นายนพดล ปัทมะ
"นพดล" ฉะงานหลักรัฐบาลกู้หนี้ บี้ ทักษิณ มั่นใจครอบครัวชินวัตร แจงทรัพย์สินต่อดีเอสไอได้ สับกระบวนการปรองดองแค่ซื้อเวลา เกาไม่ถูกที่คัน...
วันที่ 19 มิ.ย. 2553 นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ จะเรียก 83 บุคคล ให้มารายงานธุรกรรมการเงินต้องสงสัยที่อาจเกี่ยวข้องกับการชุมนุมของคนเสื้อแดง โดยมีรายงานว่าจะเรียกสมาชิกในครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าชี้แจงเป็นกลุ่มแรกในต้นสัปดาห์หน้าว่า ถือเป็นกระบวนการของรัฐบาลที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ทำหลักๆคือ กู้หนี้บี้ทักษิณ เรื่องนี้ถือเป็นจิ๊กซอว์หนึ่งเพื่อเอาผิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว รวมทั้งพรรคพวกอย่างไม่ลดละ ซึ่งจะส่งผลให้การปรองดอง สมานฉันท์สำเร็จได้ยาก หนำซ้ำจะยิ่งสร้างความแตกร้าวให้เพิ่มมากขึ้น
ก็อยากวิงวอนรัฐบาลให้ปรับเปลี่ยนท่าที ยุติการไล่ล่าหันหน้ามาพูดคุยกันดีกว่า ต้องยอมรับว่าคนรัก พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มีอยู่จำนวนไม่น้อยเช่นเดียวกัน วันนี้รัฐบาลอาจจะชนะศึกแต่อาจไม่ชนะสงคราม บ้านเมืองประกอบด้วยหลายส่วน ชาติจะเดินไปไม่ได้เลยหากคนส่วนหนึ่งถูกไล่บี้ ไล่ล่าจนถึงที่สุด
“การดำเนินธุรกรรมของคนในครอบครัวชินวัตรนั้น มันสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว ที่มีการถอนเงินไป ก็เพื่อไปใช้หนี้ นำไปลงทุน ทั้งนี้ภายหลังการยึดอำนาจ หลายบริษัทได้รับผลกระทบจากการยึดทรัพย์ อายัดทรัพย์ ประสบภาวะลำบากมาหลายปี แต่ในแง่ธุรกิจมันต้องเดินต่อไป และภายหลังการตัดสินคดียึดทรัพย์ของพ.ต.ท.ทักษิณ คนในครอบครัวก็คงจะต้องนำเงินไปลงทุน หาอะไรทำบ้าง มั่นใจว่าทุกคนชี้แจงที่มาที่ไปของเงินได้ ไม่มีปัญหา ไม่มีการถอนเงินไปจ้างม็อบ หรือจ้างคนเสื้อแดงแน่นอน”นายนพดลระบุ
นายนพดล กล่าวด้วยว่า สำหรับกระบวนการปรองดองที่รัฐบาลกำลังทำอยู่นั้น อยากขอให้รัฐบาลเลิกให้ข้อมูลผิดๆ โดยเฉพาะกับชาวต่างชาติ เพราะโรดแม็ปการปฏิรูปนั้น ไม่ใช่การปรองดอง หลายอย่างเป็นเป้าหมายการพัฒนาประเทศในเชิงเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเรื่องในระยะยาว ไม่ใช่การแก้ปัญหาความขัดแย้งเฉพาะหน้า วันนี้ประชาชนต้องการให้แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของความเป็นธรรม ไม่ใช่ความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจ เขาไม่ได้เรียกร้องให้ปฏิรูปประเทศ แต่เรียกร้องให้ปฏิรูปความเป็นธรรม แก้ปัญหาความขัดแย้ง รัฐบาลเกาไม่ถูกที่คัน แก้ปัญหาแบบกลับหัวกลับหาง เหมือนคนป่วยกำลังจะตาย ต้องเข้าไอซียู แต่รัฐบาลกลับเอาเข้าสปาก่อน
กรณีที่มีการตั้ง นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส มาร่วมปฏิรูปนั้น เหมือนเป็นการยืมมือซื้อเวลาต่อไป เพราะแผนต่างๆเป็นแผนระยะยาวไม่ได้จบลงในรัฐบาลชุดนี้
...