“อิ๊งค์-ทักษิณ-เศรษฐา” นำขบวนเพื่อไทยสัมมนาหัวหิน บรรยากาศสุดชื่นมื่น บันทึกภาพ ประวัติศาสตร์ 3 นายกฯ ร่วมเฟรม “แพทองธาร” อ้อนจะปรับปรุงตัวเข้าสภาฯ มากขึ้น “เศรษฐา” ปลุกลูกพรรคหนุนผู้นำหญิง “นายใหญ่” ทำวงสัมมนาเพื่อไทยร้อนฉ่า ขึ้นโพเดียมฉะพรรคร่วมรัฐบาลไม่ใช่ลูกผู้ชาย จ้องเอาแต่ตำแหน่ง ไม่รับผิดชอบนโยบายร่วมกัน กร้าวใส่ใครไม่อยากร่วม รบ.บอกมา แนะรัฐบาลออกบอนด์รับโลกบิทคอยน์ ย้ำกดหนี้สาธารณะลงให้ได้ กาหัวแก๊งนักร้องรอรับการเช็กบิล รำลึกอดีตนั่งรถไฟหาเสียง ชมเปาะ “ลูกสาว” ดีเอ็นเอแรง ภูมิใจลูกต่อยอดนโยบาย ทรท. ประกาศลั่นเกาะกูดของไทยล้าน%
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ พร้อมด้วยนายทักษิณ ชินวัตร และนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ นำทัพพรรคเพื่อไทยเปิดเวทีสัมมนา ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จับตาประเด็นร้อนหลังนายทักษิณขึ้นโพเดียมกล่าวตำหนิพรรคร่วมรัฐบาล จ้องแต่จะเอาตำแหน่ง ไม่ยอมร่วมรับผิดชอบนโยบายที่ต้องทำร่วมกัน
ขบวนเพื่อไทยจัดสัมมนาหัวหิน
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 13 ธ.ค.ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง พรรคเพื่อไทย (พท.) นัดรวมตัวสมาชิกพรรค ขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ ROYAL BLOSSOM ไปสัมมนาที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตามโครงการเสริมศักยภาพ สส. และบุคลากรทางการเมือง ระหว่างวันที่ 13-14 ธ.ค. มีรัฐมนตรี สส. และสมาชิกพรรคเข้าร่วมกันพร้อมเพรียง อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม รวมถึง สส. และ สก. รวมถึงนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ทันทีที่เดินทางมาถึงสมาชิกพรรคต่างเข้ามาทักทายพูดคุยและขอถ่ายภาพคู่
...
3 ครอบครัวชินวัตรพร้อมหน้า
ต่อมาเวลา 08.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มาพร้อมนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี นายพานทองแท้ ชินวัตร พี่ชาย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่สาว และครอบครัว มีนายสุริยะรายงานถึงความก้าวหน้าการพัฒนาขนส่งทางราง และการขนส่งทางรถไฟ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน จากนโยบายที่นายกฯแถลงนโยบายไป น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปีที่ได้กลับมานั่งรถไฟอีก วันนี้ดีใจที่ได้มากับพรรค พท.อีกครั้ง ขอบคุณนายสุริยะที่จัดการทุกอย่าง การคมนาคมมองเห็นอนาคตที่สดใสแน่นอน วันนี้เราประเดิมก่อนและทำให้ประชาชนเห็นว่ารถไฟดีอย่างไร เห็นจากรูปก็รู้สึกตื่นเต้น จากนั้นทั้งหมดถ่ายภาพร่วมกันก่อนออกเดินทาง
บันทึกไว้ภาพ 3 นายกฯร่วมเฟรม
