“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เผย พรรคประชาชน มี 2 กลยุทธ์ เปลี่ยนใจคนอุดรฯ เชื่ออาจพลิกชนะได้ มองการแก้ปากท้องรัฐบาลไม่น่าภูมิใจ บอกเป็นคำตัดสินที่ถูกแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญ ตีตกคำร้อง “ทักษิณ” ล้มล้างการปกครอง

วันที่ 22 พ.ย. 2567 ที่ จ.อุดรธานี แกนนำพรรคประชาชน (ปชน.) พร้อมด้วยผู้ช่วยหาเสียง อาทิ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า รวมถึงนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ไปร่วมขบวนหาเสียงกระจายเป็น 6 สาย เส้นทาง อ.หนองแสง-อ.โนนสะอาด อ.กุดจับ อ.บ้านผือ อ.หนองหาน อ.บ้านดุง อ.ประจักษ์ และ อ.เพ็ญ ช่วยนายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พรรคปชน.หาเสียง โดยช่วงหนึ่ง นายปิยบุตร ระบุตอนหนึ่งว่า รอบนี้ขอโอกาสปักธงสีส้ม นายก อบจ.อุดรธานี เป็นที่แรก และต่อไปจะเลือกยกจังหวัดให้อุดรธานีเป็น อุดรธานีสีส้ม

ด้าน นายพิธา ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคปชน.มีกลยุทธ์เปลี่ยนใจชาวอุดรธานี 2 เรื่อง คือ เปลี่ยนใจคนให้ออกมาใช้สิทธิ์ และเปลี่ยนใจให้มาลองของใหม่ ผลโพลออกมาว่า 50% คนยังไม่ได้ตัดสินใจ หมายถึงโอกาสของพรรคปชน.ไล่กวดคะแนน เชื่อว่าจะสามารถพลิกมาชนะได้ เมื่อถามว่า นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า พรรคพท. ยังเป็นต่อนั้น นายพิธา ตอบว่า ส่วนตัวคิดว่าสูสี เป็นต่ออาจจะไม่ใช่นัก

นายพิธา กล่าวถึงกรณีรัฐบาลเตรียมจัดแถลงผลงาน 100 วัน ว่า หากมองด้วยความยุติธรรม การให้สัญชาติกับกลุ่มชาติพันธุ์ ก็เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม แต่เรื่องที่ต้องเร่งแก้ไขก็มี อย่างเช่นปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ที่จีดีพีโตเพียงแค่ 3% เท่านั้น ห่างจากค่าเฉลี่ยโลกนิดเดียว จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าภูมิใจ ส่วนกรณีที่มีหลายคนวิจารณ์วุฒิภาวะ การแต่งกายของนายกฯ นั้น เรื่องอายุหรือแม้แต่การแต่งกาย ไม่ใช่ตัวชี้วัด เช่นเดียวกับการประเมินผู้นำฝ่ายค้านก็ต้องใช้มาตรฐานเดียวกัน เพื่อเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

...

นายพิธา ยังกล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญตีตกคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ล้มล้างการปกครองฯ ว่า เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว ไม่ควรจะมีพรรคไหนถูกองค์กรใดยุบพรรคง่ายๆ หากเป็นการกระทำอื่น ที่ไม่ใช่การรัฐประหาร การแบ่งแยกดินแดน การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองของรัฐ ก็ไม่ควรมีโทษประหารทางการเมือง การยุบพรรค การตัดสิทธิ์ทางการเมืองเกิดขึ้น ควรที่จะเสมอภาคกันทุกพรรคไม่ว่าจะเป็นพรรคใดก็แล้วแต่ ส่วนพรรคก้าวไกลในขณะนั้น พยายามต่อสู้อย่างเต็มที่แล้ว คงไม่คิดหวนย้อนคืนไปในอดีต มีแต่ปัจจุบัน และอนาคต ย้ำว่ามีความหวังเหมือนที่พูดไว้เหมือนเดิมว่า พรรคก้าวไกล จะเป็นพรรคสุดท้ายที่ถูกยุบด้วยองค์กรอิสระ หากจะให้พรรคการเมืองตาย ก็ต้องตายด้วยน้ำมือของประชาชนที่ไม่เลือกแล้ว