สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จพระราชทานรางวัลผู้ชนะการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” ในงานเทศกาลไหมไทย 2565 จากผลงานผ้าทอทั่วประเทศร่วม 3 พันผืน ผลงานหัตถกรรมร่วม 300 ชิ้น โดย “วีรธรรม ตระกูลเงินไทย” กลุ่มจันทร์ โสมา จังหวัดสุรินทร์ คว้ารางวัล Best of The Best ประเภทผ้ายก ยกเล็ก (ไหมยกดิ้น) เจ้าตัวสุดปลื้ม นับเป็นพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

ตามที่ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับสมาคมแม่บ้านมหาดไทย จัดงานเทศกาลไหมไทย 2565 (Thai Silk Festival 2022) เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา สมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง ในปี 2565 ระหว่างวันที่ 15-18 ธันวาคม 2565 ณ บริเวณหน้าเพลนารีฮอลล์ 1-3 ศูนย์การประชุม แห่งชาติสิริกิติ์ ต่อมาเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ห้องเพลนารีฮอลล์ 1-2 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จพระราชทานเหรียญรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา” และงานหัตถกรรมระดับประเทศผู้ชนะในกิจกรรม “มหาดไทย ผ้าไทยใส่ให้สนุก” และโล่รางวัลต้นกล้านารีรัตน ตามโครงการพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาผลิตภัณฑ์ Young OTOP สู่สากล รวมทั้งทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเผยพระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์ผ้าไทย พร้อมกับพระปณิธานของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการสืบสาน รักษา ต่อยอด เผยแพร่ความงดงามของหัตถศิลป์ไทย ตลอดจนนิทรรศการหม่อนไหม และนิทรรศการผ้าไทยลายอัตลักษณ์ 4 ภาค

จากนั้นเสด็จทอดพระเนตรโซนออกบูธร้านค้า OTOP Luxury ทั้ง 4 ภาค เหนือ กลาง อีสานใต้ จำนวน 100 บูธ ประกอบด้วย กลุ่มผู้ประกวดผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา ซึ่งได้รับเหรียญพระราชทานต่างๆ รวมทั้งร้านค้าของศิลปินโอทอปที่มีชื่อเสียง และทอดพระเนตรแฟชั่นโชว์ผลงาน 10 แบรนด์ไทยดีไซเนอร์ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง นำผ้าไทยมาตัดเย็บเป็นชุดดีไซน์ทันสมัย ซึ่ง 10 แบรนด์ไทยดีไซเนอร์ร่วมออกแบบครั้งนี้ ได้แก่ SIRIVANNAVARI Couture, KAI, TIRAPAN, PICHITA, PISIT, THEATRE, ASAVA, ISSUE, VATIT ITTHI และ WISHARAWISH

ด้านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงที่มาและแนวคิดการจัดงานเทศกาลไหมไทย 2565 ว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงรับพระปฐมบรมราชโองการจากพระบรมชนกนาถ ด้วยการน้อมเกล้าฯ สืบสาน รักษา และต่อยอด งานด้านผ้าไทยของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อให้พี่น้องคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยพระราชกรณียกิจที่สำคัญยิ่งของสมเด็จพระพันปีหลวง ในเรื่องของการส่งเสริมศิลปาชีพ ภูมิปัญญาผ้าไทย งานหัตถศิลป์หัตถกรรม พระองค์ท่านเป็นผู้ทำให้เกิดอาชีพเสริมมีรายได้ขึ้นมา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงน้อมนำสิ่งต่างๆ เหล่านั้น มาถ่ายทอดให้กับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ปีนี้เป็นปีที่ 3 รูปธรรมที่ชัดเจน ประการที่ 1 คือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปหัวเมืองต่างๆ ครบทุกภูมิภาคแล้วพระราชทานพระราชวินิจฉัยคำแนะนำในการพัฒนางานที่สมเด็จ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงริเริ่มและประกอบพระราชกรณียกิจมายาวนานกว่า 70 ปี อีกอันที่เป็นเครื่องมือปลุกเร้าคือ การจัดประกวด โดยปีนี้จำลองลานคำหอม พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนคร ที่ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ใช้เป็นพื้นที่ทอดพระเนตรชิ้นงานของพสกนิกร นอกจากทรงสืบสานงานการประกวดผ้าไทย ยังทรงต่อยอดฝ่าทะลวงปัญหาของผ้าไทย ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เช่น ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา

