รองโฆษกรัฐบาลเผย รัฐบาลเดินหน้าเยียวยานิติบุคคลใน 8 จังหวัดอุทกภัยภาคใต้ สั่งออกมาตรการขยายระยะเวลาจดทะเบียนนิติบุคคล แจ้งบัญชีและเอกสารสูญหาย การนำส่งงบการเงินได้ หลังสถานการณ์สิ้นสุดลง

วันที่ 4 ธ.ค. 2567 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการเกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 8 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส สร้างความเสียหายในพื้นที่ประสบภัยเป็นอย่างมาก รัฐบาลได้บูรณาการความช่วยเหลือจากทุกหน่วยงานอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้

นายอนุกูลกล่าวว่าในส่วนของภาคธุรกิจ รัฐบาลได้กำชับให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินการช่วยเหลือ และเร่งเยียวยาภาคธุรกิจอย่างเร่งด่วน โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ออกมาตรการกำหนดให้นิติบุคคลที่มีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตประสบภัยพิบัติ ไม่สามารถเดินทางมาดำเนินการจดทะเบียน หรือนำส่งสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หรือดำเนินการอื่นใดต่อสำนักงานพาณิชย์จังหวัดภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดในช่วงเวลาที่เกิดอุทกภัย รวมถึงเอกสารสูญหาย เสียหายจากภัยพิบัติดังกล่าว สามารถขอยืดระยะเวลาการดำเนินการตามกฎหมายได้

สำหรับรายละเอียดมาตรการ ได้แก่ 1. นิติบุคคลผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งมีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตที่ประสบเหตุ สามารถขอขยายเวลาและชี้แจงเหตุผลความจำเป็นและหลักฐานที่แสดงว่าได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย ทำให้ไม่อาจดำเนินการยื่นจดทะเบียน ยื่นงบการเงิน ยื่นบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5) รวมถึงการแจ้งบัญชีหรือเอกสารประกอบการลงบัญชีสูญหายหรือเสียหายที่ต้องแจ้งต่อสารวัตรบัญชี ภายในระยะเวลาที่กฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมกำหนดได้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิจารณาขยายเวลาในการยื่นเอกสารหรือดำเนินการตามกฎหมายของนิติบุคคล ทั้งนี้ นิติบุคคลสามารถยื่นคำขอขยายระยะเวลาหรือดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่สถานการณ์อุทกภัยได้สิ้นสุดลง

...

2. กรณีนิติบุคคลใดได้รับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำผิด กรณีไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่น การยื่นคำขอจดทะเบียน การแจ้งบัญชีสูญหายหรือเสียหาย การยื่นบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หรือการนำส่งงบการเงินเกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นในช่วงที่ประสบอุทกภัย สามารถชี้แจงเหตุผล ความจำเป็น และหลักฐานที่แสดงว่าได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยทำให้ไม่อาจดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมกำหนดได้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิจารณายุติเรื่องและไม่ออกคำสั่งปรับเป็นพินัยตามกฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัย

“ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ณ วันที่ 30 พ.ย. 2567 พบว่า 8 จังหวัดภาคใต้ที่ประสบภัยน้ำท่วม มีนิติบุคคลดำเนินกิจการอยู่จำนวนทั้งสิ้น 31,759 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 231,616.30 ล้านบาท แบ่งเป็น สงขลา 13,109 ราย ทุน 135,015.44 ล้านบาท นครศรีธรรมราช 7,329 ราย ทุน 34,401.35 ล้านบาท ตรัง 2,950 ราย ทุน 22,374.88 ล้านบาท พัทลุง 2,117 ราย ทุน 5,637 ล้านบาท ยะลา 1,817 ราย ทุน 11,787.44 ล้านบาท ปัตตานี 1,753 ราย ทุน 9,543.10 ล้านบาท นราธิวาส 1,743 ราย ทุน 8,415.09 ล้านบาท และสตูล 941 ราย ทุน 4,442 ล้านบาท” นายอนุกูลระบุ