นักการเมืองไทยพูดถึงสิ่งอัปมงคล ของการปกครองระบอบประชาธิปไตยอีกครั้ง หลังจากที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตผู้นำกลุ่มคนเสื้อเหลือง ขู่ว่าอาจจะลงเล่นการเมืองบนท้องถนน หรือชุมนุมทางการเมืองเป็นครั้งสุดท้าย มีเสียงสวนกลับจากฝ่ายรัฐบาลบางคน เช่น นายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ออกมาตอบโต้ว่านายสนธิเป็นคนตกยุค
ไม่เข้าใจว่าพรรคการเมืองที่เคยขัดแย้งรุนแรงในอดีต หันมาจับมือร่วมกันทำงานเพื่อประชาชนกันแล้ว แต่อาจยังมีหลงเหลืออยู่ที่ทุ่มใจในการเล่นการเมืองแบบปลุกม็อบลงท้องถนน ควรจดจำบทเรียน ผลร้ายในอดีตที่ทำให้ประเทศทรุดโทรม ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาอีกคนหนึ่งที่ออกมาตอบโต้
นายณัฐวุฒิเคยเป็นผู้นำกลุ่มคนเสื้อแดง เป็นปรปักษ์กับนายสนธิที่เป็นผู้นำเสื้อเหลือง นายณัฐวุฒิกล่าวว่าการชุมนุมต่อต้านรัฐบาล มักจะนำไปสู่รัฐประหารเป็นความจริงของการเมืองไทย เช่น รัฐประหาร 2549 ยึดอำนาจรัฐบาลพรรคไทยรักไทยที่มีนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้นำ และรัฐประหาร 2557 ยึดอำนาจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
สาเหตุที่เกิดรัฐประหารทั้งสองครั้ง อาจมีเรื่องอื่นรวมอยู่ด้วย แต่ทั้งสองครั้ง มีการชุมนุมบนท้องถนนรวมอยู่ด้วย คณะรัฐประหาร 2549 อ้างว่ามีการแตกแยกระหว่างคนสองกลุ่มถึงขั้นที่อาจปะทะกัน ส่วนรัฐประหาร 2557 เป็นการชุมนุมเพื่อต่อต้านรัฐบาล ที่ออกกฎหมายนิรโทษกรรมแบบสุดซอย ให้อดีตนายกฯทักษิณด้วย
รัฐประหารกลายเป็นวัฏจักร หรือ “วงจรอุบาทว์” ทางการเมืองไทย เคยมีเกิดรัฐประหารที่สำเร็จมาแล้วอย่างน้อย 12 ครั้ง อีกสิบกว่าครั้งยึดอำนาจไม่สำเร็จ กลายเป็น “กบฏ” เหตุที่ระบุว่ารัฐประหารเป็นวงจรอุบาทว์การเมือง เพราะการเมืองไทยมักเริ่มต้นด้วยรัฐประหาร การฉีกรัฐธรรมนูญแล้วเขียนใหม่ตามด้วยเลือกตั้ง
...
มีการเลือกตั้งจัดตั้งรัฐบาลใหม่ แต่ในที่สุดก็จบลงที่รัฐประหาร อ้างว่าบ้านเมืองวุ่นวาย และยังมีเหตุผลสารพัดที่อ้างได้ เช่น รัฐประหาร 2549 อ้างว่ารัฐบาลเป็นเผด็จการรัฐสภา เพราะมีเสียงข้างมากท่วมท้น เนื่องจากพรรคไทยรักไทยดึงอีก 5 พรรคเข้ามาควบรวม ได้แก่ พรรคความหวังใหม่ พรรคชาติพัฒนา พรรคกิจสังคม
ยังไม่พอยังฮุบเอาพรรคเสรีธรรม พรรคเอกภาพ เข้าสู่วงไพบูลย์ด้วยผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2549 พรรคไทยรักไทยจึงชนะแบบฟ้าถล่ม ได้ สส. 377 ที่นั่งสามารถสร้างประวัติศาสตร์ จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ แต่อายุไม่ยืนยาว เนื่องจากวัฏจักรการเมืองหรือวงจรอุบาทว์ ที่คนไทยทุกคนต้องช่วยกันภาวนา ขออย่าเจอกันเลยไม่ว่าในชาติไหนๆ
คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม