กมธ.ความมั่นคงของรัฐฯ เชิญ รพ.ราชทัณฑ์-รพ.ตร. ให้ข้อมูล ปม “ทักษิณ” รักษาตัว ส่วน “เสรีพิศุทธ์” และ จนท.รักษาไข้ ไม่มาร่วมประชุม ด้าน “โรม” ยันจะหาข้อเท็จจริง แม้อาจไม่ได้รับความร่วมมือ วอน เจ้าหน้าที่มาชี้แจงแก้คำครหาสังคม มอง อ้าง PDPA ไม่ส่งข้อมูลไม่ได้
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธาน กมธ.ความมั่นคงของรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการเชิญบุคคลที่เกี่ยวเข้ามาให้ข้อเท็จจริงด้านกระบวนการยุติธรรมที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายหรือไม่
หลังจากออกจดหมายเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมการพิจารณา มีหลายคนที่ไม่มาร่วมประชุมด้วยแน่นอน อย่าง พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาตัวของนายทักษิณ ก็จะไม่มาร่วมการประชุมด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะมาหรือไม่คงไม่สามารถหยุดให้ กมธ.แสวงหาความจริงได้
นายรังสิมันต์ ยืนยันว่าเรื่องนี้กระทบกับความเชื่อมั่นของกระบวนการยุติธรรมของไทย มีฝ่ายต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องและไม่สามารถสืบหาความจริงได้ ทาง กมธ.มีความชอบธรรมในการแสวงหาความจริงต่อไป
ส่วนกรอบการพิจารณาในเรื่องนี้ ไม่ได้วางกรอบไว้อย่างชัดเจน อยู่ที่ข้อมูลที่ได้รับมา ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 129 กมธ.มีความชอบธรรมและมีอำนาจในการแสวงหาข้อเท็จจริง การพิจารณาเรื่องเดิม 7 ครั้งก็เคยทำมาแล้ว อยู่ที่ข้อเท็จจริงในการทำหน้าที่ของ กมธ.ถ้าทุกฝ่ายมาให้ข้อมูลจะเป็นประโยชน์กับตนเอง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ และอยากให้เข้ามาชี้แจงรวมถึงตอบคำถามของคณะ กมธ. เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องตัวเอง จากคำครหาหรือแม้แต่ในทางกฎหมายด้วย
...
ตอนนี้การพิจารณาวางไว้ 2 ประเด็นหลัก อย่างประเด็นการเจ็บป่วยของนายทักษิณว่าป่วยจริงหรือไม่ ถ้าป่วยจริงก็ต้องพิจารณาต่อไปว่าสิ่งไหนเข้าข่ายการไปพักรักษาตัวที่ชั้น 14 ได้บ้าง ส่วนประเด็นต่อมาการไปพบปะกับผู้คนต่าง ๆ เพราะการอยู่ชั้น 14 หมายถึงการอยู่เพื่อควบคุมตัวใช่หรือไม่ เสมอเหมือนกันอยู่ในความดูแลของกรมราชทัณฑ์ แต่ที่มีการพบปะเหมือนอยู่บ้านคิดว่าเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
อย่างกรณี พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ไปพบนายทักษิณที่ชั้น 14 ก็เห็นว่ายังไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ เลย กมธ.ก็ต้องเอาข้อเท็จจริงนี้ออกมา และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. หรือบิ๊กโจ๊กก็ตกลงที่จะมาร่วมให้ข้อมูลด้วย จะได้ถามข้อมูลด้วยเช่นกัน เพราะในช่วงเวลานั้นถือว่าเป็นบุคคลที่มีบทบาทหน้าที่หลากหลายอย่าง
แม้ว่ากรมราชทัณฑ์จะยืนยันว่าการพักรักษาตัวของนายทักษิณ จะไม่เคยปล่อยให้คลาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว นายรังสิมันต์ ยิ้มและตอบคำถามนี้ว่า ถ้าสมมติว่าจะโต้ว่าไม่จริง ก็ต้องบอกว่าสิ่งที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่เป็นความจริงหรือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีความสามารถพิเศษที่จะเข้าไปเยี่ยมนายทักษิณได้ ดังนั้นใครโกหกหรือใครพูดเป็นความจริงหรือไม่ จะได้มาค้นหาข้อเท็จจริง กระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องสำคัญกับประเทศชาติมากเป็นกระดูกสันหลัง
ขณะนี้ ยังไม่ได้เห็นข้อมูลอะไรมากมีการลิสต์คำถามมาได้ไม่เกิน 10-20 ข้อ หากได้ข้อมูลอะไรการแสวงหาเพิ่มเติมว่าต้องเรียกเอกสารอะไรคงไม่ใช่เรื่องที่ยาก แต่ ป.ป.ช.ที่ขอเอกสารไป ยังเจออุปสรรค น่าคิดเหมือนกันว่าการทำหน้าที่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ไม่ต้องกลัวอะไรให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงพยานหลักฐานน่าจะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุด
ส่วนกฎหมาย PDPA ที่ตำรวจอ้างเพื่อไม่ต้องให้ข้อมูล ซึ่ง กมธ.ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ซึ่งก็สามารถเข้าถึงเอกสารหลักฐานได้ต่าง ๆ อยู่แล้วหากไปดูเนื้อในของกฎหมายของ PDPA ไม่ได้หมายความว่าไม่มีข้อยกเว้นเลย ดังนั้นจะมาอ้างเรื่องนี้ไม่ได้ รวมไปถึงการไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่รัฐ หรือรัฐมนตรีก็อาจเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า จะไม่ไปให้ข้อมูลต่อกมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ เนื่องจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบสวนเรื่องนี้แล้ว ตนให้ข้อมูลพร้อมนำหลักฐานส่งให้ป.ป.ช.หมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ข้อมูลกับกมธ. เชิญตนมาให้ข้อมูลคงไม่เหมาะ ในกมธ.มีคนจากพรรคเพื่อไทยเข้าร่วม เป็นลูกน้องนายทักษิณ เกรงความลับจะรั่วไหล