คนสำคัญทางการเมืองไทยบุคคลหนึ่ง ในรอบปี 2555 ที่ผ่านมา ที่ถือกันว่าเป็นคนสำคัญมากที่สุดคนหนึ่ง ทั้งยังเป็นตัวจักรที่สำคัญที่ทำให้การเมืองไทย ขับเคลื่อนต่อไป อย่างมีสีสัน
แน่นอนว่า การเคลื่อนไหวทางการเมืองของบุคคลท่านนี้ ส่งผลให้การเมืองไทยได้รับผลกระทบ ทั้งในด้านดีและด้านร้ายอย่างช่วยไม่ได้ เนื่องจากมีสถานะเป็นถึง อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และยังเป็นหัวหน้าพรรค "พระแม่ธรณีบีบมวยผม" พรรคการเมืองใหญ่อีกขั้วหนึ่ง ที่กล่าวมาทั้งหมดจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากคนที่ชื่อ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"
โดยนายอภิสิทธิ์ ใช้โอกาสช่วงขึ้นปีใหม่ 2556 นี้ เปิดใจถึงมุมมองส่วนตัวเกี่ยวกับปัญหาการเมือง นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมไปถึงแนวทางการแก้ปัญหา ที่รัฐต้องเร่งดำเนินการ ขณะเดียวกัน ก็ใช้โอกาสนี้อวยพรปีใหม่ให้กับพี่น้องประชาชนและแฟนๆไทยรัฐออนไลน์ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปติดตามกันเลยครับ
-ที่พูดว่า มันมีปัจจัยหลายอย่างที่จ่อจะกระทบ ทั้งปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจ ในปี 2556 มันจะมีหลักประกันกับประชาชนไหมว่า ควรจะใช้ชีวิตยังไงในปีหน้า?
ยืนยันว่า การใช้ชีวิตด้วยหลักความพอเพียงก็เป็นภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุด ไม่อยากให้พี่น้องประชาชนอยู่บนความประมาท อย่าตื่นตระหนก แต่ไม่ควรประมาท ผมว่าประชาชนเองก็ต้องมีส่วนช่วยกันในการเรียกร้องให้ได้นโยบายสาธารณะ ที่เป็นประโยชน์ ที่ยั่งยืน ช่วยเสริมความเข้มแข็งของประเทศชาติมากขึ้น มากกว่ามองว่าจะแย้งชิงกัน ใครจะได้ประโยชน์จากนโยบายที่จะเกิดขึ้น
-อย่างน้อยนโยบายที่จะเกิดผลกระทบในปี 2556 อย่างค่าแรง 300 บาท กับเรื่องขึ้นราคาแก๊สหุงต้ม คิดว่าจะส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างไรบ้าง?
ผมว่ากระทบต่อประชาชนมากนะเรื่องของแก๊สหุงต้ม ก็ยังคิดว่าแนวคิดของรัฐบาลที่บอกว่าขึ้นไปแล้ว ค่อยหามาตรการมาช่วยเหลือก็จะสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาอีก โดยเฉพาะปัญหาการทุจริต
-นโยบายค่าแรง 300 บาทของรัฐบาล จะทำให้คนว่างงานมากขึ้นไหม?
นโยบายค่าแรง 300 บาท คงมีผลกระทบต่อการปิดตัวของอุตสาหกรรมขนาดเล็กบางประเภทโดยเฉพาะในจังหวัด ซึ่งเคยค่าแรงค่อนข้างต่ำ มันจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่นั้นๆ และโอกาสของคนในพื้นที่ ส่วนโอกาสของการโยกย้ายไปต่างประเทศบ้าง หรือจะเข้ามาในเมืองใหญ่ๆ บ้างนี้คงต้องมีการประเมินกันอีกที แต่ที่เราสนับสนุนอยากให้มีการระบบการดูแลชดเชยอุตสาหกรรมที่ตกอยู่ภายใต้ความเสี่ยงนโยบายนี้ มากกว่าความที่รัฐบาลได้ดำเนินการไป ซึ่งน้อยมาก และก็ไม่ได้การศึกษาลึกลงไปว่า ในส่วนผลกระทบที่มันแตกต่างกัน ควรจะไปช่วยใครก่อนช่วยใครหลัง
-ถ้าดูจากการบริหารของรัฐบาลตลอด 1 ปีเศษที่ผ่านมา คิดว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทำให้ชีวิตประชาชนอยู่ดี กินดีมากขึ้นอย่างที่เขาได้เคยหาเสียงไว้ไหม?
