ผบ.ทอ. ยันเครื่องบินรบกริพเพนตอบโจทย์ในการป้องกันประเทศที่สุด ทั้งสมรรถนะและเทคโนโลยี แถมได้ผลประโยชน์ต่างตอบแทนกลับสู่ประเทศด้วย
พล.อ.อ. พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บอกว่าการแถลงข่าวของกองทัพอากาศในวันนี้ไม่มีผล เนื่องจากเรื่องการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ยังไม่มีการนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ก่อนที่กองทัพอากาศจะแถลงข่าวได้แจ้งให้ นายภูมิธรรมได้รับทราบทุกขั้นตอน ถือว่าได้รับการอนุญาตให้มีการแถลงข่าวในครั้งนี้แล้ว โดยโครงการดังกล่าวสร้างความมั่นใจได้สูงสุด เพราะเรามีกระบวนการคัดเลือกคัดสรรอย่างโปร่งใสและยุติธรรม และเกิดประโยชน์ทางด้านความมั่นคง เกิดประโยชน์กับภาพรวมของประเทศชาติมากที่สุด ยืนยันว่าทำทุกอย่างตามนโยบายที่รัฐบาลได้มอบไว้ให้ มั่นใจว่าเป็นแนวทางเดียวกัน
เมื่อถามถึงกรณีการจัดหาเครื่องบินกริพเพน อี/เอฟ จะมีความทันสมัยและตอบโจทย์ในอนาคตหรือไม่ พล.อ.อ. พันธ์ภักดี กล่าวว่า เทคโนโลยีที่เราเลือกมาน่าจะอยู่ได้ถึง 30 ปี สงครามทางอากาศจะเป็นรูปแบบที่มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น โดยอยู่ในหลักเกณฑ์การคัดเลือกของเราทั้งสิ้น เราเลือกมาจากเครื่องต้นแบบที่มีสมรรถนะที่ดีที่สุด ดีกว่าที่เรามีอยู่ เพราะที่เรามีอยู่นั้นใช้มา 37 ปี มีขีดจำกัดในการใช้โดยเฉพาะเครื่องบินขับไล่ F-16 ส่วนเครื่องบินกริพเพน อี/เอฟ ที่ผ่านมาเราได้มีการรับมาในปี 2554 และปัจจุบันก็ยังมีความทันสมัยอยู่ แต่เทคโนโลยีได้มีการเปลี่ยนแปลงไป เราจึงต้องพิจารณาจัดหาเครื่องบินที่มีขีดความสามารถที่สูงกว่า และเครื่องบินกริพเพนที่เรามีอยู่อีก 10 ปีข้างหน้าก็ยังใช้ได้อยู่ และนอกจากนั้นยังสามารถพัฒนาและปรับปรุงให้ทันสมัยยิ่งขึ้นได้เช่นกันกับเครื่องบินในรุ่นใหม่
...
ผู้บัญชาการทหารอากาศกล่าวด้วยว่า เชื่อว่าเครื่องบินกริพเพนตอบโจทย์ในการป้องกันประเทศอย่างสูงที่สุด เราไม่ได้ไปรุกรานใครแต่สิ่งที่เราต้องทำคือการป้องกันประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ได้ตอบโจทย์เฉพาะความมั่นคงอย่างเดียวแต่ตอบโจทย์ในเรื่องของการได้รับผลประโยชน์ต่างตอบแทนกลับเข้ามาสู่ประเทศชาติด้วย คิดว่าจะเป็นโครงการนำร่องของกองทัพอากาศเช่นกัน