สำหรับขบวนรถไฟพิเศษ ROYAL BLOSSOM พรรคเพื่อไทยจองไว้ 5 โบกี้ ระหว่างขบวนรถเคลื่อน น.ส.แพทองธาร และนายเศรษฐาได้เดินทักทายถ่ายรูปกับรัฐมนตรี สส. และสมาชิกพรรคอย่างสนุกสนาน เมื่อขบวนมาถึงสถานีบางบำหรุ เพื่อหยุดรับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะร่วมเป็นวิทยากรในการสัมมนา มี น.ส.แพทองธารและนายเศรษฐามายืนรอรับ นายทักษิณได้จับมือทักทายนายเศรษฐา และเข้าสวมกอดหอมแก้มลูกสาว ซึ่ง น.ส.แพทองธารก็หอมแก้มกลับ พร้อมกล่าวทักทาย “Hello” ด้านนายเศรษฐาถามนายทักษิณว่า รอรถไฟนานหรือไม่ นายทักษิณตอบกลับว่า “นานอยู่” จากนั้นทั้ง 3 คนถ่ายภาพร่วมกัน เป็นภาพประวัติศาสตร์ที่มีนายกฯและอดีตนายกฯ 3 คนอยู่ในเฟรมเดียวกัน นายทักษิณเดินทักทายทุกคน รวมถึงลูกๆ หลานๆ ไปตามโบกี้ต่างๆ ทำให้บรรดา สส.ต่างดีใจเข้ามาทักทาย ทั้งนี้ มีสมาชิกคนหนึ่งแนะนำตัวว่ามาจาก จ.พะเยา นายทักษิณจึงแซวว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมว.เกษตรฯ ไม่มาด้วยหรือ
ย้อนวันคืนอดีตนั่งรถไฟหาเสียง
ผู้สื่อข่าวสอบถามนายทักษิณว่านั่งรถไฟครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ นายทักษิณตอบว่า ตั้งแต่ปี 2548 เคยนั่งไปหาเสียง สนุกมากตอนนั้น หลังจากนั้นไม่ได้นั่งเลย ไปนั่งอีกทีที่ญี่ปุ่น จีน เมื่อก่อนขึ้นรถไฟบ่อยตอนเรียนเตรียมทหาร สมัยก่อนเป็นตู้นอน มีสองชั้น ตู้นอนอยู่ที่ 150 บาท แต่เครื่องบินอยู่ที่ 900 บาท นานๆมาเจอน้องๆทั้งหลาย รู้สึกคิดถึงวัน Good Old Days (วันเวลาดีๆในอดีต) มีหลายคนที่อยู่ในยุคบ้านเชียงไทยรักไทยสมัยก่อน เห็นหน้าตาแล้วก็โบราณเหมือนตน เมื่อถามว่านั่งรถไฟไปสัมมนากันครั้งนี้เปรียบเหมือนการร่วมขบวนทำงานไปด้วยกันใช่หรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ความหมายง่ายนิดเดียว อยากอยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่นในระยะเวลาที่เราพบปะกัน 3 ชั่วโมงอยู่ใกล้กัน เราไม่อยากให้ใครพลาดขบวนรถไฟเที่ยวพิเศษ แต่ไม่ใช่ Last train to london
พ่อชมเปาะ “ลูกสาว” ดีเอ็นเอแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายทักษิณรอรถไฟขบวนพิเศษ 913 Royal Blossom อยู่ที่สถานีรถไฟบางบำหรุอยู่นั้น มีแฟนคลับเข้ามาขอเซลฟี่ และนำบัตรสมาชิกพรรคไทยรักไทย (ทรท.) มาขอลายเซ็น พร้อมกับเล่าถึงอดีตว่า ตอนเป็นนายกฯอยู่มีประชุม ครม.บนรถไฟด้วยเกือบ 20 ปีแล้ว นั่งครั้งสุดท้ายหาเสียงเมื่อปี 48 จาก จ.นครราชสีมาไป จ.อุบลราชธานี ไปหัวหินครั้งนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ออกไป (นอกประเทศ) บ้านตากอากาศปลาโลมายังอยู่ดี สมัยก่อนมักมีนักการเมืองแวะที่บ้าน เมื่อถามว่าในงานสัมมนาจะมีคำแนะนำอะไรนายกฯหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ดีเอ็นเอแรงอยู่แล้ว หัวหน้าพรรคไทยรักไทยปี 44 กับหัวหน้าพรรค พท.ปี 67 เป็นคนเดียวกัน เพียงแต่หัวหน้าพรรค พท. ผมยาวกว่า
“ทักษิณ” ภูมิใจลูกต่อยอด ทรท.
นายทักษิณยังกล่าวถึงการแถลงผลงานรัฐบาลรอบ 3 เดือนว่า นายกฯพูดกับประชาชนว่าทำอะไรไปบ้างแล้ว ทุกอย่างกำลังจะเสร็จปีหน้า ให้ประชาชนคาดหวังว่าเราจะทำอะไรต่อจะได้เข้าใจปัญหา โดยเฉพาะการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องทำภายใต้ข้อจำกัดมากมาย จะไปพูดสิ่งที่คุยกับนายกฯ ไว้ให้ฟังที่หัวหิน เมื่อถามว่าเป็นการต่อยอดนโยบายพรรคไทยรักไทย (ทรท.) นายทักษิณตอบว่า บางอย่างเราทำแต่ยังไม่เสร็จ ยังทันสมัย ใช้ได้ดี เช่น เรื่องบ้าน คนไทยทุกคนต้องมีบ้าน เมื่อถามว่านั่งดูลูกบริหารประเทศเป็นอย่างไรบ้าง นายทักษิณตอบว่า มีความภูมิใจและห่วงใย เพราะบ้านเมืองมันยากขึ้นกว่าเดิม ปัญหาซับซ้อนเยอะ หนี้ประเทศสูงไปหน่อยทำให้ไม่เหลือเงินพัฒนาประเทศ มีอะไรนายกฯก็มาปรึกษา บางทีเขาก็สั่งตน
ลุยเชียงใหม่–ศรีสะเกษส่งท้ายปี 67
ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. มีภาพไป จ.นครปฐม คุยกับนักการเมืองใหญ่ นายทักษิณตอบว่า ไปงานเลี้ยงที่เจ้าของโรงแรมเชิญไปรับประทานอาหาร ส่วนใหญ่เป็นตำรวจรุ่นน้อง เมื่อถามว่ามีโอกาสที่บ้านใหญ่นครปฐมจะกลับมาพรรค พท. หรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ยังไม่ได้เจอ ไม่ได้คุยกัน ส่วนการลงพื้นที่ช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.ช่วงท้ายปีนี้ จะลง จ.เชียงใหม่และศรีสะเกษ ส่วนปีใหม่คงอยู่ กทม. ไม่อยากไปรบกวนใคร ส่วนจะไปดู “ลิซ่า (แบล็กพิงก์)” ในวันเคาต์ดาวน์ที่ไอคอนสยามหรือไม่ ยังไม่รู้ ต้องถามลูกก่อนแล้วแต่ว่าเขาจะสั่งให้ไปไหน เมื่อถามถึงการแข่งขันเลือกตั้งนายก อบจ.ศรีสะเกษ ต้องแข่งกับบ้าน “ไตรสรณกุล” กังวลหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า คนละฟากกัน ไม่มีอะไรยาก อยู่ที่ความพยายาม เมื่อถามว่าแสดงว่าเก้าอี้ สส.ในภาคอีสานจะกลับมาเหมือนสมัยเดิมคือ 126 ที่นั่งใช่หรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ก็ต้องให้เกินร้อย
ประกาศลั่นเกาะกูดของไทยล้าน%
เมื่อถามถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกเอ็มโอยู 44 นายทักษิณตอบว่า จะเล่าให้ สส.เพื่อไทยฟังในงานสัมมนาว่าเกิดขึ้นยังไง ให้เข้าใจว่าล้านเปอร์เซ็นต์ไม่มีใครเถียงว่าเกาะกูดไม่ใช่ของไทย ที่สื่อกัมพูชารายงานว่าผู้นำกัมพูชายืนยันเกาะกูดยังไม่ใช่ของไทย มั่ว สิ่งที่เราพูดวันนี้เขาสามารถไปเฟกนิวส์พูดอีกอย่างได้โดยใช้เอไอ แต่สิ่งที่จะพิสูจน์ว่าของจริงหรือเอไอคือสายตา วันนี้เทคโนโลยีมันน่ากลัว บางทีฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด มองทุกอย่างในแง่ร้าย ทั้งที่ต้องดูเหตุและผล บอกเกาะกูดยกให้เขมรไปแล้ว อันนี้คือบ้าและไม่มีใครบ้า และแน่นอนเราต้องเปิดรับฟังความเห็นทุกฝ่าย ไม่ใช่บอกว่าเราไม่ฟังแล้ว แต่ต้องรับฟังเสียงส่วนใหญ่ด้วย ไม่ใช่ฟังคนเสียงดัง คนเสียงดังก็ได้ยิน แต่ว่าถ้าส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยก็ต้องเอาส่วนใหญ่เป็นหลัก
“อิ๊งค์” หวานจะเข้าสภาฯมากขึ้น
