“พิทักษ์เดช” ป้อง “ชวน หลีกภัย” ตะเพิดลิ่วล้อเพื่อไทย เอาหน้าส่งการบ้านนายใหญ่ ควรเข็ดหลาบกับพฤติกรรมปากพล่อย ด้าน “ราเมศ” ท้าปรับประชาธิปัตย์พ้นพรรคร่วม เหน็บนายกฯ สตันต์แมน จวก รัฐบาลจะพังเพราะคนชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร”
วันที่ 2 มกราคม 2568 นายพิทักษ์เดช เดชเดโช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) นครศรีธรรมราช และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณี นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย และนายพายัพ ปั้นเกตุ อดีต สส.พรรคเพื่อไทย ระบุพาดพิง นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตประธานรัฐสภา 2 สมัย ว่า ตนเข้าใจดีนักการเมืองประเภทที่เข้ามาเป็นนักการเมืองด้วยวิธีพึ่งชายคาบ้านคนอื่นนั้น ต้องทำงานเอาหน้าเพื่อส่งการบ้านนายใหญ่เจ้าของบ้าน
แต่อยากเตือนขอให้สงบปากสงบคำบ้าง เพราะการทำงานแบบเชลียร์หวังเอาใจนายแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง บางครั้งนายใหญ่ก็ไม่เห็น โดยเฉพาะการออกมาวิจารณ์นักการเมืองอาวุโสที่ประกอบคุณงามความดี เป็น สส. จากศรัทธาและเดินเคียงข้างประชาชน ผ่านการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยที่ไม่เคยซื้อเสียงแม้แต่บาทเดียวมามากกว่า 17 สมัย เป็นนักการเมืองน้ำดี มีความซื่อสัตย์ สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่มีประวัติทุจริตคอร์รัปชัน โกงบ้านโกงเมือง ไม่มีประวัติหนีคุกหนีคดี และไม่เคยติดคุกเพราะล้มการประชุมจนบ้านเมืองเสียหายเหมือนบางคน ฉะนั้น เป็นนักการเมืองควรเล่นการเมืองแบบสร้างสรรค์ และควรเข็ดหลาบกับพฤติกรรมปากพล่อย จะได้ไม่กลับไปติดคุกติดตารางอีก
...
ทางด้าน นายราเมศ รัตนะเชวง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขานุการ นายชวน หลีกภัย กล่าวถึงกรณี นายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) พาดพิง นายชวน ว่า ต้องยอมรับว่าคำให้สัมภาษณ์ของนายชวน เป็นคำพูดที่จี้ใจดำ ย้ำจุดสลบรัฐบาล จึงส่งลิ่วล้อออกมาเรียงหน้าให้ร้ายนายชวน ทั้งที่เป็นข้อเท็จจริงที่รัฐบาลต้องรับฟังในทางการเมืองก็จะเกิดประโยชน์ในภาพรวม หากนำไปปรับปรุงการทำงานในภาคปฏิบัติ การออกมาของนายพายัพ เป็นภาพการเมืองแบบเก่าที่มุ่งใช้ถ้อยคำทำลายล้าง ไม่ก่อประโยชน์ใด ที่แย่ที่สุดคือการดูถูกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ว่าเลือกตั้งทุกครั้งคนเลือกน้อยลงทุกครั้ง เป็นพรรคต่ำสิบ การระบุแบบเหมารวมพรรคเสียหาย ไม่ตอบโต้รายบุคคล ถามว่าหนักส่วนไหนของนายพายัพ
“ถ้าจะฟื้นความหลัง ต้องถามว่ากว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคคุณถูกยุบไปกี่รอบ ตั้งแต่พรรคไทยรักไทยว่าจ้างพรรคการเมืองเล็กลงเลือกตั้ง ขี้ขลาดหลีกเลี่ยงกฎกติการ้อยละ 20 ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งโดนยุบ พรรคพลังประชาชนก็ทำผิดกฎหมายถูกยุบพรรคอีก พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยทำผิด ถูกยุบพรรค มีแต่พวกที่พยายามให้พรรคประชาธิปัตย์ถูกยุบ ทั้งส่งคนไปร้องเรียนเท็จ ทั้งวิ่งเต้นตุลาการให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ มีหลักฐานจากคำฟ้องของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งหมดที่ยื่นฟ้องคนของพรรคคุณ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์คิดชั่วทำชั่วไม่อยู่มาถึงทุกวันนี้ ถ้าด่าพรรคขนาดนี้ช่วยไปบอกพ่อทักษิณของนายพายัพ ปรับพรรคประชาธิปัตย์ออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเลย มาอ้างว่าขอพูดแทนสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ให้นายชวนเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านตัวเอง พูดแทนสมาชิกพรรคคนไหนระบุให้ชัด พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้สกปรกอย่างที่นายพายัพคิด เพราะไม่มีหัวหน้าพรรคที่ต้องติดคุก ต้องโทษคดีทุจริตคอร์รัปชัน โกงต้องหนีคุกหนีคดี”
ส่วนที่นายพายัพ ระบุว่า ให้นายชวน เลิกร้อนตัวหวาดระแวงว่า นายทักษิณ จะทำประโยชน์ให้ประชาชนได้มากกว่า และทำได้ดีกว่าจนคนลืมชื่อชวน หลีกภัย นั้น นายราเมศ ชี้แจงว่า ไม่ต้องกลัวว่าประชาชนจะจดจำหรือจะลืมชื่อใคร เพราะประวัติศาสตร์การเมืองไทยได้บันทึกไว้หมดแล้ว ไม่สามารถลบได้ว่านายชวน ไม่เคยติดคุกหนีคดีทุจริต นายชวนเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในคดีที่นายทักษิณ ฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท แม้เหลืออายุความเพียง 2 วัน แต่นายทักษิณ หนีคดี หนีกระบวนการยุติธรรม ในรัฐบาลทักษิณ และรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีรัฐมนตรีที่ติดคุกมากที่สุด นายกรัฐมนตรีทั้ง 2 คน ต้องหลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ คดีทุจริตคอร์รัปชันที่สร้างความเสียหายให้ประเทศไทยมากที่สุดคือคดีทุจริตจำนำข้าว มีนายกรัฐมนตรีที่เลือกปฏิบัติกับประชาชน มีสภาเสียงข้างมากของพรรคการเมืองลักหลับออกกฎหมายล้างผิดให้พวกพ้อง มีรัฐบาลที่ใช้ความรุนแรงกับพี่น้องในสามจังหวัดชายแดนใต้ มีรองนายกรัฐมนตรีขึ้นเวทีประกาศจะไม่พัฒนาจังหวัดนั้นจนกว่าจะเลือกพรรคเพื่อไทย และอีกสารพัดพฤติกรรมมากมายเกินกว่าที่ประชาชนจะจำ แต่ประวัติศาสตร์การเมืองจดจำครบถ้วน
นายราเมศ ยังระบุในตอนท้ายด้วยว่า ปี 2568 จะเป็นปีที่ความจริงปรากฏ รัฐบาลชุดนี้จะพังเพราะคนชื่อทักษิณ ชินวัตร นับถอยหลังได้เลย ขอให้นายกรัฐมนตรีสตันต์แมน อย่าให้ลิ่วล้อรับงานมาให้ร้ายในทางการเมืองเช่นนี้อีก เพราะยิ่งพูดยิ่งเข้าเนื้อ อย่าเปิดศักราชใหม่ด้วยความดุเดือดเช่นนี้อีก.