ่ง ขณะนั่งรอพบแพทย์ ก็พบกับคุณลุงที่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ซึ่งคุณลุงได้ถามว่าโกนผมทำไม ก็ตอบว่าเป็นมะเร็ง กำลังให้คีโม โดยในการสนทนาคุณลุงได้ตัดพ้อชีวิตว่าเหนื่อยกับชีวิตมาก ในขณะนั้นก็ได้ให้กำลังใจคุณลุงไป ให้มันป่วยแค่กาย ใจอย่าป่วยตาม เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง พร้อมบอกว่ายาดีแค่ไหน ก็สู้ใจเราดีไม่ได้ ก็จะจบบทสนทนา และอยากให้กำลังใจคนที่ป่วย หรือเป็นโรคมะเร็ง ให้ต่อสู้เริ่มจากจิตใจของตัวเองให้แข็งแรง ไม่จำเป็นต้องไปรักษากับโรงพยาบาลเอกชนแพงๆ ให้ปฏิบัติตามแพทย์แนะนำและทำตัวเองให้มีความสุขไม่เครียด ก็จะสามารถผ่านพ้นช่วงที่แย่ไปได้ และอยากให้กำลังใจคนที่สิ้นหวังในชีวิต ให้สู้ต่อไป ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
ทั้งนี้ปัจจุบัน น.ส.ศุภวีร์ หรือ น้องมายด์ ได้อาสาตัวเองเป็นอาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัย มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี ผ่านการอบรมหลักสูตร EMR จะใช้ชื่อว่า “การฝึกอบรมปฐมพยาบาลและปฏิบัติการแพทย์ขั้นพื้นฐาน” จาก รพ.กรุงเทพ-สมุย เเละอุทิศตน เพื่อสังคมอีกด้วย
ส่วนด้านการทำงาน ก่อนหน้านี้ ได้สอบครูคืนถิ่นผ่านข้อเขียนแล้ว แต่คิดว่าเมื่อเรียนจบ จะสอบบรรจุในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจากยังต้องรักษาตัวที่ จ.สุราษฎร์ธานี.
อ่านโพสต์ทั้งหมด ที่นี่
ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก SF Mildky