ปลัดกระทรวงมหาดไทยเผยถึงประการถัดมาว่าพระองค์ได้พระราชทานโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก เนื่องจากทรงเล็งเห็นว่ากับดักของผ้าไทยอย่างหนึ่งคือคนรุ่นใหม่คิดว่าผ้าไทยเหมาะสมกับคนสูงอายุ ทว่าพระองค์ท่านพระราชทานโครงการฯ รูปแบบแนวทาง และทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่ามาแสดงโชว์ให้เห็นว่าผ้าไทยสามารถตัดได้หลายรูปแบบ สามารถใช้ได้ทุกวัย ทุกโอกาส เพียงแต่รู้จักนำเอามาออกแบบตัดเย็บให้ถูกใจตัวเอง จะฝ่าทางตันของผ้าไทย ประการที่ 3 พระองค์ท่านมาพร้อมวิทยาการสมัยใหม่ตามที่ทรงศึกษาเล่าเรียนด้านแฟชั่น เช่น การผลิตชิ้นงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม รู้จักการตลาดว่าอนาคตจะนิยมสีอะไร เป็นต้น ทำให้ชาวบ้านสามารถมีรายได้จากการทอผ้าเพิ่มขึ้น สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัว สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี และความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม

ขณะที่นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชนได้สนองงานต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 ทุกปีมีการส่งประกวดผ้าและหัตถกรรมต่างๆ เป็นจำนวนมากขึ้น โดยปี 2565 มีชาวบ้านส่งผลงานผ้าทอมาถึง 2,946 ผืน จากทั่วประเทศ ผลงานหัตถกรรม 298 ชิ้น คณะกรรมการคัดเลือกผลงานผ้าทอเหลือ 61 ชิ้น ผลงานหัตถกรรม 10 ชิ้น โดยผู้ชนะรางวัลพิเศษ 4 รางวัล ในการประกวด “ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา” และงานหัตถกรรมระดับประเทศประกอบด้วย รางวัล Best of The Best ได้แก่ นายวีรธรรม ตระกูลเงินไทย กลุ่มจันทร์โสมา จังหวัดสุรินทร์ ประเภทผ้ายก ยกเล็ก (ไหมยกดิ้น) รางวัลสีธรรมชาติยอดเยี่ยม ได้แก่ นายวิทวัส โสภารักษ์ กลุ่มแพรวาโสภารักษ์ ประเภทแพรวา, รางวัลลวดลายตามแบบพระราชทานยอดเยี่ยม ได้แก่ นายวันเฉลิม ศรีภุยเดช เฮือนไหมมนัสวรรณ ไหมแท้ที่แม่ทอ จังหวัดอุดรธานี ประเภทผ้าขิด และรางวัล Young OTOP ได้แก่ นาย
ศุภกิจ บุญมีเลี้ยง กลุ่มเยาวชนอนุรักษ์ผ้าไหมปูมโบราณบ้านโนนสง่า จังหวัดสุรินทร์ ประเภทผ้าไหมมัดหมี่ 3 ตะกอ และผู้ชนะเลิศรางวัลประเภทต่างๆ รวม 13 ประเภท

ด้านนายวีรธรรม ตระกูลเงินไทย กลุ่มจันทร์โสมา จังหวัดสุรินทร์ ประเภทผ้ายก ยกเล็ก (ไหมยกดิ้น) ได้รับรางวัล Best of The Best เปิดเผยว่า นับเป็นพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยแนวคิดหลัก คือการนำลวดลายผ้าพระราชทาน “ขิดลายนารีรัตน ราชกัญญา” ซึ่งสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงออกแบบและพระราชทานไว้ มาเป็นโจทย์หลักเพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานชิ้นนี้ โดยการนำลวดลายผ้าขิดพระราชทานนั้นมาสร้างจินตนาการเพิ่มเติม ผสมผสานกับรูปแบบลายไทยที่ปรากฏในผ้ายกแบบราชสำนัก เพื่อสื่อถึงสายสัมพันธ์และสายใยพระเมตตา ความห่วงหาอาทรของราชสำนักที่หลั่งไหลสู่พสกนิกรไทย มาแต่อดีตจวบจนปัจจุบันมิได้ขาด ซึ่งการทอผ้าผืนนี้มีความพิเศษคือการใช้สีธรรมชาติ และไหมพื้นบ้าน ได้ผสมผสานเทคนิคการทอผ้าเข้าไว้ด้วยกันทั้งยกทอง (ขิด) ยกไหมลายขึ้นด้านเดียว และจกไหมทอง(จุ่มดอก) ทำให้ได้ผ้าที่สวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์