อุทธรณ์ ยืน ยกฟ้อง “อนุดิษฐ์-จิรายุ” คดีกล่าวหา “กรณ์” ใช้อภิสิทธิ์อัพเกรดตั๋วบินไทย ศาล ชี้ จำเลย แสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม บุคคลทั่วไปสามารถกระทำได้
ที่ห้องพิจารณาคดี 905 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก วันที่ 10 มิ.ย. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ ฟ อ.868 / 2553 ที่ นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง และนางวรกร จาติกวณิช มอบอำนาจให้ นายวัฒนา งอกขาว ทนายความ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พรรคเพื่อไทย, นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตรองนายกรัฐมนตรี, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 และขอให้จำเลยทั้ง 4 ร่วมกันจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ด้วย รวม 100 ล้านบาท ตามฟ้องโจทก์
บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 26-27 ธ.ค.52 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย น.อ.อนุดิษฐ์ และนายจิรายุ จำเลยที่ 3-4 กับพวก ได้แจกเอกสารแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนใส่ความหมิ่นประมาทโจทก์ทั้งสอง และครอบครัว ว่า ได้รับการร้องเรียนจากพนักงานการบินไทย และผู้ถือหุ้นว่า โจทก์อาจมีการใช้อภิสิทธิ์ให้บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ทำการอัพเกรดบัตรโดยสารในการเดินทางไปต่างประเทศหลายครั้ง ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย และเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยชั้นตรวจคำฟ้อง ศาลได้ยกฟ้องพรรคเพื่อไทย และนายยงยุทธ อดีตหัวหน้าพรรคฯ จำเลยที่ 1-2 และรับฟ้องไว้เฉพาะ น.อ.อนุดิษฐ์ อดีต รมว.ไอซีที และนายจิรายุ อดีตรองโฆษกพรรคฯ จำเลยที่ 3-4
ขณะที่ ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 22 ม.ค.58 ยกฟ้องจำเลยที่ 3-4 ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์จ่ายค่าบัตรโดยสารในราคาขั้นต่ำ แต่ได้อัพเกรดบัตรโดยสารในขั้นที่สูงขึ้น ที่โจทก์อ้างว่าจำเลยไม่ตรวจสอบข้อมูลก่อนแถลง เนื่องจากโจทก์เป็นลูกค้าชั้นดีจึงได้รับสิทธิ์ในการเลื่อนชั้นบัตรโดยสาร แต่กรณีบุตรของโจทก์ซึ่งเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ ก็สงสัยว่าเป็นลูกค้าชั้นดีด้วยหรือไม่ อีกทั้ง พนักงาน บมจ.การบินไทย ก็เบิกความว่า การเลื่อนชั้นบัตรโดยสาร มีหลักเกณฑ์ซึ่งผู้บริหารที่มีอำนาจสามารถเซ็นอนุมัติได้ นอกจากนั้นการเลื่อนชั้นบัตรโดยสารยังมีกรณีพิเศษ ซึ่งบางรายการระบุเหตุผล บางรายการก็ไม่ได้ระบุเหตุผล ขณะที่บางรายการก็ระบุด้วยวาจา
...
ศาลเห็นว่า แม้การเลื่อนชั้นบัตรโดยสารจะมีหลักเกณฑ์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจเซ็นอนุมัติ โดยโจทก์ก็เบิกความยอมรับว่า ได้มีการเลื่อนชั้นบัตรโดยสารจริง แต่ไม่ได้ใช้อภิสิทธิ์ ขณะที่กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ อีกทั้งนายกรณ์ โจทก์ที่ 1 เป็นบุคคลสาธารณะ ย่อมอยู่ในวิสัยปกติของประชาชนที่สามารถถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นแสดงความคิดเห็น หรือข้อความโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถกระทำได้ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น