กระทั่งเวลา 12.00 น. รถไฟขบวนพิเศษ 913 Royal Blossom เดินทางถึงสถานีหนองแก อ.หัวหิน มีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา และ น.ส.พราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหารบริษัท พราว เรียลเอสเตท และแฟนคลับมาร่วมต้อนรับ ก่อนที่ทั้งหมดร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ต จากนั้น น.ส.แพทองธารกล่าวเปิดสัมมนาว่า ถือเป็นโอกาสพิเศษมากๆ ที่มีนายกฯ 3 ท่านมารวมตัวกัน ขอยึดตำแหน่งหัวหน้าพรรคไว้ก่อน วันนี้รู้สึกอบอุ่นเหมือนมากับครอบครัวพร้อมหน้าเป็นนายกฯมา 90 วัน แต่เป็นหัวหน้าพรรคมา 1 ปี 1 เดือน ผูกพันกับพรรคมาก ได้เห็น สส.หลายคนพัฒนาตัวเองมาก และต้องขอบคุณทีมอะคาเดมีของพรรคที่อยู่เบื้องหลัง ไม่ว่า สส.รุ่นไหนอย่าคิดว่าเราอยู่กันคนละฝั่ง อยากให้ทุกคนเข้าหากัน ถ้าเราจะมีพลังคือเราต้องร่วมกันต่อสู้ นั่นคือสิ่งที่อยากเห็นในอนาคต ยืนยัน สส.ทุกพื้นที่มีความสำคัญหมด ขอให้ทำพื้นที่ให้ดีที่สุด สส.ปาร์ตี้ลิสต์ก็ต้องช่วยกัน เพื่อก่อให้เกิดพลังอันยิ่งใหญ่ จากนี้จะขอปรับปรุงตัวแบ่งเวลาให้ดีขึ้น ทั้งการประชุมพรรค หรือการประชุมสภาฯ จะได้เจอกันบ่อยขึ้น ขอสัญญาไว้ตรงนี้
“เศรษฐา” ปลุกทุกคนหนุนนายกฯ
นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้พูดอย่างนี้มานาน 3 เดือน ที่ผ่านมาเลี้ยงหมาอยู่บ้าน มีหลายพื้นที่ที่เราไปหาเสียงร่วมกัน ช่วงเป็นนายกฯพูดคุยกับ น.ส.แพทองธารตลอด ได้รู้ว่าหลายเรื่องมันไม่ง่าย เนื่องจากเรามี 141 สส. หลังพ้นจากตำแหน่งนายกฯ มีสื่อขอสัมภาษณ์ แต่คิดว่าไม่เหมาะสมต้องให้เกียรติ น.ส.แพทองธาร มั่นใจเราสามารถช่วยกันสนับสนุนได้ดี แม้เรามีพรรคร่วมที่ค่อนข้างเหนื่อย แต่เราต้องช่วยเหลือกัน และต้องช่วยกันเผยแพร่ผลงาน มั่นใจว่านายกฯคนนี้เหมาะสมที่สุด สมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับการสนับสนุน เพราะทำหลายอย่างได้ดีมาก เราอยากได้ความร่วมมือที่ดีขึ้น แม้จะมี สส. 141 คน ซึ่งล่อแหลมมากตำแหน่งมีน้อย ต้องสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป เชื่อว่ากรรมการบริหารพรรคจะดูแลทุกคนอย่างดี เรามาสร้างบ้านหลังนี้ให้แข็งแรงน่าอยู่ เป็นคนนอกมาอยู่ 2 ปี มั่นใจว่าบ้านหลังนี้เป็นสถาบันการเมืองที่แข็งแกร่ง มีแต่พรรคเราที่เป็นแบบนี้ นายทักษิณกลับมาแล้ว ท่านมาช่วยเราคิดนโยบายวันนี้ต้องสนับสนุนนายกฯ
แนะ รบ.ออกบอนด์รับบิทคอยน์
ต่อมานายทักษิณ ชินวัตร กล่าวในฐานะวิทยากรพิเศษว่า ต้องขอบคุณที่มีโพเดียมให้เกาะ อายุ 75 ปีแล้ว ยืนพูดแบบนายเศรษฐาคงไม่ไหว นั่งอยู่ข้างล่างก็คิดว่าทำไมลูกเราพูดเก่งขึ้น วันนี้ก็ได้กลับมาเมืองไทยคิดว่าคงทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองไม่มากก็น้อย เวลาเหลือไม่นานแล้ว 75 แล้ว ตอนนี้ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ การกลับมาของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มีคนบอกว่าอเมริกาจะจัดการกับเรา ที่ได้เปรียบดุลการค้าเขา เราต้องระวังเรื่องการขึ้นภาษี