“อ.เจษฎา” แจงคลิปกระบวยใส่น้ำแข็งแช่น้ำซุปชาบูจนเกิดไขมันเป็นก้อนแข็งเกาะอยู่ ชี้ น้ำซุปมีไขมันจากสัตว์ ไม่มีอะไรน่าตกใจ และอุณหภูมิร่างกายคนไม่ได้เย็นจัดเหมือนกระบวยในคลิป

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 61 รศ.ดร.เจษฎา อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ อธิบายถึงกรณีคลิปของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง นำกระบวยใส่น้ำแข็งจนเต็ม แล้วจุ่มกระบวยลงไปในถ้วยที่มีน้ำซุปจนเกิดไขมันแข็งตัวเกาะตามกระบวย โดยมีการพูดในคลิปในทำนองว่าหลังการกินชาบูแล้วดื่มน้ำเย็นตาม ในกระเพาะและลำไส้เราก็จะมีไขมันแข็งเกาะแบบนี้

อ.เจษฎา อธิบายไว้ว่า “ไขมัน กินแล้วไม่ได้ไปเป็นก้อนแข็งอยู่ในกระเพาะในลำไส้นะครับ วันนี้มีการแชร์คลิปน่าตกใจสำหรับคนชอบกินชาบู ก็เอาน้ำซุปชาบูมา แล้วเอาทัพพีตักน้ำแข็งก่อนที่จะแหย่ลงไปในน้ำซุป พบว่ามีคราบไขมันเกาะหนาอยู่ใต้ทัพพี ทำเอาเจ้าของโพสต์ตกใจบ่นว่า ลาก่อนชาบู หมดกันที่วิ่งมา จริงๆ ถ้าแค่นี้ก็ไม่มีอะไรน่าตกใจหรอก เพราะในน้ำซุปก็ต้องมีไขมันจากสัตว์ที่มาต้มซุปผสมอยู่ด้วยอยู่แล้ว ไม่ได้แปลกอะไร

ปัญหาคือ มีบางคนคอมเมนต์แบบตกใจว่า เดี๋ยวไขมัน มันจะเข้าไปเกาะตามลำไส้เป็นก้อนแข็ง อันตราย ความจริงแล้วไม่มีอะไรต้องกลัวขนาดนั้น เพราะร่างกายของเราไม่ได้เย็นจัดแช่น้ำแข็งเหมือนทัพพี ... เมื่อกินไขมันเข้าไปในร่างกาย มันก็จะอุณหภูมิพอๆ กับอุณหภูมิร่างกายคือ 37.5 องศาเซลเซียส แล้วมันก็จะถูกย่อยด้วยเอนไซม์ของร่างกายให้กลายเป็นกรดไขมัน ก่อนที่จะดูดซึมเข้าไปที่ลำไส้เล็ก ไม่ต้องกลัวว่ามันจะไปเกาะเป็นก้อนอย่างที่เข้าใจผิดกัน อย่างไรก็ตาม คนเราก็ควรบริโภคอาหารให้พอเหมาะ ไม่ควรกินไขมันมากเกินไปอยู่ดีนะครับ”

...

นอกจากนี้ ผู้โพสต์คลิปได้บอกเพิ่มเติมในช่องแสดงความเห็นในทำนองว่า วิดีโอนี้ทำเล่นดูเฉยๆ แค่ลงขำๆ เพราะตัวเองก็เพิ่งทานเสร็จ ขำตัวเองว่ากินไขมันเข้าไปหลังออกกำลังกายทำไม มันตลกตัวเองเท่านั้นเอง ไม่ได้ต้องการดราม่า