กรมสรรพากร นำใบประเมินภาษี เรียกเก็บ "ทักษิณ" 1.7 หมื่นล้านบาท ปมขายหุ้นชินคอร์ปปอเรชั่น มาแปะที่หน้าบ้านจันทร์ส่องหล้า หลังไม่มีตัวแทนมารับทราบการเสียภาษีตามนัดหมาย...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 60 เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรเขตบางพลัด ได้นำหนังสือประเมินภาษีเรียกเก็บ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมค่าปรับและเงินเพิ่มรวมมูลค่า 17,000 ล้านบาท ไปติดที่หน้าบ้านพักจันทร์ส่องหล้า เลขที่ 472 ถนนจรัญสนิทวงศ์ 69 แขวงและเขตบางพลัด กทม. ซึ่งเป็นที่อยู่ของ นายทักษิณ ตามที่แจ้งไว้ในระบบทะเบียนราษฎรของกระทรวงมหาดไทย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ สน.บางพลัด ร่วมเป็นพยาน ซึ่งการติดหนังสือประเมินภาษี นายทักษิณ ดังกล่าว เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ที่ต้องประเมินภาษีจากการขายหุ้น บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จำนวน 329.2 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2549 ให้กลุ่มเทมาเส็ก ภายใน 10 ปี ซึ่งจะหมดอายุความในวันที่ 31 มี.ค.นี้

สำหรับการติดหนังสือประเมินภาษี นายทักษิณ ดังกล่าว เป็นขั้นตอนหลังจากเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา กรมสรรพากรได้นัดหมายให้ นายทักษิณ หรือตัวแทนผู้รับมอบอำนาจมารับทราบการประเมินภาษี พร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่มจากการขายหุ้นชินคอร์ปอเรชั่น แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายกลับไม่มีตัวแทนนายทักษิณมาแต่อย่างใด ดังนั้น เมื่อนายทักษิณไม่ส่งตัวแทนมารับทราบการประเมินภาษีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ของกรมจึงต้องติดหนังสือประเมินภาษีเพื่อแจ้งให้นายทักษิณรับทราบ

...

อย่างไรก็ตาม หากผู้เสียภาษีไม่เห็นด้วยกับการประเมินภาษี สามารถทำเรื่องยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ภายใน 30 วัน นับแต่วันได้รับหนังสือแจ้งการประเมินภาษีจากเจ้าพนักงานประเมิน นอกจากนี้ หากไม่พอใจผลประเมิน ยังสามารถอุทธรณ์ต่อศาลภาษีอากรภายใน 30 วัน นับแต่วันได้รับแจ้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์จากคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์

ทั้งนี้หากไม่ยื่นอุทธรณ์ตามกำหนด กรมสรรพากรจะดำเนินการเก็บภาษีทันที และหากผู้เสียภาษีไม่มาชำระ กรมสรรพากรจะใช้อำนาจยึดทรัพย์ เช่น เงินฝากและอสังหาริมทรัพย์ เพื่อนำมาชำระค่าภาษีให้ครบตามที่เรียกเก็บต่อไป.