ทำไปทำมาท่องเที่ยวน่าจะช่วงพยุงเศรษฐกิจไทยให้ฝืนอยู่ได้เท่านั้น เพราะหันไปไหนก็ดูจะมืดมนไปหมด

ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่แห่จองโรงแรมที่พักให้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆเต็มหมดแล้ว ทำให้นักธุรกิจด้านนี้ดูผ่องใสอย่างเห็นได้ชัด

แต่บางย่านที่เคยคึกคักเมื่อปีก่อนๆกลับหงอยเหงาชอบกลอยู่ อย่างที่ถนนข้าวสารปีที่ผ่านมาเต็มหมดในช่วงปีใหม่ทอดยาวไปถึงสงกรานต์

แต่ปีนี้กลับตรงกันข้าม

ผู้ประกอบการก็ต้องไปหาข้อมูลมาให้ได้คำตอบว่า...ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

แต่ที่แน่ๆก็คือนักท่องเที่ยวไทยปีนี้ไม่ค่อยโหยหาเท่าใดนักเพราะยอดจองที่พักไม่เต็ม จะมีที่เชียงใหม่เท่านั้นที่ดีหน่อย

คงเนื่องมาจากอากาศหนาวทำให้คนไทยอยากไปสัมผัส

แต่แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆตัวเลขบ่งบอกว่าน้อยลงมาก

นี่จึงเป็นคำตอบว่า คนไทยเดินทางท่องเที่ยวน้อยลง

ที่ให้ความจริงว่าเศรษฐกิจไม่ดี ไม่มีเงินจับจ่ายใช้สอยเหมือนที่ผ่านมา

จึงไม่แปลกที่ “ขุนคลัง” ไปจุดไฟเรื่องที่จะเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เป็น 15% จึงเกิดเสียงคัดค้านและต่อต้านไปทั่วบ้านทั่วเมือง

เพราะจะได้รับความเดือดร้อนสาหัสแน่!

นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” จึงต้องรีบตัดไฟแต่ต้นลมด้วยการประกาศยืนยันว่าไม่ขึ้นภาษีแวตอย่างแน่นอน

ว่าไปแล้วทุกวงการไม่ว่านักธุรกิจ ผู้ประกอบการ และนักการเมือง โดยเฉพาะฝ่ายค้านที่ออกมารุมสกรัมใส่

เหตุผลก็คือ แค่นี้ก็แย่อยู่แล้วยังจะมาขึ้นภาษีซ้ำเติมอีก

การที่รัฐบาลลองหยั่งกระแสเรื่องนี้ก็คงเป็นเพราะต้องการหาเงินเพื่อนำมาลงทุน เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวหลังจากฟุบมานาน

...

หลังจากมองหาวิธีการต่างๆหลายช่องทางแล้วแทบจะไม่มีมุมอื่นนอกจาก “ขึ้นภาษี” ซึ่งง่ายที่สุดโดยไม่ต้องใช้วิธีการอะไรมากมาย

หากขึ้นเป็น 15% ก็จะได้เม็ดเงินจำนวนมาก เพราะภาษีประเภทนี้ไม่ว่าคนรวย คนชั้นกลาง และคนระดับล่าง

ต้องควักจ่ายเหมือนกันหมด...

เม็ดเงินที่จะได้มานั้นก็เอาเข้ากองกลาง โดยรัฐบาลจะบริหารจัดการตามแนวทางโดยอ้างว่าส่วนหนึ่งหรือส่วนใหญ่

จะนำไปช่วยคนระดับล่าง

เพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ!

เหตุผลดีแต่เงื่อนเวลาไม่สอดคล้องกับสถานการณ์และสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

เมื่อไปทางนี้ไม่ได้ก็ต้องดูว่ารัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร เพื่อทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นมาให้ได้

เพราะนับจากเข้ามาบริหารประเทศจนถึงวันนี้ยังไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลย นอกจากเอาเงินทุ่มแจกชาวบ้านเพื่อหาเสียงเท่านั้น

ที่สำคัญก็คือไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้เลย

เรื่องต่างๆเหล่านี้จึงไม่แปลกที่ทำให้มีการวิเคราะห์ไปในทางเดียวกันว่า ปีหน้ารัฐบาลจะอยู่ในภาวะที่ยากลำบาก

ที่คิดและมั่นใจว่าจะอยู่ได้ครบเทอม

ดูท่าจะลำบาก...

บางคนบอกเลยว่า อาจจะอยู่ได้ไม่เกินเดือนพฤษภาคมด้วยซ้ำไป

นี่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับประเด็นอื่นๆ ที่รุมเร้าอยู่!

“สายล่อฟ้า”

คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม