นับเป็นการเผยให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพอีกด้านของ “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แบรนด์ SIRIVANNAVARI และองค์อุปถัมภ์มูลนิธิ รอยัลแบงค์คอกซิมโฟนีออร์เคสตร้าฯ

นอกจากจะมีพระดำริให้จัดการแสดงอุปรากรเฉลิมพระเกียรติฯ “มาดามบัตเตอร์ฟลาย” (Madama Butterfly) ผลงานในตำนานของ “จาโคโม ปุชชินี” ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมสรรเสริญพระบารมี “พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนม พรรษา 6 รอบ 72 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 “เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ยังทรงรับเป็นผู้อำนวยการแสดงโอเปร่าเป็นครั้งแรก โดยทรงอยู่เบื้องหลังโปรดักชันทุกขั้นตอน ตั้งแต่การร่วมออกแบบฉากเวทีกับทีมงานจากเวียนนา, การคัดเลือกคณะนักแสดงต่างประเทศจาก “Vienna Opera Production” ตลอดจนทรงกำหนดแนวคิดการออกแบบชุดเครื่องแต่งกายทั้งหมด 58 ชุดสำหรับนักแสดง 53 คน โดยทรงลงมือออกแบบเสื้อผ้าใหม่ทั้งหมดสำหรับ 9 ตัวละครหลักทั้งชายหญิง รวมจำนวน 14 ชุด และควบคุมการออกแบบชุดเครื่องแต่งกายของนักแสดงสมทบอีก 44 ชุด โดยทีมงาน SIRIVANNAVARI

ภายใต้การกำหนดคอนเซปต์ขององค์ดีไซเนอร์ ชุดเครื่องแต่งกายของนักแสดงแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือ ชาวญี่ปุ่น และชาวตะวันตก โดยเสื้อผ้าของกลุ่มชาวญี่ปุ่น เช่น นางเอก “โจโจซัง” พระองค์หญิงทรงออกแบบไว้ 3 ชุด สำหรับบทบาทในช่วงแตกต่างกัน เพื่อถ่ายทอดเสน่ห์ของเสื้อผ้าตามขนบธรรมเนียมแดนอาทิตย์อุทัย ซึ่งอิงจากชุดเกอิชา เสื้อผ้าที่ซ้อนทับหลายชั้น โครงสร้างหลวม และการใช้ผ้าคาดเอวโอบิรัดเพื่อให้เกิดรูปทรง ขณะเดียวกันก็ดัดแปลงให้มีความเป็นแฟชั่นมากขึ้น ผสมผสานกับแรงบันดาลใจที่ได้จากคอลเลกชัน Spring/Summer 2022 “The Rise of Asia” ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI โดยเพิ่มความอลังการให้เหมาะกับการแสดงบนเวที ส่วนเสื้อผ้าชาวตะวันตก นำโดย “ร้อยเอก บี.พี. พิงเคอร์ตัน” และภรรยาใหม่ “เคท พิงเคอร์ตัน” เป็นชุดร่วมสมัย แต่เพิ่มเติมรายละเอียดองค์ประกอบที่ลึกซึ้งขึ้นด้วยงานปักจากช่างฝีมือชั้นครูแห่ง SIRIVANNAVARI Atelier & Academy

