Karan Bhatia รองประธานบริษัท Google ยืนยันมั่นใจจะร่วมมือด้านดิจิทัล-คลาวด์-AI กับไทย ด้านนายกฯขอบคุณ ที่ทุ่มงบกว่า 3.5 หมื่นล้านบาทในไทย ก่อนหารือ TikTok-Microsoft ย้ำ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมทักษะด้านดิจิทัลของไทย
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2567 เวลา 14.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงลิมาซึ่งช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมง) ณ โรงแรม Swissotel กรุงลิมา ประเทศเปรู นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบหารือกับนาย Karan Bhatia รองประธานบริษัท ด้านการดูแลและกำหนดนโยบายสาธารณะและความสัมพันธ์กับรัฐบาล จากบริษัท Google ในระหว่างเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
โดยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้ นายกรัฐมนตรียินดีที่ Google ได้เคยประกาศการลงทุนจำนวน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้าง Data Center และ Cloud Region ในไทย ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของไทย
นาย Karan Bhatia กล่าวชี่นชมนโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมการใช้ดิจิทัล และพร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาลทั้งการพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีสำหรับการศึกษา และแรงงานไทย รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการทำงานของภาครัฐ การขับเคลื่อนตามนโยบายการใช้คลาวด์เป็นหลัก (Go Cloud First Policy) ของรัฐบาลด้วย นอกจากนี้ รองประธานบริษัท ฯ ยังกล่าวภูมิใจที่สินค้าและบริการของ google เช่น ระบบการค้นหา (Search engine) แผนที่ (Google map) ซึ่งเป็นบริการไม่มีค่าใช้จ่าย และ youtube ซึ่งคนไทยในทุกระดับได้ใช้ประโยชน์รวมไปถึงผู้ประกอบการและคนไทย ใช้สร้างงาน สร้างอาชีพใหม่ๆ สร้างรายได้ให้กับคนไทยด้วย
...
โดยนายกรัฐมนตรีย้ำ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมทักษะด้านดิจิทัลของไทย โดยเฉพาะด้านการศึกษาของเยาวชน รวมทั้งพัฒนาทักษะแรงงานในการ (upskills/ reskills) เพื่องรองรับการทำงานสมัยใหม่ด้วย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีและนาย Karan Bhatia เห็นพ้องถึงความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่าง ๆ อาทิ การพัฒนาระบบนิเวศเศรษฐกิจดิจิทัล และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคลาวด์และ AI การเสริมทักษะด้านดิจิทัล/AI ให้กับคนไทย ต่อยอดจากบันทึกความเข้าใจ (MoU) ที่ Google ได้ลงนามกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เมื่อปี 2566 โดยเฉพาะการส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งเป็นวาระเร่งด่วนที่รัฐบาลมุ่งแก้ไขปัญหาโดยเร็ว เพราะกระทบกับพี่น้องประชาชนคนไทยจำนวนมาก นายจิรายุกล่าว
ชวน TikTok นำเสนอสินค้า-ท่องเที่ยวไทย
ต่อมาเวลา 14.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงลิมาซึ่งช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมง) ที่โรงแรมสวิสโซเทล ลิมา สาธารณรัฐเปรู น.ส.แพทองธาร พบหารือกับ นายโซว จือ ชิว (Mr. Shou Zi Chew) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท TikTok โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยินดีที่ได้พบประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TikTok ซึ่งความนิยมของ TikTok ในประเทศไทย ซึ่งมีเกือบ 50 ล้านผู้ใช้งาน ขอบคุณที่ TikTok ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการชาวไทย โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (MSMEs) ผ่านทางอีคอมเมิร์ซและการสร้าง digital content จึงขอเชิญชวน TikTok ร่วมมือกับรัฐบาลสนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่นของไทย นำเสนอสินค้าไทยผ่านแพลตฟอร์ม รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ผ่านการสร้างเนื้อหา content ด้านการท่องเที่ยวสู่เวทีโลกและสายตาคนทั่วโลกด้วย และขอเน้นย้ำการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีอย่างรับผิดชอบและสร้างสรรค์ รวมทั้งการใช้ประโยชน์ของสื่อสังคมออนไลน์ที่มีความปลอดภัย เพื่อสร้างผู้ผลิตเนื้อหา (content creator) ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม
ด้านนายโซว กล่าวว่า ขอชื่นชมนโยบายของรัฐบาล ที่ให้เศรษฐกิจดิจิทัลเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสำคัญ และพร้อมสนับสนุนการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์อย่างปลอดภัยในทุกกลุ่มอายุ
ไมโครซอฟท์ พร้อมจับมือพัฒนาแรงงานไทย
ก่อนที่เวลา 15.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงลิมา ซึ่งช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมง) ที่โรงแรมสวิสโซเทล ลิมา สาธารณรัฐเปรู น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบหารือกับนายแอนโทนี คุก รองประธานบริษัทและรองประธานที่ปรึกษาฝ่ายทั่วไปและบริการลูกค้าของบริษัท Microsoft (ไมโครซอฟท์) โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยินดีที่บริษัท ไมโครซอฟท์มีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดกับประเทศไทย พร้อมสานต่อจากการพบหารือระหว่างนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ กับ นายสัตยา นาเดลลา ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมโครซอฟท์ เพื่อเดินหน้าประเทศไทยสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาค เพราะไทยให้ความสำคัญและลงทุนในระบบนิเวศดิจิทัล โครงสร้างพื้นฐาน และทักษะแรงงาน หวังว่าไมโครซอฟท์ จะเข้ามาร่วมแลกเปลี่ยน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนและความร่วมมือในด้านดิจิทัล เพราะเศรษฐกิจดิจิทัลถือเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการเติบโตทางเศรษฐกิจ ไทยพร้อมร่วมมือกับไมโครซอฟท์ เพื่อสนับสนุนนวัตกรรมดิจิทัลและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ด้านนายแอนโทนี กล่าวว่า พร้อมที่จะร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในประเทศไทย ในการฝึกอบรมทักษะดิจิทัลให้กำลังแรงงานไทย ซึ่งจะเพิ่มความประสิทธิภาพและความสามารถการแข่งขันของประเทศไทยให้สูงขึ้นอีกด้วย
จบภารกิจ เดินเยี่ยมชมเมืองลิมาต่อ
จากนั้นเวลา 15.40 น. (ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 12 ชั่วโมง) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจพบหารือกับภาคเอกชน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้พักผ่อนอิริยาบถเดินเยี่ยมชมเมืองลิมา สาธารณรัฐเปรูบริเวณรอบๆ โรงแรมสวิสโซเทล ลิมา สาธารณรัฐเปรู เป็นการส่วนตัว เพื่อดูบรรยากาศบ้านเมืองเปรูและสินค้าท้องถิ่นในซูเปอร์มาร์เก็ต โดยนายกฯ ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่าสินค้าท้องถิ่น หรือสินค้าของเปรูชนิดใดที่เป็นที่นิยม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บอกว่าสินค้าที่เป็นของประเทศเปรูที่จำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตดังกล่าว มีสินค้าหลากหลายที่เป็นที่นิยมของทั้งชาวเปรูและชาวต่างชาติ ทั้งนี้ นายกฯ ได้ซื้ออินคาโคล่า ซึ่งเป็นน้ำอัดลมของเปรู ที่มีลักษณะเฉพาะตัวเป็นน้ำสีเหลือง ต่างจากน้ำอัดลมโคล่าของประเทศไทยที่เป็นสีดำ และยังได้ซื้อขนม และน้ำผลไม้ผสมโซดา รวมไปถึงช็อกโกแลตของเปรูด้วย