ส่วนกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะใช้หนี้อเมริกาเป็นบิทคอยน์ ที่พูดไม่ใช่จะให้ซื้อแต่เทรนด์เป็นอย่างนั้น เงินคริปโตหลายสกุลออกมาแล้ว วันนี้คนไทยต้องคิดรู้ทันมันให้ได้ นายกฯ อาจมอบให้กระทรวงการคลังศึกษา เพื่อรับบิทคอยน์ได้หรือไม่ โดยมีบอนด์ (หุ้นกู้ตราสารหนี้) ของรัฐบาลค้ำประกัน ทำให้เงินไหลเวียนในเศรษฐกิจ ถ้าทำแบบนี้เชื่อว่าจีดีพีปีหน้า 3.5 ไม่น่ามีปัญหา ปี 2569 จีดีพี 4.0 ไม่น่ามีปัญหา
ย้ำต้องกดหนี้สาธารณะลงให้ได้
นายทักษิณกล่าวว่า วันนี้เม็ดเงินในเศรษฐกิจเราโดนดูดออกหมด เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ไม่ออกเงินกู้ เราต้องหาเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยไม่ทำให้เกิดปัญหาของประเทศ วันนี้หนี้สาธารณะเยอะมาก เราต้องทำให้จีดีพีเติบโตและลดการขาดดุล เพื่อกดหนี้สาธารณะลงให้ได้ พรรคเพื่อไทยต้องทำให้ได้ ปีหน้าจะเป็นปีแห่งโอกาสของคนไทย งบประมาณปีหน้าต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพ ต้องให้รัฐวิสาหกิจที่มีหนี้เยอะออกพ้นจากรัฐวิสาหกิจ เอาเอกชนมาลงทุนแทนรัฐ เช่น การลงทุนป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ วันนี้เราพูดถึงการผูกขาดเรื่องไฟฟ้า เรามีหน่วยงานของรัฐ แต่ทุกคนต้องมีสวัสดิการของตัวเอง ทำให้ค่าไฟฟ้าเรามีราคาแพง เราไม่ควรเห็นเลข 4 บาท เลข 3 บาทปลายก็ไม่ควรเห็น ต้องอยู่ 3 บาทกลางๆ เพราะประชาชนอยู่ไม่ได้
กร้าวใครไม่อยากร่วมรัฐบาลบอกมา
“2 วันก่อนมี พ.ร.ก.เกี่ยวกับมาตรการทางภาษีระหว่างประเทศ เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ปรากฏว่ามีพรรคร่วมบางพรรคหลบป่วยอย่างนี้ไม่ใช่เลือดสุพรรณนี่หว่า ถ้าอยู่ด้วยกันก็ต้องด้วยกันสิ วันหลังไม่อยากอยู่ต้องบอกให้ชัดเจน เราเป็นคนพูดรู้เรื่อง ห้ามหนี ต่อไปใครหนีก็บอกว่าถ้าหนีก็ส่งใบลาออกมาด้วย ง่ายดี ผมเป็นคนเกลียดพวกอีแอบ ตรงไปตรงมาง่ายๆ อยู่ก็อยู่ไม่อยู่ก็ไม่ต้องอยู่ ถ้าอยู่ก็ต้องสู้ด้วยกัน เป็นนโยบายรัฐบาล แถลงนโยบายคุณยกมือเห็นด้วย พอได้เก้าอี้รัฐมนตรี ค่อยๆหลบมือออก ไม่ได้ ต้องตรงไปตรงมา” นายทักษิณกล่าว
ซัดไม่ใช่ลูกผู้ชายเอาแต่ตำแหน่ง
นายทักษิณกล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลต้องทำงานร่วมกันจริงๆ ตรงไปตรงมา มีอะไรไม่พอใจพูดกัน แต่สิ่งไหนที่เป็นนโยบายรัฐบาลคือต้องทำ ไม่ใช่ได้ตำแหน่งแล้วไม่เอาแล้ว อยากส่งสัญญาให้รู้ว่าทำไม่สวยเลย หายไปตอน พ.ร.ก.เข้า ไม่ใช่ลูกผู้ชาย ให้รู้ว่าการทำงานร่วมกันง่ายมาก “ผมไม่ได้ครอบงำนายกฯ ใครมีลูกสาวจะรู้ว่าพ่อกับลูกสาวคนเล็กมันแพ้ทางกันอยู่ ผมนี่ถูกใช้นะ พ่อทำโน่นให้หน่อยทำนี่ให้หน่อย เงินเดือน 700 นะ เป็นผู้ช่วยหาเสียงวันละ 300 แต่ตอนนี้งานชุกหน่อย ศรีสะเกษก็เตรียมตัวไว้ เชียงใหม่ด้วย”
กาหัวแก๊งนักร้องรอรับการเช็กบิล
