"นิด้าโพล" เผยผลสำรวจ "แนวทางแก้ไขปัญหายาบ้า" ชี้คนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยแนวคิดนำยาเสพติดบางชนิด มาใช้ถูก ก.ม. เชื่อราคาถูกลงทำคนเสพเพิ่มขึ้น...
วันที่ 11 ก.ย. 59 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน 1,250 คนทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 6-7 ก.ย.ที่ผ่านมา เรื่อง "แนวทางแก้ไขปัญหายาบ้า" โดยเมื่อถามถึงแนวคิดการให้ยาเสพติดบางชนิดถูกนำมาใช้โดยถูกกฎหมาย พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 49.20 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการให้ยาเสพติดทุกชนิดถูกนำมาใช้โดยถูกกฎหมายได้ รองลงมา ร้อยละ 38.48 ระบุว่า เห็นด้วยกับการเปลี่ยนใบกระท่อมให้เป็นยา ร้อยละ 38.16 ระบุว่า เห็นด้วยกับการเปลี่ยนกัญชาให้เป็นยาสมุนไพร และอนุญาตให้ใช้ในทางการแพทย์ และร้อยละ 15.60 ระบุว่า เห็นด้วยกับการเปลี่ยน ยาบ้าให้เป็นสารเสพติดที่อนุญาตให้ใช้ในทางการแพทย์ เมื่อถามถึงการลงโทษผู้เสพยาบ้า พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 59.36 ระบุว่า ผู้เสพยาบ้า ควรได้รับการลงโทษด้วยการจำคุกและต้องเข้ารับการบำบัดรักษา รองลงมา ร้อยละ 25.76 ระบุว่า ผู้เสพยาบ้า ไม่ควรถูกจำคุกแต่ต้องเข้ารับการบำบัดรักษาในศูนย์บำบัดฯ ของทางราชการ ขณะที่ ร้อยละ 9.36 ระบุว่า ผู้เสพยาบ้า ควรได้รับการลงโทษด้วยการจำคุกเท่านั้น
สำหรับความเชื่อมั่นของประชาชนต่อความยินยอมของผู้เสพยาบ้าที่จะเข้ารับการบำบัดรักษาด้วยความสมัครใจ หากกฎหมายระบุว่าผู้เสพยาบ้าเป็นผู้ป่วย และต้องเข้ารับการบำบัดรักษา พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 33.68 ระบุว่า ไม่มีความมั่นใจเลย รองลงมา ร้อยละ 32.56 ระบุว่า ไม่ค่อยมีความมั่นใจ มีเพียงร้อยละ 14.56 ระบุว่า ค่อนข้างมีความมั่นใจ ขณะที่ความคิดเห็นของประชาชนต่อจำนวนผู้เสพยาบ้าในประเทศไทย ถ้ายาบ้ามีราคาลดลง พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 75.28 ระบุว่า จำนวนผู้เสพยาบ้าจะเพิ่มขึ้น เพราะยาบ้ามีราคาถูกลง จะทำให้หาซื้อได้ง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กหรือเยาวชนหรือคนที่อยากรู้อยากลอง คนที่เสพมีกำลังซื้อมากขึ้น รองลงมา ร้อยละ 13.68 ระบุว่า จำนวนผู้เสพยาบ้าจะไม่เปลี่ยนแปลง เพราะ ไม่ว่ายาบ้าจะมีราคาเท่าไร คนก็จะยังหาซื้อมาเสพเหมือนเดิม ขณะที่ ร้อยละ 5.36 ระบุว่า จำนวนผู้เสพยาบ้าจะลดลง เพราะในทางจิตวิทยาคนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าสิ่งของที่มีราคาถูกจะเป็นสิ่งของที่ไร้ค่าหรือไม่มีคุณภาพ เมื่อราคาถูก จำนวนผู้ขายก็จะลดลง ผู้เสพก็จะลดลง จนเลิกการผลิตไป
...