ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดพิมพ์ธนบัตร ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ออกแบบพิเศษเป็นแนวตั้ง มีความสวยงามพร้อมความหมายดี และต่อต้านการปลอมแปลงเป็นพิเศษ สามารถแลกธนบัตรและซื้อแผ่นพับบรรจุธนบัตรเป็นที่ระลึกได้ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค. ที่สาขาธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งและธนาคาร ของรัฐทุกสาขา รวมทั้งที่ศูนย์การเรียนรู้ ธปท.
เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 6 รอบ 72 พรรษา วันที่ 28 ก.ค.2567 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดทำธนบัตรที่ระลึกเพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงชนไทย
นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ว่า ธนาคารฯได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดทำธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และได้จัดทำธนบัตรที่ระลึกชนิดราคา 100 บาท จำนวน 10 ล้านฉบับ ที่มีความพิเศษแตกต่างจากธนบัตรหมุนเวียนทั่วไป จัดพิมพ์ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงบนวัสดุพอลิเมอร์ที่ต่อต้านการปลอมแปลงเป็นพิเศษ ธนบัตรที่ระลึกนี้ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย โดยจ่ายแลกในราคาฉบับละ 100 บาท นอกจากนี้ ธปท.ยังจัดทำแผ่นพับสำหรับธนบัตรที่ระลึกฯอีก 2 ล้านชุด จำหน่ายราคาชุดละ 10 บาท รายได้จากการจำหน่ายแผ่นพับทั้งหมด จะนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย ผู้สนใจติดต่อขอแลกธนบัตรที่ระลึกฯ และซื้อแผ่นพับบรรจุธนบัตรที่ระลึกฯ ได้ที่สาขาของธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารอาคาร สงเคราะห์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยและที่ศูนย์การเรียนรู้ ธปท. ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค.เป็นต้นไป
ด้านนายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย สายออกบัตรธนาคาร กล่าวว่า ธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 ก.ค.67 ธปท.ตั้งใจให้มีความหมายที่ดี มีความสวยงาม มีลักษณะต่อต้านการปลอมแปลงที่พิเศษกว่าที่เคยจัดทำ วัสดุที่ใช้พิมพ์ ขนาด โทนสี ภาพ และองค์ ประกอบต่างๆบนธนบัตร ลักษณะต่อต้านการปลอมแปลงที่นำมาใช้ จึงต้องผ่านกระบวนการคิด กลั่นกรอง เลือกสรรอย่างพิถีพิถัน อีกทั้งเป็นครั้งแรกในรัชกาลปัจจุบันที่มีการจัดพิมพ์ธนบัตรที่ระลึกบนวัสดุพอลิเมอร์ ลักษณะและขนาดของธนบัตรก็มีความพิเศษเช่นกัน คือ มีลักษณะแนวตั้ง มีความยาว 163 มิลลิเมตร โดยผลรวมของตัวเลข 163 เมื่อนำมาบวกกัน (1+6+3) เท่ากับเลข 10 สื่อความหมายถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ส่วนความกว้าง 89 มิลลิเมตร เลข 9 สื่อความหมายว่าปี 2567 เป็นปีที่ทรงครองราชย์ปีที่ 9 โทนสีโดยรวมเป็นสีเหลืองและสีชมพู สีเหลืองเป็นสีวันพระ บรมราชสมภพที่สื่อถึงความเจริญรุ่งเรือง ส่วนสีชมพูช่วยเสริมให้ธนบัตรดูนุ่มนวลยิ่งขึ้น
ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท. กล่าวอีกว่า สำหรับด้านหน้าของธนบัตรได้อัญเชิญพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์บรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ทรงสายสร้อยปฐมจุลจอม เกล้าวิเศษ เป็นภาพประธานและเชิญตราสัญลักษณ์ งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนม พรรษาฯ ภาพลายรัศมี ลายหน้าครุฑดอกรวงผึ้ง ที่เป็นดอกไม้ประจำพระองค์ เป็นภาพประกอบสำหรับธนบัตรที่ระลึกฯ ใช้วิธีการพิมพ์และสัญลักษณ์
ต้านการปลอมแปลงเป็นพิเศษ ส่วนตัวเลขแจ้งชนิดราคา “100” และ “๑๐๐” พิมพ์ด้วยสีน้ำตาลเข้มและสีแดง เบื้องบนด้านขวาเป็นช่องใสรูปพระครุฑพ่าห์ พิมพ์ด้วยหมึกพิมพ์พิเศษสีทอง มีรูปพระครุฑพ่าห์สีขาวอยู่ภายในช่องใส ต่ำลงมาเป็นช่องใสรูปแปดเหลี่ยม มองเห็นทะลุได้ทั้งสองด้าน ภายในมีลายดอกพิกุลขนาดเล็กดุนนูน เป็นจุดสัมผัสสำหรับผู้บกพร่องทางสายตา
นายสมบูรณ์กล่าวต่อว่า ส่วนเบื้องล่างด้านซ้าย มีลายประจำยาม พิมพ์ในตำแหน่งตรงกับด้านหลัง เมื่อยกธนบัตรส่องแสงจะเห็นซ้อนทับกันสนิท ตรงกลางล่าง มีตัวเลขแจ้งชนิดราคา “๑๐๐” พิมพ์ทับด้วยเส้นนูนสีใส 4 เส้น จะรู้สึกสะดุดเมื่อสัมผัสด้วยปลายนิ้วมือ เป็นจุดสัมผัสสำหรับผู้บกพร่องทางสายตา เบื้องล่างด้านขวาเป็นช่องใสรูปประจำยาม ภายในมีบางส่วนของลายดอกรวงผึ้ง ซึ่งพิมพ์ด้วยหมึกพิมพ์พิเศษ เมื่อพลิกธนบัตรขึ้นลงหรือพลิกซ้ายขวาจะเห็นรูปวงกลมเคลื่อนไหวไปมาได้รอบทิศทาง และเปลี่ยนสลับจากสีทองเป็นสีเขียว รวมทั้งแถบสีเหลืองและสีชมพูที่พิมพ์ในแนวเฉียงที่ขอบธนบัตรเบื้องล่าง ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ภายในมีข้อความ “ทรงพระเจริญ” ขนาดเล็กเรียงติดต่อกัน อ่านได้ชัดเจนโดยใช้แว่นขยาย
สำหรับธนบัตรด้านหลัง อัญเชิญพระบรม สาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์บรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ประดับดารานพรัตน ทรงสายสร้อยปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ ทรงพระแสงกระบี่ เป็นพระบรมสาทิสลักษณ์เต็มพระองค์ ที่มีความสง่างามเป็นภาพประธาน ใต้พระบรมสาทิสลักษณ์มีข้อความ “ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗” เบื้องล่างด้านซ้ายมีภาพพญานาค หมายถึงนักษัตรปีมะโรงที่เป็นปีพระบรมราชสมภพ ส่วนแผ่นพับบรรจุธนบัตรที่ระลึกฯ จัดทำมีโทนสีที่สอดคล้องกับธนบัตรที่ระลึกฯ ด้านหน้าแผ่นพับประกอบด้วยตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ สามารถแลกธนบัตรที่ระลึกฯ ได้ที่สาขาของธนาคารพาณิชย์ ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐเท่านั้น โดยไม่จำกัดการแลกของแต่ละบุคคลและเนื่องจากเป็นธนบัตรขนาดพิเศษ จึงไม่สามารถใช้กับเครื่องเอทีเอ็มได้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 6 รอบ 72 พรรษา วันที่ 28 ก.ค.2567 ที่ ธปท.จัดทำครั้งนี้ ยังเป็นธนบัตรที่มีความน่าสนใจ เนื่องจากมีลายเซ็นของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะเป็น รมว.คลังอยู่ในธนบัตรด้วย
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่