ยกภูเขาลูกใหญ่ออกจากอกไปได้
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้องใน 6 ประเด็น คดีกล่าวหา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการใช้สิทธิหรือเสรีภาพล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ตีตกคำร้องทุกประเด็น เห็นคล้อยตามมติอัยการสูงสุด ยกเหตุผลยังไม่มีข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอที่แสดงให้เห็นถึงเป้าประสงค์การใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครองฯ
ได้โล่งอกหายใจกันทั่ว ทั้งตัวนายทักษิณ พรรคเพื่อไทย หรือแม้กระทั่งตัว “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ต้องพลอยถูกโยงไปติดร่างแหด้วย
สารตั้งต้นคดียุบพรรคหมดหัวเชื้อไปหนึ่งด่าน แต่หายใจได้ไม่โล่งคอ เพราะยังมีหัวเชื้อคดีอื่นๆ อยู่ในชั้นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้งกรณีการครอบงำพรรค ความผิดมาตรฐานจริยธรรม หรือคดีปริศนาพักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
ได้ระทึกต่อเป็นหนังม้วนยาว ฟาดฟันกันอีกหลายยก ลุ้นตอนจบ รัฐบาลจะโดนล้มโต๊ะหรือไม่
แต่อย่างน้อยในระยะเฉพาะหน้า ก็เป็นใจให้กับการเร่งจังหวะกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะนี้
ในคิวที่ “นายกฯ อิ๊งค์” กำลังโชว์พาวฯ ออกแอ็กชันการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศลอตใหญ่
ล่าสุดขึ้นเวทีโชว์วิชัน ชู 3 จุดแข็งประเทศ “อาหารไทย–ฮับสุขภาพ–ซอฟต์พาวเวอร์” ใช้เป็นช่องทางปั่นรายได้โกยเงินเข้าประเทศ
ช็อตต่อเนื่องจากที่เพิ่งนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกาศแจกเงินหมื่นรอบสอง กลุ่มผู้สูงอายุ 3–4 ล้านคน ช่วงตรุษจีนปีหน้า
ตีคู่ไปกับนโยบายแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน พักชำระดอกเบี้ย 3 ปี แก่ 3 กลุ่มลูกหนี้ได้แก่ หนี้บ้าน หนี้รถ หนี้การบริโภค ที่มีหนี้เสียไม่เกิน 1 ปี และการฟื้นโครงการไร่ละพัน จ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ช่วยเหลือค่าครองชีพเกษตรกร
...
มัดรวมแผนพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศหลายแพ็กเกจ เตรียมนำไปแถลงใหญ่เป็นผลงานรัฐบาลรอบ 3 เดือน วันที่ 12 ธ.ค.นี้
รอแกะกล่องมอบเป็นของขวัญปีใหม่คนไทยแฮปปี้หลายกลุ่มได้ทั้งเงินหมื่น พักหนี้ เงินช่วยค่าครองชีพ
นายกฯหญิงรัวทำแต้มมือเป็นระวิง รับลูกต่อบทจากผู้เป็นพ่อที่ช่วยนำร่องโปรโมตนโยบายรัฐบาลตามเวทีต่างๆ แล้วนำมาขยายผลดำเนินการต่อ
พ่อ–ลูกช่วยกันเหยียบมิดคันเร่งนโยบายเรือธง และโครงการประชานิยม เติมตังค์ในกระเป๋าประชาชนหวังผลทางการเมือง เสริมความเชื่อมั่นระยะยาว ให้รัฐบาลอยู่ครบเทอม
ตามผลพลอยได้ระยะสั้น อย่างน้อยก็ได้มัดใจคนอุดรธานี ก่อนเข้าคูหากาบัตรเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี วันที่ 24 พ.ย.นี้ ขยายผลไปสู่การเลือกตั้งนายก อบจ.ทั่วประเทศ ในเดือน ก.พ.2568
อั่งเปาตั่วๆไก๊ เงินหมื่นผู้สูงอายุช่วงตรุษจีน มาได้จังหวะคาบเกี่ยวเลือกนายก อบจ.
ได้อานิสงส์ฟันแต้มเลือกตั้งท้องถิ่นได้อีกทาง นำไปต่อยอดใช้เป็นฐานเสียงในสนามการเมืองระดับชาติ เพิ่มความหวังให้ได้ สส.ตามเป้าเกิน 200 เสียง ในการเลือกตั้งสมัยหน้า
รัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” เทกระจาด สาดเงินหมื่นถูกจังหวะเวลา เล่นงานคู่แข่งสำคัญ พรรคประชาชนนั่งไม่ติด
คิวที่แม่ทัพหญิงเศรษฐกิจ ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โร่ออกโรงบลัฟนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ยังขาดความชัดเจน การันตีไม่ได้จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจสำเร็จ
รีบเบรกแต้มเพื่อไทยไม่ให้ไหลไปกันใหญ่ในสนามเลือกตั้งท้องถิ่นเมืองอุดรฯ
ค่ายส้มแต้มหล่นไปเยอะ หัวขบวนคนใหม่ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ไม่สามารถเรียกเรตติ้งให้พรรคได้เปรี้ยงปร้างเหมือนเก่า
สถานการณ์ที่พรรคประชาชนหัวหมุน ต้องระดมคีย์แมนพรรค เดินสายเป็นดาวกระจายหาเสียงโค้งสุดท้ายสนามอุดรธานี เหนื่อยแทบกระอัก ก็ยังไม่รู้จะพลิกสถานการณ์สำเร็จหรือไม่
ต่างกับพรรคเพื่อไทยที่เริ่มตั้งหลักได้ แต้มต่อทางการเมืองมีทิศทางกลับมาเป็นบวก
นายใหญ่ติดลมบทบาท สทร. โชว์บารมีการเมืองข่มคู่แข่งควบคู่ไปการชี้นำทางเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน เสริมเกราะกำบังให้รัฐบาลลูกสาวในยามที่ภูมิคุ้มกันทางการเมืองอ่อนไหว
เบ่งพลังให้กลุ่มอำนาจเก่าเห็น ดีกรีบารมียังไม่เสื่อมถอย
ยิงปืนนัดเดียว แต่เล็งสอยนกยกฝูง หากไม่ทำปืนลั่นใส่ตัวเองก่อน!!!
ทีมข่าวการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม