“นฤมล” นำถก อนุกรรมการ นบข.ด้านการผลิต มีมติยกเลิกปุ๋ยคนละครึ่ง เปลี่ยนเป็นช่วยชาวนาไร่ละ 500 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ พร้อมชง 2 โครงการเพิ่มประสิทธิภาพลดต้นทุนการผลิต เสนอ นบข. พิจารณาอนุมัติ ก่อนชง ครม.

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต ครั้งที่ 1/2567 ณ ห้องประชุม 134-135 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) มีมติเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ให้คณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต ทบทวนโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว (โครงการปุ๋ยคนละครึ่ง) กรอบวงเงิน 29,980.1645 ล้านบาท เนื่องจากเกิดปัญหาอุปสรรคต่างๆ และปัจจุบันล่วงเลยระยะเวลาการสนับสนุนปัจจัยการผลิต (ปุ๋ย) ไปแล้ว อีกทั้งเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2567 เกษตรกรส่วนใหญ่ร้อยละ 72.20 อยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวและนำผลผลิตออกสู่ตลาด ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินงานโครงการไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกินครัวเรือนละ 20,000 บาท เป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ จากปัญหาอุปสรรคของโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง และข้อเรียกร้องของพี่น้องชาวนา ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบยกเลิกโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง และเห็นชอบให้ปรับเปลี่ยนเป็นสนับสนุนค่าเก็บเกี่ยวข้าว อัตราช่วยเหลือไร่ละ 500 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ วงเงินรวมดอกเบี้ย 3.05% จำนวน 27,550.96 ล้านบาท เสนอ นบข. พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

...

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบในหลักการมาตรการเพิ่มระดับผลิตภาพ (Productivity) ของการผลิตข้าวของศูนย์ข้าวชุมชนในการผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าว จำนวน 2 โครงการ เป้าหมาย 543 ศูนย์ จำนวนเงิน 2,428.1830 ล้านบาท (โดยใช้จากกรอบวงเงินที่เหลือจากโครงการสนับสนุนปุ๋ยฯ วงเงิน 2,429 ล้านบาท) ได้แก่ 1. โครงการศูนย์รวบรวมผลผลิตและกระจายสินค้าข้าว และ 2. โครงการสนับสนุนการลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยจะนำเสนอ นบข. พิจารณาอนุมัติเห็นชอบภายในอาทิตย์หน้านี้ และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป โดยในที่ประชุมนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ประธานกรรมการศูนย์ข้าวชุมชนระดับประเทศ ตลอดจนผู้แทนชาวนา ต่างแสดงความคิดเห็นและพึงพอใจต่อมติดังกล่าว

ทางด้าน นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ภายหลังจากคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต มีมติเห็นชอบให้ยกเลิกโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง มาเป็นสนับสนุนค่าเก็บเกี่ยวข้าว อัตราช่วยเหลือไร่ละ 500 บาทไม่เกิน 20 ไร่ วงเงินจำนวน 27,550.96 ล้านบาท โดยให้ชาวนาได้รับเงินชดเชยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลผลผลิต โดยพิจารณาตามกรอบวงเงินที่มีอยู่ คือ 29,980 ล้านบาท ส่วนวงเงินที่เหลือจะเสนอ 2 โครงการคู่ขนาน เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพให้ศูนย์ข้าวชุมชนเกิดความเข้มแข็งต่อไป และไม่เป็นการเพิ่มภาระให้รัฐบาล ซึ่งการจะเดินหน้าโครงการใหม่นี้ได้ต้องมีการเสนอขอเปลี่ยนแปลงมติ ครม. เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 ที่ระบุไว้ว่า ให้หน่วยงานหลีกเลี่ยงการดำเนินการในลักษณะการให้เงินอุดหนุน ช่วยเหลือ ชดเชย หรือประกันราคาสินค้าเกษตร โดยตรงแก่เกษตรกร

พร้อมกันนี้ ยังได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะทำงานบริหารจัดการข้าวตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งประกอบด้วย 2 คณะ ได้แก่ 1. คณะทำงานบริหารจัดการเงินอุดหนุนให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ โดยมีอธิบดีกรมการข้าว เป็นประธาน เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาการรับเงินอุดหนุนของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว อีกทั้งต้องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขต่างๆ ในการดำเนินการตามโครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP ครบวงจร และ 2. คณะทำงานโครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP ครบวงจร

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้รับทราบมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2567/68 ตามที่ นบข. มีมติเห็นชอบ ในคราวประชุม ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 เป้าหมายรวม 8.50 ล้านตัน วงเงินรวมทั้งสิ้น 60,085.01 ล้านบาท จำแนกเป็น วงเงินสินเชื่อ 50,481.00 ล้านบาท วงเงินจ่ายขาด 9,604.01 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 โครงการ ได้แก่ โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2567/68, โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2567/68 และโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อก ปีการผลิต 2567/68 โดยจะนำเสนอเข้าที่ประชุม ครม. อนุมัติ ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ต่อไป.