กมธ.อุตสาหกรรม หนุน “เอกนัฏ” ออกกฎหมายจัดการกากอุตสาหกรรม เพิ่มโทษผู้ทำผิดกฎหมาย ลุยปราบปรามจริงจัง สร้างความยั่งยืนด้านอุตสาหกรรมของประเทศ
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยกรรมาธิการการอุตสาหกรรม แถลงข่าวถึงการจัดการกากของเสียอุตสาหกรรม ว่า จากกรณีเมื่อไม่กี่วันมานี้มีการเข้าตรวจค้นรวมถึงปราบปรามผู้กระทำความผิดจากกรณีการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งปิดโรงงานของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในพื้นที่อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี จนนำมาสู่การจับกุมรวมถึงตรวจยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม เคยลงพื้นที่ไปยังโรงงานนี้ครั้งหนึ่ง และกำชับให้ดำเนินการตามมาตรฐาน รวมถึงกฎหมายอย่างเคร่งครัด ต่อมามีการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม แต่ผู้ประกอบการยังลักลอบเปิดโรงงานจนนำมาสู่การตรวจค้นและจับกุมดังกล่าว อีกทั้งยังตรวจพบกากของเสียอุตสาหกรรมอันตรายที่มีน้ำหนักรวมมากกว่า 41 ตัน
นายอัครเดช ระบุต่อไปว่า จังหวัดปราจีนบุรี เป็นหนึ่งในจังหวัดที่จะต้องมีการดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อเป็นต้นแบบของการปราบปรามการจัดการกากของเสียอุตสาหกรรมที่ไม่ถูกต้อง เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากมลภาวะต่าง ๆ ซึ่งทาง นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มีแนวนโยบายชัดเจนว่าจะต้องปราบปรามการกำจัดของเสียที่ไม่ถูกวิธีอย่างจริงจัง เพื่อคืนน้ำที่สะอาด คืนอากาศที่บริสุทธิ์ให้กับพี่น้องประชาชน ทางคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม เห็นด้วยกับแนวนโยบายดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง เพราะก่อนหน้านี้มีหลายครั้งที่การจัดการกากของเสียอุตสาหกรรมไม่ถูกวิธีนำมาซึ่งอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งทางคณะกรรมาธิการมีความห่วงใยเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในกิจการเกี่ยวกับการจัดการกากของเสียอุตสาหกรรมหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว (โรงงานประเภท 101 105 และ 106) และได้ติดตามอย่างใกล้ชิดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เหตุการณ์พบสารแคดเมียม เรื่อยมาจนถึงการพบสารอลูมิเนียมดรอส โดยมีการเสนอให้แก้ไขพระราชบัญญัติโรงงาน ซึ่งคาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในการประชุมสมัยหน้า
...
นอกจากนี้ ยังได้รับทราบว่ากระทรวงอุตสาหกรรมภายใต้การนำของ นายเอกนัฏ จะมีการเสนอกฎหมายอีกฉบับในเรื่องนี้ด้วย คือ พ.ร.บ.จัดการกากของเสียอุตสาหกรรม ซึ่งต้องขอชื่นชมและสนับสนุนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มีวิสัยทัศน์ในการจัดการกากของเสียอุตสาหกรรม เพื่อการจัดการกากของเสียอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน โดยจะมีการกำหนดโทษทางอาญากับผู้ที่กระทำความผิดเกี่ยวกับการจัดการกากของเสียอุตสาหกรรมอย่างหนัก เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ที่กระทำผิดเกี่ยวกับการจัดการของเสียโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ดังนั้น การเพิ่มโทษแก่ผู้กระทำผิดดังกล่าวย่อมจะทำให้การบังคับใช้ และการป้องกันการกระทำความผิดมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน มีข้อห่วงใยว่าแม้จะมีการควบคุมการจัดการกากของเสียในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม พบว่า มีการลักลอบนำเข้ากากอุตสาหกรรม เช่น ของเสียอิเล็กทรอนิกส์ และกากของเสียอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ในหลากหลายช่องทาง ข้อห่วงใยดังกล่าวมาจากการที่เจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากรไม่สามารถเปิดตู้สินค้าเพื่อตรวจสอบได้ครบถ้วน หลังจากนี้กรรมาธิการจะเร่งศึกษาเพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้มีการนำเข้ามาในประเทศได้ เพื่อไม่ให้กากของเสียอุตสาหกรรมสามารถทำลายสิ่งแวดล้อม และสร้างมลภาวะให้แก่พี่น้องประชาชน
“ขอเรียนไปยังพี่น้องประชาชนที่ติดตามการทำงานของคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม ว่า ทางคณะกรรมาธิการดำเนินการทำงานในเรื่องการจัดการกากของเสียอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงขอชื่นชมในการทำงานของ นายเอกนัฏ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม ที่เอาจริงเอาจังกับการปราบปรามการจัดการของเสียอุตสาหกรรมที่ผิดกฎหมาย เพื่อปกป้องพี่น้องประชาชนจากมลพิษที่จะเกิดขึ้น”