ที่หาเสียงไว้ยังไม่ได้เป็นผลเลยครับ และที่สำคัญมีผลโดยอ้อมให้กับประชาชน อย่างเช่น ของแพงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อย่าว่าจะกระชากค่าครองชีพ ลงมาอย่างที่เคยสัญญาหาเสียงไว้เลย ตอนนี้เอาแค่ให้ค่าครองชีพกลับมาที่เก่าก็ยังยาก
-บทบาทของฝ่ายค้านในสภาฯ ปีหน้า คาดว่าจะทำให้ ประชาชนได้อย่างไรบ้าง?
เราคิดว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ได้เสนอเนื้อหาสาระชัดเจน แต่เราคงต้องทำงานเข้มข้นมากกว่านี้แล้วก็เชื่อมโยงมากกว่านี้ คงไม่ไปบอกว่าแต่ละปีๆ ไปรวบยอดแต่ตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจเท่านั้น ฉะนั้น การที่ทำในแง่ของมติ กฎหมาย กระทู้ กรรมาธิการ ที่ไปสัมนากันที่หัวหิน เราก็ยังต้องเพิ่มความเข้มข้นแล้วก็สื่อสารให้ประชาชนได้รับทราบมากขึ้น ถึงงานที่เป็นประโยชน์ที่ทำในสภาฯ ได้
-ในปีเศษที่ผ่านมาท่านพอใจในการทำหน้าที่ฝ่ายค้านมากน้อยแค่ไหน แล้วภาพลักษณ์พรรคที่ได้รับผลกระทบจากการทำหน้าที่ในสภาฯ ด้วย?
ก็พอใจในระดับหนึ่ง เช่น สามารถเปิดโปงความจริงหลายอย่างได้ ยังสามารถหยุดยั้งกฎหมายที่จะทำให้เกิดความเสียหายให้กับประเทศชาติได้ แต่ว่าผลกระทบที่ตามมายังมี เราก็พยายามที่จะช่วยกันคิดและเพิ่มความเข้มแข็งของการทำงาน แล้วก็ต้องพยายามที่จะสื่อสารให้พี่น้องประชาชนเข้าใจ เพราะว่าการทำหน้าที่ฝ่ายค้านไม่ใช่เรื่องง่ายในแง่มุมที่ว่าประชาชนก็จะมองในมุมของความขัดแย้ง แต่ว่าบางครั้งเราจำเป็นต้องทำเพื่อหยุดยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้นมากกว่า
-แม้ว่าจะยับยั้งกฎหมายได้แต่ว่าภาพลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ก็เสียหายไป มันคุ้มค่ากับการทำงานในตรงนี้รึป่าว?
ผมไม่ได้มองที่ความคุ้มค่า เพราะถ้ากฎหมายรัฐธรรมนูญผ่านไปแล้ววันนั้นบ้านเมืองจะเสียหายมากกว่า เราไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกครับ แล้วเราก็อยากหาทางออกให้ทุกฝ่ายไม่เผชิญหน้ากัน โดยไม่นำมาสู่ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับใดๆ ทั้งสิ้น
-เรื่องคดีความในปีหน้าเตรียมตัวที่จะรับมืออย่างไรบ้าง?
เราก็สู้ด้วยความจริงครับ แล้วก็ยังเชื่อว่าความจริงชนะทุกสิ่ง
-คิดว่าจะผ่านพ้นในเรื่องตรงนี้ไปได้ไหม?
ผมมั่นใจว่า ความจริงต้องชนะทุกสิ่ง ฉะนั้น ก็เดินหน้าในการทำหน้าที่อย่างเต็มที่ไม่มีใครหวั่นไหว เสียเวลาบ้าง รำคาญบ้าง แต่ว่าก็ทำเต็มที่ครับ เดินหน้าทำเต็มที่
-กระบวนการใช้อำนาจรัฐของรัฐบาล จะรุนแรงมากขึ้นกว่าปีที่แล้วไหม?
ก็เข้มข้นขึ้นนะครับ เพราะว่าฝ่ายรัฐบาลดูจะเชื่อในการใช้อำนาจ แต่ผมก็เตือนไว้แล้วว่า ฝ่ายที่เขายืนยันต่อสู้ บนอุดมการณ์ความถูกต้องเขาไม่ก้มหัวให้กับอำนาจหรอกครับ แล้วก็สุดท้ายคนที่ใช้อำนาจแบบลุแก่อำนาจ จะเป็นผู้เดือดร้อนเอง
-คดีมันไปเป็นคู่ขนานกันในส่วน DSI ก็มีการดำเนินคดีท่านแล้ว ก็มีการไต่สวนในชั้นศาลเกี่ยวกับคดีก่อการร้ายด้วย ท่านคิดว่า ถ้าสมมติมันต้องไปถึงคุกเนี่ย ใครจะไปก่อนกัน?