อดีตนายกฯกล่าวต่อว่า ประเทศไทยแปลกอย่างคนไม่มีอาชีพมีฐานะดีกว่าคนมีอาชีพ แสดงว่าคนไทยไม่อยากมีเรื่อง ใครหาเรื่องก็ปิดปาก ถ้าสรรพากรได้ยิน ปปง.ได้ยิน ก็ไปตรวจสอบ บางคนเมีย 3 ลูก 5 ไม่ได้ทำอาชีพอะไร บางคนส่งลูกไปเรียนต่างประเทศทั้งที่อาชีพไม่มี บางคนถึงเวลาต้องไปหยอดเหรียญ ถ้าไม่หยอดก็รวน พอได้แล้วร้องไปร้องมาคนไม่เชื่อมั่นประเทศไทย เปิดช่องให้ใครไม่รู้มาร้อง คนไทยเราเจ้าคิดเจ้าแค้น 17 ปีโดนเล่นงานมา ยกหูหาก็จบนะ จะจบก็ต้องจบ ไม่จบก็ไม่เป็นไร เตะกันคนละทีจะเป็นไร ไม่อยากเสียเวลายาว เสียมา 17 ปีพอแล้ว “บังเอิญผมไปนครปฐม หมูมันเปลี่ยนเสียงเรียก มันเรียกผมพี่ๆ แต่เมื่อก่อนผมไปนครปฐม หมูไม่เปลี่ยนเสียงเรียกมันไม่เรียกพี่ มันร้องอู๊ดๆ แสดงว่าผมไม่หมูแล้วนะ ขนาดหมูมันยังรู้ว่าผมไม่หมูแล้ว เพราะฉะนั้นไอ้คนที่ร้องผม ร้องพรรค ร้องไม่สำเร็จ ก็เตรียมถูกเช็กบิลด้วยละกันนะ”
นายกฯวางคิวบินเยือนมาเลเซีย
ขณะที่ น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ มีกำหนดเดินทางเยือนประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 15-16 ธ.ค. และเข้าร่วมประชุมหารือประจำปี (Annual Consultation) ครั้งที่ 7 เพื่อย้ำเป้าหมายการสร้าง “สันติสุขและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ รวมทั้งผลักดันความร่วมมือในทุกด้านให้คืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การส่งเสริมการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจเพื่อบรรลุเป้าหมายการค้า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2570 และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น
“ชัยวุฒิ” ชม “ลุงป้อม” สุภาพบุรุษ
ขณะที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการขับ 20 สส.กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยาว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพปชร. เป็นสุภาพบุรุษ เข้าใจการเมือง เข้าใจทุกคน และให้เกียรติทุกคน เปรียบเทียบเหมือนผัวเมียอยู่ด้วยกัน วันนี้เมียไปอยู่กับคนอื่นไม่รักกันแล้ว เราก็หย่ากันให้เรียบร้อยให้ถูกกฎหมายเท่านั้นเอง ถูกต้องตามระบบก็จบไป ทุกคนจะได้สบายใจไม่มีความขัดแย้งกันภายในพรรค พปชร.ทำงานต่อไปไม่แตกแยก ทุกคนยังอยู่เหมือนเดิม ที่สำคัญวันนี้ประเทศเราต้องการพรรคฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง ตรวจสอบรัฐบาลทุกเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชน
“โรม” ผิดหวังรัฐไทยอ่อนข้อพม่า
ช่วงเช้าที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการฯ เพื่อพิจารณากรณีเรือประมงไทยถูกเรือทหารเมียนมายิง ต่อมานายรังสิมันต์แถลงหลังการประชุมว่า จากการชี้แจงของเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังไม่มีความชัดเจนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แม้จะมีการใช้กลไกคณะกรรมการชายแดนท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC) และกระทรวงการต่างประเทศพยายามติดตามช่วยเหลือ 4 คนไทย แต่ไม่สามารถตอบได้ว่าคนไทยทั้ง 4 คนจะกลับสู่มาตุภูมิเมื่อไหร่ สาระสำคัญของเรื่องนี้คือความรุนแรงที่กองทัพเรือเมียนมาทำเกินกว่าเหตุ ฝ่ายไทยต้องประท้วงให้เข้มแข็งมากกว่านี้ เรือเราติดธงชาติไทย เขาทำขัดต่อหลักกฎหมายระหว่างประเทศ แม้พื้นที่จุดนั้นอาจยังไม่มีความชัดเจน แต่เขาใช้ความรุนแรงและทำลายความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศ ท่าทีรัฐบาลไทยอ่อนเกินไป
