กาแฟเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตที่หลายคนเลือกดื่มกันในช่วงเช้า กลางวัน เย็น หรือแม้แต่ช่วงหัวค่ำหลังดินเนอร์

แต่ต้นปีที่ผ่านมา บรรดาคอกาแฟทั้งหลายอาจรู้สึกหวาดกลัวกันบ้าง เพราะมีข่าวออกมาว่าการดื่มกาแฟอาจมีความเสี่ยงที่จะได้รับสารก่อมะเร็งได้

สารก่อมะเร็งที่ว่าคือ อะคริลาไมด์ สารพิษที่ก่อตัวขึ้นในอาหารจำพวกธัญพืช อาหารที่มีแป้งสูง และกาแฟที่นำมาแปรรูปโดยใช้ความร้อนสูงๆ เช่น อบ ทอด ย่าง ปิ้ง คั่ว เป็นเวลานานๆ

โดยความร้อนสูงๆจะกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างน้ำตาลรีดิวซ์ เช่น กลูโคสกับกรดอะมิโนแอสพาราจีนที่มีในอาหาร (พบมากในธัญพืช มันฝรั่ง กาแฟ) จนก่อตัวเป็นสารอะคริลาไมด์ขึ้น นั่นคือเหตุผลว่าทำไมกาแฟคั่วจึงอาจมีสารอะคริลาไมด์ปนเปื้อนอยู่ได้

เมื่อเราทานอาหารที่มีสารอะคริลาไมด์ปนเปื้อน อะคริลาไมด์ จะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว และจะถูกขับออกครึ่งหนึ่ง อย่างรวดเร็วทางปัสสาวะภายใน 2-3 ชั่วโมง

ที่น่ากลัวคือ หน่วยงานวิจัยมะเร็งระหว่างประเทศ (IARC) จัดให้ สารอะคริลาไมด์ เป็นสารกลุ่มที่มีความเป็นไปได้สูงในการก่อให้เกิดมะเร็งในคนกลุ่ม 2A และมีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง DNA

วันนี้มันมากับอาหาร ได้สุ่มเก็บตัวอย่างกาแฟคั่วอาราบิก้า 100% จำนวน 5 ตัวอย่าง จาก 5 ยี่ห้อ เพื่อนำมาวิเคราะห์หาการปนเปื้อนของสารอะคริลาไมด์ ผลการวิเคราะห์ปรากฏว่า

กาแฟคั่วอาราบิก้า 100% ทั้ง 5 ตัวอย่าง ไม่พบการปนเปื้อนของสารอะคริลาไมด์เลย

แต่ก็อย่าประมาท หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มกาแฟให้น้อยลงได้ หรือเลือกทานอาหารที่ปิ้งหรือทอดให้มีสีเหลืองพอดี ไม่ดำเกรียม หรือเลือกทานอาหารที่ผ่านการให้ความร้อนด้วยการต้ม นึ่ง ให้มากก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งที่มีสารอะคริลาไมด์เป็นสาเหตุได้มากทีเดียว.

...


ไทยรัฐ+สถาบันอาหารโครงการอาหารปลอดภัย