(หัวเราะ) มันไม่ได้จำเป็น ต้องไปด้วยกันเสมอไปนะครับ
-ปีหน้าผลที่เลวร้ายที่สุดของประเทศ คิดว่าเป็นอะไร?
รัฐอาจนำประเทศเข้าไปใกล้ความเสี่ยงมากขึ้น เพราะการเสียวินัยทางการเงิน การคลังถึงจุดหนึ่งมันจะไปกระทบกับความเชื่อถือความเชื่อมั่น มันไปกระทบตรงนั้นเมื่อไหร่ มันก็เป็นวิกฤติทางการเงินขึ้นมา แต่มันตอบยากว่า ถึงจุดไหน เพราะมันเป็นปฏิกิริยาของตลาดว่าเขาเชื่อมั่นมากน้อยแค่ไหน เพียงแต่ผมว่า รัฐบาลน่าจะเก็บเกี่ยวบทเรียนจากในอดีตของประเทศเราเองจากประเทศอื่น ๆ ว่า ใช้จ่ายเงินกัน โดยไม่คำนึงถึงประสิทธิภาพ ถึงผลที่เกิดขึ้นว่า เงินเรารั่วไหลไปเท่าไร สุดท้ายมันก็ไม่มีทางที่จะทำให้บ้านเมืองรุ่งเรืองได้ในทุกกรณีในประวัติศาสตร์
รัฐบาลก็มีทางเลือก 1.ก็คือไม่พูด ซึ่งผมคิดว่ามาถึงวันนี้แล้วที่รัฐบาลอ้างความจำเป็นเร่งด่วนว่าต้องรีบเอาเงินเข้ามาทำเรื่องนั้นเรื่องนี้มันก็พิสูจน์แล้วว่าไม่จริง เพราะผ่านมาปีที่แล้ว ก็ยังไม่ได้ทำอะไร ก็ทำหลักทำแผลให้มันโปร่งใสซะ หาเงินบางช่องทางปกติได้ ทางที่ 2 ผมก็เดาว่ารัฐบาลกู้มาเก็บไว้ก่อน ถ้ายังอยากจะใช้วิธีพิเศษอย่างนี้ ผลที่ตามมาก็คือว่า พวกเราทุกคนต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยโดยไม่จำเป็น
-รัฐบาลขยายเวลา พ.ร.บ.กู้เงิน ออกไปได้ไหม?
ก็น่าคิดว่าถ้าขยายเวลา แล้วคำอธิบายที่โต้เถียงกันมาตลอด ที่ไปอ้างในศาลรัฐธรรมนูญว่า เร่งด่วน ต้องทำภายในเท่านั้น เท่านี้มันก็ขัดแย้งกันเอง ถ้าขยายเวลา ก็เท่ากับยอมรับว่า ที่ผ่านมาไม่จริง ที่ไปบอกศาลเอาไว้ว่า จำเป็นต้องใช้เงินเร่งด่วนจนต้องออกเงิน พ.ร.ก. เกินกู้ฯ ก็ไม่จริง ถ้าขยายเวลา สิ่งที่ไปบอกกับศาลแสดงว่า เป็นเท็จหมด
...
ส่วนตัวเห็นว่า ปี2556 รัฐกู้เงิน อย่างไร ก็ไม่น่าเกินวงเงิน ไม่น่าจะถึงครับ นอกจากว่า รัฐบาลตั้งใจ ซึ่งจะไปบอกว่าไม่มีโอกาสก็ไม่ได้ เพราะผมเคยได้ยิน รัฐมนตรีเศรษฐกิจของรัฐบาลนี้ บอกว่าถ้าเหลือช่องที่จะกู้เงินได้อีกสัก 2 ล้าน ก็จะกู้เลย คือถ้าคิดอย่างนั้น ก็ไปถึงเร็วนะครับ แต่ถ้าคิดแบบระมัดระวังแล้วก็เห็นแก่วินัยทางการคลังก็ต้องไม่ทำอย่างนั้น
-ขอให้ท่านอวยพรปีใหม่ ปี 2556 ให้กับประชาชนทั่วประเทศ?
ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนนะครับ ก็ขอวยพรให้สมความปรารถนา พบแต่สิ่งดีๆ อะไรที่ไม่ดีก็ช่วยกันทำให้ผ่านพ้นไปในปี 2555 นี้ และปี 2556 ก็ขอให้ทุกคนมีกำลังกาย กำลังใจเข้มแข็ง ในการช่วยกันทำให้บ้านเมือง เป็นบ้านเมือง ที่ดีีที่สงบสุข เพราะว่าถ้าบ้านเมืองดี ชีวิตพวกเราก็ดีขึ้นทุกคนครับ.