กห.แจงติดขัดขั้นตอน ก.ม.ส่งตัว
พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการช่วยเหลือ 4 ลูกเรือคนไทยว่า ขณะนี้ติดเรื่องขั้นตอนกฎหมายในการส่งตัวออกมา ไม่ได้มีปัญหาอื่น มีการฝากข้อความไปยังเอกอัครราชทูตไทยประจำเมียนมาแล้ว อยากให้ปล่อยตัวเร็วที่สุด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม แสดงความห่วงใยต่อความรู้สึกของคนในครอบครัวลูกเรือทั้ง 4 คน พร้อมเน้นย้ำความสำคัญในการเยียวยาดูแลสภาพจิตใจของคนในครอบครัว เพื่อบรรเทาความวิตกกังวล ยืนยันจะเดินหน้านำลูกเรือทั้ง 4 คน เดินทางกลับประเทศไทยอย่างเต็มกำลัง
จี้ รบ.เร่งแก้ความรุนแรงทางเพศ
อีกเรื่อง ที่โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ดร.ไฮนา ลู (Haina Lu) และ ดร.อิวาน่า คริสติค (Ivana Krstić) ผู้เชี่ยวชาญคณะทำงานแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิง แถลงข่าวสรุปผลการปฏิบัติภารกิจประเมินความคืบหน้าและข้อท้าทายในการบรรลุความเท่าเทียมทางเพศและขจัดการเลือกปฏิบัติ พิจารณาหลายแง่มุมของชีวิตผู้หญิงและเด็กผู้หญิงในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 2-13 ธ.ค. ตามคำเชิญของรัฐบาล ดร.ไฮนา ลูกล่าวว่า ต้องขอชื่นชมประเทศไทยที่มีความก้าวหน้าด้านสิทธิผู้หญิงและเด็กผู้หญิง ทั้งทางด้านกฎหมายและในเชิงสถาบันต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการศึกษา สาธารณสุข และการจ้างงาน ทำให้ดัชนีช่องว่างระหว่างเพศในระดับโลก พ.ศ.2567 (2024 Global Gender Gap Index) เลื่อนขึ้นจากอันดับที่ 74 ในปี พ.ศ.2566 มาอยู่ในอันดับที่ 65 จาก 146 ประเทศ และอยู่ในอันดับที่ 5 จาก 18 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก แต่มีความห่วงกังวลต่อช่องว่างในการบังคับใช้นโยบาย ที่ขัดขวางการบรรลุความเสมอภาคอย่างแท้จริง ยังพบปัญหาความรุนแรงทางเพศและปัญหาความรุนแรงในครอบครัวมีอยู่ทั่วไป
ด้าน ดร. อิวาน่า คริสติค กล่าวว่า คณะทำงานขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยดำเนินการแก้ปัญหาการเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิง ทั้งด้านกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายเข้มแข็งกว่านี้ เพื่อบรรลุความเสมอภาคระหว่างเพศ และเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีผู้หญิงหรือเด็กผู้หญิงคนใดถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ประเทศไทยควรแปลงคำมั่นสัญญาที่อยู่ในรัฐธรรมนูญให้เป็นความจริง ทั้งนี้คณะทำงานจะนำเสนอรายงานฉบับเต็มของการเยือนประเทศไทยต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ในเดือน มิ.ย.2568
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่