นายกฯ ชี้ปัญหาทะเลจีนใต้ เป็นเรื่องของคู่ขัดแย้ง แจงเหตุเรือไทยชนเรือเวียดนาม รอพิสูจน์ก่อน ถ้าผิดก็คือผิด
เมื่อวันที่ 12 ก.ค.59 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่คณะอนุญาโตตุลาการถาวรในกรุงเฮก จะประกาศคำวินิจฉัยในคดีทะเลจีนใต้ ที่ฟิลิปปินส์เป็นผู้ยื่นคำร้อง เมื่อปี 2556 ในวันที่ 12 ก.ค.ว่า เป็นเรื่องของคณะอนุญาโตตุลาการของเราเป็นเรื่องมติของอาเซียนในการทำให้เป็นทะเลแห่งความร่วมมือ ทะเลแห่งมิตรไมตรี มันคนละเรื่องกัน
เมื่อถามว่า ไทยจะมีการผลักดันเรื่องนี้ในการประชุมผู้นำอาเซียน ในช่วงปลายเดือน ก.ค.หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ทำไมจะตนจะต้องไปผลักดันใคร การพูดคุยวันนี้เป็นเรื่องของประเทศที่เป็นคู่ขัดแย้ง เราอยู่ตรงนั้นหรือไม่ เราก็ไม่ได้อยู่ เราเป็นอาเซียนก็ไปหามติในอาเซียนด้วยกันว่า ทั้งหมดคิดอย่างไร ตอนนี้คิดอย่างไรก็เก็บไว้ก่อน จะมาพูดอะไรตอนนี้ เดี๋ยวเขาไปพูดกันเอง ซึ่งเขาคงคุยเรื่องนี้ทุกที แต่ยังไม่ได้คำตอบ เราก็เคยเป็นประเทศผู้ประสานงาน ปีนี้เป็นเรื่องของสิงคโปร์ และสิงคโปร์เป็นผู้ประสานงานต่อ เราก็คอยช่วยเหลือสนับสนุน แต่การแสดงความคิดเห็นโดดๆ คงทำไม่ได้
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงรายงานข่าวจากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ของเวียดนาม ระบุว่า มีเรือไทยเข้าโจมตีเรือเวียดนาม ซึ่งทำให้ชาวประมงเวียดนามได้รับบาดเจ็บว่า ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องนี้ ทราบแต่เพียงว่ามีการจับกุมเรือเวียดนาม และได้รับบาดเจ็บ แต่เท่าที่สอบถามมีการละเมิดน่านน้ำจริง ส่วนเรื่องอื่นทางสื่อเวียดนามเอาไปขยาย จริงๆ เรามีการพูดคุยกันได้ ตอนนี้ล้ำหรือไม่ล้ำเขตน่านน้ำต้องพิสูจน์ให้ได้ก่อน และต่อไปเป็นการพูดคุยเจรจาว่าจะเอาอย่างไร จะส่งไปดำเนินคดีที่เวียดนามหรือประเทศไทย เป็นแบบนี้มาโดยตลอด เพียงแต่รัฐบาลนี้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเหล่านี้ ไม่ว่าจะ กัมพูชา ลาว และเวียดนาม ทั้งหมดจะต้องพูดคุยในเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้เป็นประเด็นในความขัดแย้ง ถ้าผิดก็ยอมรับว่าผิด มีความชัดเจนอยู่แล้ว
...
เมื่อถามว่า ศาลที่ จ.สงขลา จะมีการตัดสินเรื่องนี้ นายกฯ กล่าวว่า ก็ถ้าผิดก็คือผิด ขั้นตอนต่อไปถ้าผิดแล้วจะทำอย่างไร จะติดคุกที่นี่หรือติดคุกที่นู่น ไปถามรายละเอียดปลีกย่อยมากเกินไป.