“รมว.นฤมล” เป็นประธานวางพานพุ่มฯ น้อมรำลึกในหลวง ร.9 เนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวง ประจำปี 2567 พร้อมชวนเที่ยวงาน “เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา องค์ราชา สืบสาน รักษา ต่อยอด พระบิดาแห่งฝนหลวง” 13-15 พ.ย. นี้

วันที่ 14 พ.ย. 2567 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายราชสักการะ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวง ประจำปี 2567 โดยมีข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมในพิธี ณ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ กรุงเทพมหานคร

โดยการจัดงานในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2545 มีมติให้เทิดพระเกียรติพระองค์ท่านในฐานะที่ทรงเป็น “พระบิดาแห่งฝนหลวง” และกำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปีเป็น “วันพระบิดาแห่งฝนหลวง” เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2498 เป็นวันที่พระองค์ทรงมีพระราชดำริที่จะนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการบังคับเมฆให้เกิดเป็นฝนจนเกิดเป็นเทคโนโลยีฝนหลวง ช่วยขจัดความทุกข์ยากให้แก่พสกนิกรที่ประสบภัยแล้ง และเป็นองค์ประกอบในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ ซึ่งได้จารึกไว้เป็นวันสำคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทย เพื่อให้ประชาชน เยาวชน ได้มีโอกาสแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่ทรงก่อให้เกิดเทคโนโลยีฝนหลวง อันเป็นมรดกสำคัญของประเทศในการช่วยเหลือประชาชนมาตลอดระยะเวลา 69 ปี

...

สำหรับการจัดงานวันพระบิดาแห่งฝนหลวง ประจำปี 2567 กรมฝนหลวงและการบินเกษตรกำหนดจัดงานตั้งแต่วันที่ 13 – 15 พฤศจิกายน 2567 โดยภายในงานมีการจัดนิทรรศการภายใต้แนวคิด “เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา องค์ราชา สืบสาน รักษา ต่อยอด พระบิดาแห่งฝนหลวง” ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย
(1) นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความเป็นมาของโครงการพระราชดำริฝนหลวง
(2) นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่แสดงออกถึงพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ของพระองค์ที่เกี่ยวข้องกับโครงการพระราชดำริฝนหลวง ในการรักษา สืบสาน และต่อยอด
และ (3) นิทรรศการเกี่ยวกับภารกิจในด้านต่าง ๆ ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร พร้อมด้วยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานร่วมบูรณาการ อาทิ กองทัพอากาศ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.)

ทั้งนี้ ภายในงานยังมีการจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอีกมากกว่า 70 ร้านค้า เป็นผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ซึ่งมีทั้งผัก ผลไม้ อาหารสด และอาหารแปรรูปทางการเกษตร มาจำหน่ายให้ประชาชนในราคาประหยัด รวมทั้งยังมีกิจกรรมการสาธิตเสริมสร้างอาชีพจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาทิ สาธิตการแปรรูปผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ การทำพวงกุญแจ การทำซูชิข้าวก่ำล้านนา การทำน้ำหมักจุลินทรีย์ (พด.6) สารเร่งซุปเปอร์ (พด.2) และการทำแบคทีเรียสังเคราะห์แสง (พด.15) ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (15 พฤศจิกายน 2567) เป็นวันสุดท้ายขอเชิญชวนทุกท่านมาเที่ยวชมงาน และร่วมกันน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ขององค์พระบิดาแห่งฝนหลวงร่วมกัน และหลังจากนี้จะนำนิทรรศการไปจัดที่บริเวณด้านหน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เพื่อให้พี่น้องประชาชนที่สนใจได้เข้าชมและศึกษาความเป็นมาต่อไป