"บิ๊กจิ๋ว" เตือน คสช. เร่งคายอำนาจ ระวังเหมือนอดีต "มาด้วยดอกไม้ ไปด้วยก้อนอิฐ" แนะ "มีชัย" อย่ารับใบสั่ง ร่าง รธน. บี้ คสช. รีบให้มีการเลือกตั้งปี 59 และคืนอำนาจให้ ปชช. ยัน "ทักษิณ" พูดด้วยความห่วงใยบ้านเมือง...
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 ก.พ. 59 ที่บ้านพัก ซ.ปิ่นประภาคม พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ เปิดแถลงพร้อมทำจดหมายเปิดผนึกถึงประชาชนชาวไทยผู้รักชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลทั้งในและนอกเครื่องแบบประมาณ 10 คน และเป็นที่น่าสังเกตว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารมาเฝ้าสังเกตการณ์ และบันทึกภาพเหมือนอย่างทุกครั้งที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จดหมายเปิดผนึกดังกล่าว ระบุว่านับแต่ คสช. อาสาเข้ามาแก้ไขปัญหาของชาติและความขัดแย้งของบ้านเมืองตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. 57 ซึ่งสามารถระงับยับยั้งความขัดแย้งได้ในระดับหนึ่ง แต่จากการบริหารงานมาครบ 2 ปี ปรากฏว่าแนวทางที่รัฐบาล คสช. กำลังดำเนินการกลับมีแนวโน้มนำไปสู่ความขัดแย้งในบ้านเมืองยิ่งขึ้น ทั้งเรื่องปัญหาเศรษฐกิจที่ประชาชนเดือดร้อน เศรษฐกิจเข้าสู่ยุคเงินฝืด ประชาชนขาดกำลังซื้อ การส่งออกลดลงอย่างรุนแรง
...
ทั้งนี้ยังระบุว่า ขณะที่การร่างรัฐธรรมนูญที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานกรรมการยกร่างฯ นั้น ได้รับการต่อต้านจากหลายภาคส่วนมากยิ่งขึ้น โครงสร้างและเนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย ที่อำนาจ อธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง มิหนำซ้ำยังถอยหลังเข้าคลองหลายสิบปี ทั้งนี้ ร่างฯ ดังกล่าวอยู่ระหว่างการปรับปรุงก่อนไปสู่ขั้นตอนการจัดทำประชามติ มีข่าวว่ารัฐบาลพยายามทุกวิถีทางผลักดันเพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านประชามติให้ได้ ขณะเดียวกันภาคประชาชนก็มีเครือข่ายเตรียมการไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ และไม่ให้ประชามติครั้งนี้ผ่านไปได้ จากประสบการณ์ในชีวิตของตนที่ได้มีส่วนเข้าไปแก้ไขปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศช่วงที่ผ่านมา เชื่อได้ว่าเป็นการยากที่ คสช. และรัฐบาลจะสามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นและรุมเร้าอยู่ได้ และทราบว่าเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ผู้ช่วยเลขาธิการใหญ่องค์กรสหประชาชาติ ฝ่ายการเมืองและคณะได้เดินทางมาประเทศไทยเพื่อติดตามสถานการณ์ทางการเมือง โดยหวังให้ไทยกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย
เนื้อหาระบุอีกว่า จากปัญหาที่ซับซ้อนดังกล่าว การเสียสละอำนาจของ คสช. ถ้าไม่เกิดขึ้นโดยเร็วก็ยากที่จะขจัดปัญหาให้หมดสิ้น ซึ่งจะตกเป็นภาระแก่ชนรุ่นหลัง ในฐานะนายทหารรุ่นพี่ ขอร้อง คสช. ไตร่ตรองปัญหาประเทศโดยเมื่อท่านได้ทำหน้าที่รักษาความสงบของบ้านเมืองแล้วก็ควรจะเสียสละอำนาจส่งต่อภาระหน้าที่ให้กับคณะกรรมการกลางที่จะมาจากภาคส่วนต่างๆ ร่วมกันบริหารจัดการให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ภายในปี 2559 เพื่อให้ได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
จากนั้น พล.อ.ชวลิต ให้สัมภาษณ์ถึงร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย ฤชุพันธ์ุ จะผ่านประชามติหรือไม่ ตนกับนายมีชัย และ นายวิษณุ เครืองาม เคยทำงานร่วมกันมา ไม่ทราบว่าจะผ่านหรือไม่ แต่ขอให้ร่างรัฐธรรมนูญเป็นฉบับที่ดีที่สุดไม่ถูกฉีกอีก ทั้งนี้ ขอให้ นายมีชัย ยืนอยู่บนแนวทางที่ถูกต้อง อย่าต้องถึงขั้นต้องรับคำสั่งโดยตรงจาก คสช. เมื่อถามว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้รับคำสั่งจาก คสช. เพื่อให้ประชามติผ่านหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา แต่ตนมองว่าอยากให้ทหารถอนตัว เพราะไม่ใช่หน้าที่ของทหาร
เมื่อถามถึงกรณีที่รัฐบาล คสช. จะอยู่ต่อช่วงเปลี่ยนผ่านไปอีก 5 ปี พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า จะเป็นไปได้อย่างไร บอกหลายทีแล้วว่า คสช. มีภาระหน้าที่แค่ไหน ท่านเข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเท่านั้น มีหน้าที่เท่านี้ จะขออยู่ต่ออีก 5 ปีได้อย่างไร แค่ 5 เดือนก็ไม่ไหว เพราะตลอด 2 ปีที่บริหารประเทศก็เห็นแล้วว่าเป็นอย่างไร ยิ่งมีการกำหนดแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ยิ่งเป็นไปไม่ได้ ถ้า คสช. อยู่ต่อแล้วอาจจะเหมือนอดีตรัฐบาลที่ผ่านมาที่เข้ามาได้รับดอกไม้ พอออกไปได้รับก้อนอิฐ เมื่อถามว่ามองอย่างไรกับการเคลื่อนไหวและการให้สัมภาษณ์ของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในช่วงนี้ พล.อ.ชวลิต ท่านคงพูดด้วยความเป็นห่วงบ้านเมือง
เมื่อถามว่าอยากฝากอะไรถึงนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า อยากให้คนไทยมีงานทำ เอาของไปขายต่างประเทศ ทำเป็นรถเข็นใช้ชื่อ "รถจันทร์โอชา" ตามเมืองต่างๆ ที่บริโภคข้าวไทย ซึ่งจะทำให้คนรู้จักประเทศไทยมากขึ้น โดยนำสินค้าโอทอปไปขายด้วย คนไทยจะได้ไม่ตกงาน นอกจากนี้ พล.อ.ชวลิต ยังห่วงสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ที่มีกลุ่มก่อการร้ายเข้ามามีอิทธิพลในอาเซียน โดยระบุว่า ขณะนี้ในพื้นที่ภาคใต้มีองค์กรชื่อว่า "แบล็กสวอน" หรือ "เหยี่ยวดำ" เกิดขึ้น ทราบว่าเป็นของกลุ่มไอซิส ไม่รู้ว่ารัฐบาลทราบหรือยัง แต่อยากให้รัฐบาลดูแลการข่าวให้เข้มกว่านี้ เพราะว่าขณะนี้รูปแบบการขัดแย้งในภาคใต้มีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น รัฐบาลก็ต้องเปลี่ยนวิธีรับมือด้วย.