ก่อนเปิดม่านการแสดงอุปรากรระดับโลก “เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ได้พระราชทานสัมภาษณ์ว่า ท่านหญิงคิดว่าถ้าอยากได้อุปรากรมาเมืองไทยสักเรื่องหนึ่ง ต้องเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าถึงง่าย, ทุกคนเข้าใจ และทุกคนคุ้นเคยดีในทุกแง่มุม “มาดามบัตเตอร์ฟลาย” เป็นอุปรากรที่เวรี่คลาสสิกและเวรี่แฟชั่น เข้าถึงได้กับทุกเพศทุกวัยจริงๆ ในส่วนของการออกแบบชุดเครื่องแต่งกาย ท่านหญิงจะยึดความเป็นเทรดดิชันแนลอยู่ แต่ก็ดัดแปลงให้มีความเป็นแฟชั่นมากขึ้น แน่นอนในแง่ของสไตลิ่งทั้งหมดมีการเปลี่ยน หน้าผมเมกอัปทั้งหมด รวมถึงคาแรกเตอร์มีการเปลี่ยน การตีความของสีมีการเปลี่ยน ในแง่ซิลูเอตเสื้อผ้า, การ์เมนต์ต่างๆ, เท็กซ์เจอร์, เลเยอร์, การปัก, การมิกซ์แอนด์แมตช์ทุกอย่าง ต้องให้มันดรามาติก และต้องทันสมัยด้วย มีความเป็น SIRI VANNAVARI อยู่ค่อนข้างเยอะ แฟลชแบ็กไปที่คอลเลกชัน Spring/Summer 2022 “The Rise of Asia” ที่คาดการณ์ว่าความเป็นเอเชียจะกลับมามีอิทธิพลต่อโลก เราดึงแรงบันดาลใจจากตรงนั้น และมีการดัดแปลงเพิ่มความอลังการให้เหมาะกับการแสดงบนเวที SIRIVANNAVARI เป็นแบรนด์ที่เวรี่ดีเทล ลวดลายที่อยู่บนเสื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็น ดอกไอริส, ดอกโบตั๋น, นกกระเรียน ล้วนมีความหมายลึกซึ้ง บวกกับการตีความแบบร่วมสมัย, การใช้สี, งานปัก และลวดลายเชิงสัญลักษณ์ ทุกอย่างถูกนำมาใช้บอกเล่าเรื่องราว, อารมณ์ความรักความเศร้า และความแตกต่างทางวัฒนธรรมของทหารเรืออเมริกันกับเกอิชาญี่ปุ่น งานนี้ท่านหญิงสนุกมาก ใส่เต็มพิกัด อยากใส่อะไรใส่ แต่ให้มันลงตัวที่สุด ทำยังไงให้ใกล้ก็สวยไกลก็สวย ทำยังไงให้คนดูมีความฝัน ทำยังไงให้ดีไซเนอร์มีความฝัน และทำยังไงให้คนรุ่นใหม่มีความฝันว่า แฟชั่นไม่ได้อยู่แค่รันเวย์ หรือในช็อป แต่แฟชั่นคือประวัติศาสตร์

ในด้านการออกแบบฉากเวที ทรงกำหนดแนวทางให้มีความร่วมสมัย, มีการใช้แสงไฟช่วยดึงอารมณ์ของผู้ชม และสอดแทรกความหมายในเชิงสัญลักษณ์ไว้อย่างชาญฉลาด โดยเปิดเรื่องด้วยฉากของต้นไม้ตัวแทนแดนอาทิตย์อุทัย พระเอกนางเอกพบรักกันในช่วงฤดูร้อน ซึ่งต้นซากุระจะผลิเพียงแต่ใบ, โรยราเมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง และบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ

องค์ดีไซเนอร์ยังทรงใช้ความรู้หลากหลายมิติในการออกแบบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายนักแสดง โดยคำนึงถึงการเคลื่อนไหวระหว่างการแสดงของตัวละครแต่ละตัว และการคำนวณเวลาในการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายระหว่างฉาก ขณะเดียวกันก็ต้องดูสวยงามบนเวทีในทุกระยะการมองเห็น

พระองค์หญิงทรงปรารถนาจะให้งานออกแบบ “มาดามบัตเตอร์ฟลาย” เป็นแรงบันดาลใจสู่คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเด็กที่เรียนศิลปะทุกแขนง ทั้งด้านแฟชั่น, การแสดงเวที, นักเรียนการแสดง และงานออกแบบฉาก เพราะการแสดงอุปรากรถือเป็นศิลปะการแสดงชั้นสูง ที่รวมศาสตร์แห่งศิลปะอย่างครบองค์หลากหลายมิติ ที่สำคัญคือการทำงานร่วมกับทีมโปรดักชันระดับนานาชาติ และนักแสดงชั้นนำระดับโลกจาก “Vienna Opera Production” ภายใต้ความร่วมมือระหว่างทีมไทยกับเวียนนา เป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันเปล่งประกายของแบรนด์แฟชั่นไทยและทีมโปรดักชันไทย

เมื่อทูลถามถึงทูลกระหม่อมพ่อ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ซึ่งเสด็จฯทอดพระเนตร “มาดามบัตเตอร์ฟลาย” ในรอบปฐมฤกษ์ว่า ทรงเป็นไอดอลด้านใด พระองค์หญิงทรงมีรับสั่งว่า “ท่านก็คงอยากให้เราเป็นคนวิริยะอุตสาหะ และก็อยากให้รู้จริงและทำจริง ท่านรู้...No need to say, just actions! แค่นั้นเลย”

นี่คือผลงานการรังสรรค์ “มาดามบัตเตอร์ฟลายยุคใหม่” ที่สร้างแรงบันดาลใจมหาศาลให้คนรุ่นใหม่ได้กล้าฝัน!!

ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่