โครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี อื้อฉาว 489 คัน ของ ขสมก.จะลงเอยอย่างไร คงต้องชักตะพานแหงนเถ่อต่อไปอีกยาว
แต่เพื่อไม่ให้การแก้ไขปัญหารถเมล์เอ็นจีวี ขสมก.ต้องติดค้างลำกล้องนานเกินควร
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงเซ็นคำสั่งย้ายฟ้าผ่า นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ ขสมก. ให้ไปนั่งตบยุงที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อแต่งตั้งผู้อำนวยการ ขสมก.คนใหม่รับหน้าเสื่อแก้ปัญหารถเมล์เอ็นจีวีป้ายแดง 489 คัน ให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า การเด้งสายฟ้าแลบ ผอ.ขสมก.ไปนั่งตบยุงประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่มีการชี้แจงเหตุผลชัดเจน
แต่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ยอมรับว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ของ ขสมก.
เพราะ ผอ.ขสมก.เป็นผู้รับผิดชอบการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี เป็นผู้เห็นชอบกำหนดเงื่อนไขทีโออาร์ เมื่อเกิดปัญหาแหล่งผลิตรถเมล์เอ็นจีวีไม่เป็นไปตามที่ระบุไว้ในสัญญา จนเป็นเหตุให้โครงการการจัดหารถเมล์เอ็นจีวี ตามนโยบายรัฐบาลต้องล่าช้าออกไป ฯลฯ
จึงต้องเปลี่ยนผู้รับผิดชอบกันบ้างตามสมควร
“แม่ลูกจันทร์” ไม่แน่ใจว่า การสั่งเด้ง นายสุระชัย ไปนั่งตบยุงประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะทำให้การแก้ปัญหารถเมล์เอ็นจีวีอื้อฉาว 489 คันจบลงได้อย่างรวดเร็ว
เพราะเรื่องได้บานปลายกลายเป็นคดีฟ้องร้องกันนุงนังพันเต
กว่าศาลจะพิจารณาคดีเสร็จคงต้องเยิ่นกันอีกหลายปี
ความจริงเรื่องนี้จะมองว่าเป็นความบกพร่องผิดพลาดของ ผอ.ขสมก.คนเดียวก็ไม่แฟร์
แต่เกิดจากความไม่ชัดเจนของนโยบายรัฐบาลเช่นกัน
หากรัฐบาลต้องการให้ยกเลิกสัญญา เพื่อเปิดประมูลจัดซื้อรถเมล์ใหม่ทดแทน...
ย่อมเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องตัดสินใจ
...
รัฐบาลตัดสินใจอย่างไร ผอ.ขสมก.ต้องปฏิบัติตาม
แต่เมื่อไม่มีคำสั่งจากหน่วยเหนือให้ดำเนินการอย่างไร ผอ.ขสมก.ก็ไม่กล้าตัดสินใจด้วยตัวเอง
ปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังจนโดนเด้งไปนั่งตบยุงที่ทำเนียบรัฐบาลด้วยประการฉะนี้แล
“แม่ลูกจันทร์” มองว่า การเด้งข้าราชการไปนั่งตบยุงอาจไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ได้ผลดีเสมอไป
ที่ผ่านมารัฐบาล คสช.สั่งเด้งข้าราชการ เข้ากรุมากเป็นประวัติการณ์
เฉพาะข้าราชการระดับบิ๊กๆตัวท็อปๆโดนย้ายไปนั่งตบยุงเกือบ 70 คน
โดยอ้างเหตุผลเพื่อความเหมาะสม และเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารราชการแผ่นดิน
แต่ความจริง ข้าราชการ และผู้บริหารรัฐวิสาหกิจที่โดนคำสั่งย้ายไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เท่ากับย้ายไปนั่งกินเงินเดือนฟรีๆ!!
ไม่ได้ทำงานให้เกิดประโยชน์คุ้มเงินภาษีประชาชน
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า ถ้าเหตุผลที่ต้องโยกย้ายข้าราชการเข้ากรุเนื่องจากสงสัยว่าเกี่ยวข้องการทุจริตอย่างหนึ่งอย่างใด ก็ควรตั้งคณะกรรมการสอบสวนให้เป็นเรื่องเป็นราว
ถ้าพบว่าผิดจริงก็จัดการเช็กบิลไปเลย
แต่ถ้าตรวจสอบแล้วไม่พบความผิดก็ควรคืนความเป็นธรรมให้ได้กลับไปใช้ความรู้ความสามารถให้เกิดประโยชน์ต่อไป
ดีกว่าปล่อยให้นั่งตบยุงกินเงินฟรีๆไปวันๆ
“แม่ลูกจันทร์” เห็นแบบนี้ ท่านจะเห็นอย่างไรเชิญตามสบายก็แล้วกัน.
“แม่ลูกจันทร์”