พรรคประชาชน จัดเต็มเวทีปราศรัยโค้งสุดท้าย ชวนใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี 24 พ.ย.นี้ ขอคะแนนให้ “คณิศร” ชูนโยบายยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมทำทันทีใน 100 วันแรก

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 พรรคประชาชนเปิดเวทีปราศรัยโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี “คำตอบสุดท้าย อบจ.รับใช้ประชาชน” ณ ลานหลังที่ว่าการอำเภอกุมภวาปี ถนนติดแม่น้ำ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี โดยมีแกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงร่วมปราศรัยให้กับ นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี ของพรรคประชาชน

นายปิยบุตร แสงกนกกุล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง กล่าวในช่วงหนึ่งว่า คนอุดรธานีขึ้นชื่อเรื่องจุดยืนประชาธิปไตย นักการเมืองอาวุโสเริ่มตั้งคำถามว่าคนอุดรธานีเปลี่ยนไปหรือไม่ สีแดงเข้มๆ ตกเป็นสีส้มหรือเปล่า ตนต้องบอกว่าจริงๆ แล้วคนอุดรธานีไม่ได้เปลี่ยน จุดยืนประชาธิปไตยอย่างไรก็อย่างนั้น แต่พวกเขาต่างหากที่เปลี่ยนจากจุดยืนประชาธิปไตยไปเป็นสยบยอมกับอำนาจเพื่อแลกกับการเป็นรัฐมนตรีเป็นรัฐบาล

...

ตั้งแต่ปี 2548 พี่น้องคนอุดรธานีด้วยจุดยืนประชาธิปไตย จึงเลือกพรรคเดียวยกจังหวัด เป็นอย่างนี้มาเกือบ 20 ปี จนกระทั่งการเลือกตั้ง 2566 เมื่อมีพรรคก้าวไกล ชาวอุดรฯ รู้สึกว่ารักพี่เสียดายน้อง ในเมื่อสองพรรคบอกว่ามีจุดยืนเหมือนกัน เลยแบ่งคะแนนกันไปคนละใบ พรรคก้าวไกลจึงได้ สส. เขตมา 1 คน แต่คะแนนบัญชีรายชื่อได้มาเกือบ 300,000 คะแนน ด้วยหวังว่าพรรคพี่พรรคน้องจะมารวมกันตั้งเป็นรัฐบาล แต่ก้าวไกลกลับถูกเตะเป็นฝ่ายค้าน วันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ ที่ชาวอุดรฯ จะได้ใช้สิทธิ์อีกครั้ง จะได้ส่งสัญญาณว่าไม่เอาการตั้งรัฐบาลแบบที่ผ่านมา ไม่เอาการยุบพรรคตัดสิทธิ์ และเชื่อมั่นว่าพรรคสีส้มวันนี้คือพรรคประชาชน ยังยืนหยัดเคียงคู่กับคนอุดรธานีในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

ต่อมา นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ชี้แจงกรณี นายวิเชียร ขาวขำ อดีตนายก อบจ.อุดรธานี แถลงว่าหัวหน้าพรรคประชาชนเข้าใจผิดเรื่องงบประมาณ อบจ.อุดรธานีไม่ได้มีเงินเยอะ ตอนนี้เงินสะสมติดลบอยู่ 80 ล้านบาท ว่า ตนก็ตกใจ ถ้าติดลบจริงต้องถามว่าท่านใช้เงินอย่างไร จึงรีบไปหาเอกสารก่อนขึ้นเวทีปราศรัยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าตัวเลขงบประมาณล่าสุดเป็นอย่างไร ทำให้เห็นว่าเงินสะสมของ อบจ. มีอยู่ 1,500 ล้านบาท ซึ่งทราบอยู่แล้วว่าในจำนวนนี้อาจไม่ใช่เงินสดทั้งหมด เป็นทรัพย์สินด้วย แต่เนื่องจากเอกสารที่ตนมีไม่มีรายละเอียด จึงขอไปดูรายละเอียดก่อนแล้วค่อยมาพูดต่อ เรื่องเป็นแบบนี้

“ยืนยันว่าเงินสะสมเพิ่มได้ถ้าบริหารเป็น จะเพิ่มเงินสะสมต้องเพิ่มรายได้หรือใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การจัดซื้อจัดจ้างต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่ฮั้วประมูล ถ้าคณิศรได้เป็นนายก อบจ.อุดรธานี จะให้เข้าไปตรวจสอบตรงนี้ให้หมด ถ้าคิดว่าอุดรธานีต้องดีกว่านี้ ใช้เงินภาษีคุ้มค่าโปร่งใสมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ 24 พฤศจิกายน ขอให้เลือกคณิศร จากพรรคประชาชน”

จากนั้น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า ถ้าเราได้นายก อบจ. ที่ใช้เงินทุกบาทด้วยความคุ้มค่าและโปร่งใส นโยบายดีๆ หลายอย่างเกิดขึ้นได้ พร้อมยกตัวอย่าง 3 ผลงานที่คณะก้าวหน้าทำงานร่วมกับท้องถิ่น เป็นนโยบายที่จะทำให้ชีวิตพี่น้องประชาชนดีขึ้น คือ น้ำประปาสะอาด, หมอตู้ หรือ Telemedicine และ กล่องรับขวัญแรกเกิด (Baby Box) เรามีอีกหลายชุดนโยบายที่จะขับเคลื่อนให้พี่น้องชาวอุดรฯ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี บางนโยบายแม้ อบจ. ไม่ได้มีอำนาจโดยตรง แต่สามารถใส่เงินอุดหนุนและใช้การประสานงาน ขอเพียงผู้บริหาร อบจ. มีวิสัยทัศน์และเห็นความสำคัญ อีก 2 วันต่อจากนี้ คือวันกำหนดอนาคตของชาวอุดรฯ

ทางด้าน นายคณิศร ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี กล่าวย้ำนโยบาย 6 ด่วนทำทันทีภายในปีแรก ได้แก่ (1) อบจ. โปร่งใส ตรวจสอบได้ ไทยอุดรมีส่วนร่วม คอร์รัปชันเป็นศูนย์ (2) รพ.สต.ก้าวหน้า อยู่ไหนก็ใกล้หมอ (3) น้ำประปาใสดื่มได้ตลอดปี (4) ขนส่งสาธารณะ รถเมล์ไฟฟ้าเชื่อมสถานีขนส่งและแหล่งท่องเที่ยว (5) ถนนปลอดหลุม ไฟสว่าง กล้องวงจรปิดทุกจุดเสี่ยง (6) ชุมชนปลอดภัยไร้ยาเสพติด

ทั้งนี้ ตนสัมผัสได้ว่าพี่น้องรู้สึกอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ตนมีความมุ่งมั่น ทำงานหนักพบพี่น้องให้มากที่สุดเพื่อขอความไว้วางใจ ต้องขอแรงประชาชนเป็นหัวคะแนนธรรมชาติไปบอกต่อ เลือกตั้งเสร็จแล้วแวะเวียนไปหน่วยเลือกตั้ง ช่วยกันสอดส่องให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างโปร่งใส คำตอบสุดท้ายของชาวอุดรฯ

ต่อมา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในฐานะหาเสียง ขึ้นปราศรัยเป็นคนต่อไป ว่า วันนี้ขอให้ นายคณิศร เป็นคำตอบสุดท้ายของชาวอุดรฯ รับใช้คนอุดรฯ ทุกคนอย่างเท่าเทียม พรรคประชาชนทั้งชัดและพร้อม วันนี้ชัดแล้ว ใครจะแผ่วเราไม่แผ่ว ไม่ว่าเวทีเล็กเวทีใหญ่ คนที่ขยันกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า คือม้าตีนปลายที่ไล่กวดและจะเข้าสู่ชัยชนะในวันอาทิตย์นี้ นายคณิศร พร้อมทำงานทันทีภายใน 100 วันแรก ได้เตรียมนโยบายที่จะเป็นของขวัญวันปีใหม่ จะซ่อมถนนให้ปลอดภัย ไฟสว่าง ทำให้เศรษฐกิจอุดรฯ คึกคัก ในประเทศไทยมีจังหวัดเดียวคืออุดรธานีที่มีมรดกโลกถึง 2 แห่ง ถ้า นายคณิศร เป็นนายก อบจ.อุดรธานี จะมีทูตการท่องเที่ยวชื่อพิธา เชื่อว่าจะทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวของจังหวัดเพิ่มขึ้นแน่นอน

“คำถามสำคัญคือพี่น้องชาวอุดรพร้อมหรือยัง เปลี่ยนจากอดีตที่จำเจเป็นอนาคตที่จริงใจ เปลี่ยนจากการเมืองกลับไปกลับเป็นการเมืองตรงไปตรงมา มีการทำงานเป็นทีม พาอุดรธานีก้าวไปข้างหน้า ขอให้พี่น้องให้โอกาสคณิศร เหมือนที่เคยให้โอกาสผม”