ระงับเยือน-ทวนสัมพันธ์หอการค้าชี้ดีกว่าแซงก์ชั่นสภาอุตฯเดินสายแจงคู่ค้า
“อียู” ออกแถลงการณ์ประณามกองทัพไทย บี้หนักคืนประชาธิปไตย-จัดการเลือกตั้ง ปล่อยนักโทษการเมือง งัดมาตรการระงับการเยือนไทย-ยกเลิกเจรจาเอฟทีเอกับไทย ขู่ทบทวนความสัมพันธ์ทางทหารกต.โต้ทันควัน สั่งทูตไทยประจำกรุงบรัสเซลส์
ทำความเข้าใจ เรียกร้องหนุนโรดแม็ปปรองดอง
“สีหศักดิ์” นัดถกด่วนทูตอียู ส.อ.ท.เต้นแบ่งสายแจงคู่ค้า ปมสหรัฐฯลดเกรดค้ามนุษย์ เชื่อไม่ร้ายแรงถึงขั้นคว่ำบาตรไทย หอการค้าฯ ชี้ไม่กระทบการลงทุนเอกชน 8 สมาคมสินค้าประมงไทยฮึดสู้ออกพิมพ์เขียวโต้ข้อหาใช้แรงงานทาส คสช.หัวหมุนแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าว “บิ๊กเจี๊ยบ” ชงผ่อนผันขึ้นทะเบียนถูก ก.ม. กนร.ผุดวันสต็อปเซอร์วิสแนวชายแดน แก้ลำนายหน้ารีดหัวคิว “ประจิน” รับลูกสหภาพฯส่งทีมงานลุยล้างทุจริต “อสมท”
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องเผชิญแรงกดดันจากนานาชาติอย่างต่อเนื่อง หลังจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ปรับลดอันดับการค้ามนุษย์ของประเทศไทยประจำปี 2557 จากระดับ 2 ลงมาต่ำสุดที่ระดับ 3 ล่าสุดกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ออกแถลงการณ์ประณามจี้กองทัพไทยคืนอำนาจการปกครองโดยจัดการเลือกตั้ง พร้อมสั่งระงับการเยือนอย่างเป็นทางการและยกเลิกการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับไทย
คสช.เกาะติดปัญหาแรงงานต่างด้าว
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 23 มิ.ย.ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบหมายให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ.ในฐานะเลขาธิการ คสช.เป็นประธานในการประชุมติดตามสถานการณ์และความคืบหน้าส่วนงานที่รับผิดชอบของ คสช.โดยที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาในระยะยาว สำหรับปัญหาแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย ตัวแทนคณะกรรมการนโยบายจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าว (กนร.) ที่มี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.ทหารสูงสุด ในฐานะรองหัวหน้า คสช.ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธาน ได้กำหนดให้ใช้แนวทางการผ่อนผันแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายไปก่อน พร้อมเสนอให้ตั้งศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวเบ็ดเสร็จตามแนวชายแดน อำนวยความสะดวกให้แรงงานต่างด้าวที่จะเข้ามาทำงานในไทยมาขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
...
ตั้งศูนย์บริการตีทะเบียนริมชายแดน
ทั้งนี้ศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวเบ็ดเสร็จตามแนวชายแดน จะเป็นรูปแบบวัน สต็อปเซอร์วิส มีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงที่เกี่ยวข้องมาประจำตามศูนย์ อาทิ กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อลดปัญหานายหน้าจัดหางานและลดค่าใช้จ่ายให้แรงงานต่างด้าว แต่ยังไม่ได้ระบุว่าจะตั้งที่ใดและจะเสร็จเมื่อไหร่ เพราะต้องศึกษาข้อกฎหมายก่อนเสนอต่อหัวหน้า คสช.ประกาศยกเว้นชั่วคราวในระยะแรก ก่อนเข้าสู่ในระยะที่ 2 คือการจัดระเบียบเพื่อรองรับการจัดระเบียบต่อไป ระหว่างนี้ให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้มงวดเส้นทางเข้าออกของแรงงานต่างด้าวตามแนวชายแดนคือบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด และสุรินทร์ เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่ จ.สมุทรสาคร
“บิ๊กตู่” ปรับกำหนดการประชุม คสช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม พล.อ.อุดมเดช ยังได้ระบุด้วยว่า จากนี้เป็นต้นไปหัวหน้า คสช.ได้ปรับรูปแบบการประชุมของ คสช.กำหนดให้วันอังคารกับวันพฤหัสบดี เป็นการประชุมประจำวันของกองบัญชาการกองทัพบก ส่วนการประชุมติดตามสถานการณ์และความคืบหน้าของงานฝ่ายต่างๆของ คสช. จะประชุมในวันจันทร์ กับวันศุกร์ และการประชุมใหญ่ของ คสช.หรือเทียบเท่า ครม.กำหนดประชุมทุกวันพุธ
เตรียมแถลงผลงาน 1 เดือน
เมื่อเวลา 14.15 น. ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า คสช.เตรียมจัดทำรายงานสรุปความคืบหน้าการดำเนินงาน คสช.ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา อาทิ การคืนความสุขให้กับประชาชน การสร้างบรรยากาศทำให้ประชาชนมาพูดคุยกันและนำไปสู่การปฏิรูป การช่วยเหลือคลี่คลายความเดือดร้อนของประชาชน เช่น โครงการรับจำนำข้าว ราคาผลไม้ ยางพารา ภัยพิบัติ ความปลอดภัยความสงบ การจับอาวุธสงคราม การจับกุมผู้ลักลอบตัดไม้ ยาเสพติด การขับเคลื่อนเบิกจ่ายงบฯปี 2557 และการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 จะเสนอผ่านสื่อให้ประชาชนรับทราบจะดำเนินภายใน 2-3 วัน ซึ่งหัวหน้า คสช.จะชี้แจงความคืบหน้าผ่านรายการคืนความสุขให้กับคนในชาติวันที่ 27 มิ.ย. ผลงานที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชนค่อนข้างมาก หัวหน้า คสช.มีความยินดีในความคืบหน้าทุกด้าน ผลโพลของสำนักต่างๆที่ออกมาพบว่าประชาชนพึงพอใจการทำงานของ คสช.สะท้อนความเชื่อมั่นของประชาชน
กล่อม “คริสตี้” ไทยเต็มที่ต้านค้ามนุษย์
เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส.ในฐานะรองหัวหน้า คสช.และหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงให้การต้อนรับนางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย โดย พล.อ.ธนะศักดิ์ได้ชี้แจงสถานการณ์และแผนโรดแม็ปของ คสช. ซึ่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯแสดงความเข้าใจและยินดีที่ไทยมีแนวทางการแก้ไขปัญหาชัดเจน พล.อ.ธนะศักดิ์ยังแสดงความผิดหวัง ไม่เห็นด้วยที่สหรัฐฯลดอันดับการค้ามนุษย์ปี 2557 ของไทยไปอยู่ในกลุ่ม Tier3 โดยยืนยันว่าไทยยังคงมุ่งมั่นต่อต้านการค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็ก และแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังได้หารือความร่วมมือทางทหารทั้ง 2 ฝ่ายยังยินดีจะให้มีการฝึกร่วมฝึกผสมต่อไป
พล.อ.ท.มณฑล สัชฌุกร ที่ปรึกษาหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช.ส่วนกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 16.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ.รองหัวหน้า คสช.ฝ่ายเศรษฐกิจ คสช.ให้การต้อนรับนายดาร์เรน บั๊คลีย์ ประธานหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย พร้อมนายปวิน รอดลอยทุกข์ ผช.ผจก.ธนาคารซิตี้แบงก์ โดยนายดาร์เรนเสนอจะให้การสนับสนุนข้อมูลการค้าและเศรษฐกิจแก่ คสช.และจะเป็นผู้ประสานงานกับบริษัทสมาชิกหอการค้าไทย-อเมริกัน เพื่อทำความเข้าใจกับบริษัทแม่ในสหรัฐฯ
ส.อ.ท.แบ่งทีมเดินสายแจงคู่ค้า
วันเดียวกัน มีการประชุมคณะกรรมการบริหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อหารือกรณีสหรัฐฯปรับลดระดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ในไทยไปอยู่ระดับรุนแรงสุด Tier 3 จากนั้นนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท.เปิดเผยว่า ที่ประชุมกรรมการบริหาร ส.อ.ท.มีข้อสรุปจะให้ประธานภาคต่างๆของ ส.อ.ท.ชี้แจงทำความเข้าใจสมาชิก ส.อ.ท.ที่มีการค้าการลงทุนร่วมกับคู่ค้าสหรัฐฯ ให้รู้ว่าอุตสาหกรรมในประเทศไทยไม่ได้ใช้แรงงานผิดกฎหมาย และได้ตั้งคณะทำงานมีนายสุชาติ จันทรานาคราช รองประธาน ส.อ.ท.ด้านแรงงาน แก้ไขปัญหาร่วมกับภาครัฐ เพื่อหารือกับกระทรวงแรงงานในการแก้ไขปัญหาการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวอย่างจริงจัง ส.อ.ท.สนับสนุนให้จัดระเบียบการใช้แรงงานต่างด้าวเป็นรูปธรรมจริงจัง นำไปปฏิบัติได้ ในช่วงต้นควรนิรโทษกรรมให้แรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายให้มาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง คิดค่าธรรมเนียมอย่างเป็นธรรม
เชื่อมะกัน—อียูไม่คว่ำบาตรสินค้าไทย
นายสุพันธุ์กล่าวว่า ส.อ.ท.เชื่อว่าสหรัฐฯและยุโรปจะไม่คว่ำบาตรสินค้าอาหารทะเลส่งออกของไทย เพราะสถานการณ์ไม่ได้รุนแรงอย่างที่เข้าใจ ประกอบกับ ภาคการผลิตของไทยมีนักลงทุนจากสหรัฐฯอยู่ด้วย การคว่ำบาตรไทยจะกระทบนักลงทุนสหรัฐฯด้วย ขณะนี้ผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยยังไม่เกิดขึ้น แต่มีผลด้านจิตวิทยาทำให้เกิดความกังวลต่อกระแสข่าวและอาจมีผลให้คู่แข่งนำไปขยายผลทางการค้าได้
อียูกดดันไม่กระทบภาคเอกชน
ประธาน ส.อ.ท.กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีสหภาพยุโรป (อียู) เตรียมพิจารณามาตรการดำเนินการประเทศไทยภายหลังไทยมีรัฐประหาร รวมทั้งปัญหาการใช้แรงงานผิดกฎหมายว่า เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าการลงทุนกับไทย การตัดสินใจเข้ามาลงทุน เป็นเรื่องระหว่างเอกชนกับเอกชนตกลงกัน และที่ผ่านมาก่อนที่คู่ค้าของอียูหรือสหรัฐฯจะค้าขายหรือลงทุนกับเอกชนไทย มีระบบตรวจสอบเข้มงวดอยู่แล้วเชื่อว่าไม่น่าส่งผลกระทบ
นายสุชาติ จันทรานาคราช รองประธาน ส.อ.ท. สายงานแรงงานกล่าวว่า การคว่ำบาตรด้านการค้าและมนุษยชนเป็นเรื่องที่สหรัฐฯไม่สามารถดำเนินการได้ ที่ผ่านมาประเทศที่อยู่ในระดับ Tier 3 เหมือนไทย เช่น จีนและรัสเซียยังทำการค้ากับสหรัฐฯอยู่อย่างต่อเนื่อง การถูกลดอันดับเป็นปัญหาทางจิตวิทยาอาจส่งผลให้คู่ค้าไม่ซื้อสินค้าจากไทย ซึ่งทุกฝ่ายจำเป็นต้องเร่งชี้แจงข้อเท็จจริงให้คู่ค้าทราบ
พณ.ผวาอาหารทะเลไทยเสี่ยงถูกแบน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.สหภาพยุโรป (อียู) ได้ประกาศเตือนประเทศฟิลิปปินส์และปาปัวนิวกินี ว่าเป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงไม่ให้ความร่วมมือในการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุมในการทำประมง เพราะยังไม่มีมาตรการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมายอย่างเพียงพอ หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นภายใน 6 เดือน อียูอาจดำเนินมาตรการต่อไป ไทยซึ่งนำเข้าสินค้าประมงจากฟิลิปปินส์เป็นมูลค่า 44.427 ล้านเหรียญ ในปี 56 และ 77.975 ล้านเหรียญในปี 55 นำเข้าจากปาปัวนิวกินี 52.923 ล้านเหรียญในปี 56 และ 74.216 ล้านเหรียญในปี 55 หรือรวมกัน คิดเป็นสัดส่วน 4% ของการนำเข้าสินค้ากลุ่มนี้ของไทย หากอียูแบนสินค้าประมงจาก 2 ประเทศนี้อย่างเป็นทางการแล้ว ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่ไทยนำเข้าจากทั้ง 2 ประเทศเพื่อแปรรูปและส่งออกมายังอียูจะถูกแบนไปด้วย
หอการค้าฯชี้ไม่ร้ายแรงขั้นแซงก์ชั่น
ขณะที่นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกล่าวถึงกรณีที่อียูประชุมหามาตรการดำเนินการกับไทย เพราะมีการรัฐประหาร มีการค้ามนุษย์ และละเมิดสิทธิมนุษยชนว่า อย่างที่อียูเคยระบุว่าไม่ยอมรับการทำรัฐประหาร ดังนั้น ความร่วมมือและความช่วยเหลือของรัฐบาลอียูที่เคยให้รัฐบาลไทยคงไม่มี และถูกยกเลิกหรืออย่างการเดินทางของเจ้าหน้าที่รัฐบาลอียูที่จะมาไทยคงยกเลิกทั้งหมด หรือหากเจ้าหน้าที่รัฐบาลของไทยจะไปอียูก็ยังเดินทางไปได้ แต่รัฐบาลอียูจะไม่ต้อนรับอย่างเป็นทางการ อียูคงจะชะลอการเจรจาจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่อยู่ระหว่างเจรจากับไทย จนกว่าไทยจะมีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย เหมือนการทำรัฐประหารครั้งก่อน ส่วนการแซงก์ชั่นหรือคว่ำบาตรทางการค้ากับไทยอาจเป็นไปได้ยาก เพราะการทำรัฐประหารของไทยไม่ได้เกิดการล้มตายจำนวนมาก หรือถ้าจะอ้างการค้ามนุษย์ อียูก็ไม่ได้กังวลเรื่องนี้มากนัก และไม่ได้มีกฎหมายบังคับใช้เหมือนกฎหมายป้องกันการค้ามนุษย์ของสหรัฐฯ การทำรัฐประหารของไทยครั้งที่แล้ว แม้อียูจะไม่ยอมรับ แต่ก็ไม่ถึงขั้นคว่ำบาตรประเทศไทย เพียงแค่ตัดความช่วยเหลือระหว่างภาครัฐ แต่คงบังคับให้ภาคเอกชนของอียูไม่ทำการค้ากับไทยคงไม่ได้
คาดชะลอลงนามเอฟทีเอไทย-อียู
ด้านนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทยกล่าวว่า เป็นห่วงว่า อียูจะมีมาตรการอะไรออกมาดำเนินการกับไทย แต่ไม่น่าจะถึงการคว่ำบาตรไทย เพราะอียูยังต้องปฏิบัติตามกฎหมายขององค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) อยู่ แต่รัฐบาลของอียูอาจจะตัดความช่วยเหลือรัฐบาลไทยเท่านั้น รวมถึงอาจชะลอการทำข้อตกลงต่างๆ เช่น เอฟทีเอกับไทย
8 สมาคมทำโรดแม็ปสู้ข้อกล่าวหา
ขณะเดียวกัน มีการประชุมสมาพันธ์ผู้ผลิตสินค้าประมงไทย ซึ่งประกอบด้วย 8 สมาคมสินค้าประมงไทย เช่น สมาคมอาหารแช่เยือกแข็ง สมาคมผู้ผลิตปลาป่นไทย สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ สมาคมผู้ผลิตและส่งออกปลาทูน่า และสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ทั้งนี้นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมหารือกันเพื่อจัดทำโรดแม็ปแนวทางการตอบโต้ข้อกล่าวหาเรื่องการใช้แรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งจะแถลงรายละเอียดวันที่ 24 มิ.ย.ภาคเอกชนคงไม่มีมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ เพราะไม่ใช่หน้าที่ แต่จะรวบรวมข้อมูลใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงและชี้แจงข้อเท็จจริงว่าสมาพันธ์ผู้ผลิตสินค้าประมงไทยได้แก้ไขและดูแลทั้งห่วงโซ่การผลิตมาตลอด รวมทั้งเตรียมทำรายงานขอถอดถอนสินค้าประมงในกลุ่มกุ้งและปลาออกจากบัญชีเฝ้าระวังเป็นพิเศษจากสหรัฐฯ เพื่อประกอบการพิจารณาสถานการณ์การใช้แรงงานเด็กขั้นเลวร้าย ที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ จะประกาศผลการพิจารณาในเดือน ก.ย.ภาคเอกชนจะเร่งทำความเข้าใจกับคู่ค้าเกี่ยวกับคำประกาศลดอันดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ และเตรียมมาตรการรองรับกรณีสหรัฐฯ อาจประกาศใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้าไทยภายใน 90 วัน
โวยมะกันเล่นยาแรงเกินจริง
ด้านนายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ทียูเอฟ ผู้ผลิตและส่งออกด้านอาหารทะเลกระป๋องและอาหารทะเลแช่เยือกแข็งระดับโลก กล่าวว่าผิดหวังที่สหรัฐฯปรับลดไทยไปอยู่ระดับต่ำสุดหรือ Tier 3 สหรัฐฯ ให้น้ำหนักความพยายามการแก้ปัญหาของไทยไม่เพียงพอ ทั้งๆ ที่ความพยายามของภาคอุตสาหกรรมประมงไทยและหน่วยงานต่างๆของภาครัฐช่วงหลายปีที่ผ่านมาเป็นไปอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ขอเรียนผู้บริหารประเทศไทยชุดปัจจุบันและรัฐบาลที่กำลังจะมีขึ้นให้สร้างแผนปฏิบัติการที่แข็งขันในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเพื่อช่วยเหลือแรงงาน ป้องกันการค้ามนุษย์ และนำขบวนการค้ามนุษย์เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
อียูแบน คสช.ระงับ จนท.เยือนไทย